สิ่งที่แปลกประหลาดนั้นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ
แม้แต่เหมิงเอ้าและเจินฮ่าวก็ยังมองออกและรู้สึกว่าแม่ทัพผู้นี้ชอบอยู่กับส่วนรวมมากเกินไปหรือเปล่า?
ตามที่พวกเขารู้ แม่ทัพทุกคนล้วนมีความน่าเกรงขามในตนเอง
แม้ว่าจะรักทหารในกองทัพราวกับลูกชาย แต่ก็ไม่มีทางมาอยู่ร่วมกับทหารในกองทัพเช่นนี้
ทหารพวกนี้ช่างโชคดียิ่งนัก โชคดีที่ได้อยู่กับแม่ทัพที่น่าสนใจเช่นนี้
ในเวลานี้ กองทัพต้าเว่ยได้เข้ามาในเขตสายตาการซุ่มโจมตีของกองทัพซินเจียงแล้ว
กองทัพซินเจียงซ่อนตัวอยู่บนภูเขา บนก้อนหินสูง บนต้นไม้ใหญ่ ราวกับว่านักล่าที่กำลังจ้องมองเหยื่อ ดวงตาของพวกเขาเป็นประกาย
มาแล้ว! มาแล้ว! กองทัพต้าเว่ย พวกมันมาแล้ว!
กองทัพซินเจียงให้สัญญาณกันโดยไม่ใช้เสียง เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดสงคราม
และสิ่งที่ทำให้พวกเขาต้องตกตะลึงก็คือ กองทัพต้าเว่ยไม่ได้เป็นเหมือนที่พวกเขาคิด ไม่ได้เดินตามเส้นทางเข้ามาใกล้กับพวกเขา
ภายใต้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง กองทัพต้าเว่ยแยกเป็นสองทาง ยกปืนขึ้นมาเล็งไปที่พวกเขา
บ้าที่สุด!
พวกเขาถูกจับได้โดยที่ไม่ทันได้ทำอะไร และไม่รู้ตัวเลยงั้นหรือ!
กองทัพต้าเว่ยช่างเก่งกาจยิ่งนัก!
หากตอนนี้ยังไม่ลงมือ งั้นต้องรอไปถึงเมื่อไหร่?
ในเมื่อถูกเจอตัวแล้ว พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนอีกต่อไป ยืนขึ้นมาเพื่อพร้อมรับการต่อสู้
ภาพความสงบสุขเพิ่งจะเข้ามาได้ไม่นาน กลับถูกทำลายในชั่วพริบตา
ทันใดนั้น ลูกธนูก็บินว่อนไปทั่วท้องฟ้า เสียงดาบปะทะกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แน่นอน สิ่งที่ดังกึกก้องมากที่สุดในแก้วหูก็คือเสียงปืน
เมื่อเหนี่ยวไกปืน เสียงปืนดังขึ้น เสียงครวญครางก็ดังขึ้นมาด้วยเช่นกัน
นี่เป็นครั้งแรกที่กองทัพซินเจียงได้เห็นอาวุธประเภทนี้ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความสงสัย นี่มันอะไรกัน?
แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยหรือ?
เห็นได้ชัดเลยว่ามันดีกว่าธนูหลายร้อยเท่า!
เหตุใดต้าเว่ยถึงมีอาวุธแบบนี้ แต่ซินเจียงกลับไม่มี?
ซินเจียงไม่เพียงแค่ไม่มีเท่านั้น แต่พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้าเว่ยมีของเล่นชนิดนี้อยู่
ด้วยความไม่รู้ ทำให้กองทัพต้าเว่ยที่เหนือกว่าอยู่แล้วได้เปรียบยิ่งขึ้นไปอีก
ไม่แปลกเลยที่เมืองอีหลินจะพ่ายแพ้ในระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งวัน ตอนนั้นพวกเขายังคงสับสนอยู่เลยด้วยซ้ำ
แม้จะเคยได้ยินมาว่ากองทัพต้าเว่ยมีอาวุธที่ทรงพลัง แต่ก็ไม่เคยเห็นด้วยตาตัวเอง ทำได้แค่จินตนาการเท่านั้น ซึ่งทำให้กองทัพซินเจียงไม่อาจจินตนาการถึงลักษณะและความยอดเยี่ยมของมันได้
เสียงปืนที่ดังขึ้นทำให้ความคิดของพวกเขากลับมาอย่างรวดเร็ว
หากลูกปืนพุ่งเข้ามาที่ศีรษะ พวกเขาจะต้องตายโดยไม่มีข้อแม้!
การปรากฏตัวของปืนสามารถฆ่าชีวิตของทหารซินเจียงได้โดยไม่ทันระวัง มีทั้งตาย มีทั้งบาดเจ็บ หากไม่ตายหรือบาดเจ็บก็เอาแต่หลบหนี ไม่อาจตอบโต้ได้เลยแม้แต่น้อย
การต่อสู้ครั้งนี้ กองทัพซินเจียงเป็นฝ่ายถูกกระทำ
แต่เนื่องจากกองทัพซินเจียงนี้เป็นกองทัพที่มีหน้าที่คุ้มกันวังหลวง แน่นอนว่าพวกเขาแข็งแกร่งว่ากองทัพของเมืองอีหลินเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะเรื่องความปราดเปรียว พวกเขาถือว่าเป็นคนที่ยอดเยี่ยม
การต่อสู้เพิ่งจะเริ่มต้นได้ไม่นาน ทหารของกองทัพซินเจียงที่ยังรอดชีวิตก็สามารถหาวิธีรับมือกับปืนได้แล้ว รู้ว่าต้องหลบซ่อนหรือกำบังอย่างไรถึงจะรอดพ้นจากกระสุนปืน
ในขณะเดียวกัน พวกเขายังใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศในการโจมตีตอบโต้กองทัพต้าเว่ย
เป็นผลทำให้กองทัพต้าเว่ยถูกกองทัพซินเจียงสังหารไปเป็นจำนวนมาก
และด้วยเหตุนี้เอง กองทัพซินเจียงทำให้กองทัพต้าเว่ยโกรธเป็นอย่างมาก
เนื่องจากเห็นกันอยู่ว่า อาวุธของกองทัพต้าเว่ยนั้นล้ำสมัยกว่ากองทัพซินเจียงอยู่หลายขุม
ยิ่งไปกว่านั้น การซุ่มโจมตีครั้งนี้ก็มีทหารของกองทัพซินเจียงอยู่ไม่มาก เต็มที่ก็แค่สามพันนายเท่านั้น แถมยังอยู่อย่างกระจัดกระจาย
ดังนั้นกองทัพต้าเว่ยจึงพักค้างแรมกันอยู่ที่นี่
จากการคาดเดาของเซียวเฉวียน เมื่อทหารที่รอดชีวิตของกองทัพซินเจียงกลับไปถึงด่านซุ่มโจมตีต่อไป ตอนนั้นก็คงจะมืดแล้ว
หลังจากนั้น เมื่อกองทัพซินเจียงรอจนเห็นว่ากองทัพต้าเว่ยนั้นไม่ได้บุกเข้ามา ต่อให้พวกเขาคิดเปลี่ยนแผน ต้องการบุกเข้ามาเพื่อโจมตีกองทัพต้าเว่ย กว่าพวกเขาจะมาถึง ตอนนั้นมันก็คงสายไปแล้ว
เมื่อกองทัพซินเจียงมาถึงที่นี่ ท้องฟ้าก็คงจะสว่างไปแล้ว
เมื่อถึงเวลานั้น กองทัพต้าเว่ยที่พักผ่อนเต็มที่จะเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ เนื่องจากกองทัพซินเจียงต้องเดินทางมาทั้งคืน สภาพจิตใจและร่างกายย่ำแย่ สู้กองทัพต้าเว่ยไม่ได้ พวกเขาก็ต้องตามหลังกองทัพต้าเว่ยไปอีกก้าวหนึ่ง
เมื่อมีการต่อสู้ แน่นอนว่าจะต้องนึกถึงสิ่งที่ตนเองได้เปรียบมากกว่าเป็นประการแรก
ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงว่ากองทัพซินเจียงจะเลื่อนจุดซุ่มโจมตีไปด้านหลังหรือไม่ก็เลื่อนขึ้นมาด้านหน้า แต่ไม่มีทางเลือกที่จะบุกเข้ามาแอบโจมตีกองทัพต้าเว่ยในเวลากลางคืน
ดังนั้นกองทัพต้าเว่ยสามารถพักผ่อนอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายใจ
แน่นอน ต่อให้สบายใจแค่ไหนก็ต้องจัดยามคอยระวัง ทุกอย่างต้องปฏิบัติอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเป็นไปตามการคาดเดาของเซียวเฉวียน กองทัพซินเจียงไม่ได้บุกเข้ามาในช่วงกลางคืน
วันรุ่งขึ้น กองทัพต้าเว่ยเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง
ยิ่งเดินทางไปด้านหน้า ต้นไม้และหญ้ามากมายก็เติบโตอยู่ทั้งสองฝั่งของถนน
ในสมัยโบราณ ถนนหลายเส้นก็เป็นแบบนี้
ท้องถนนที่เป็นเส้นทางระหว่างเมืองสองเมือง ตรงด้านหน้าของเมืองจะเป็นถนนที่กว้างใหญ่ สะอาดเหมือนกับถนนในเมือง ไม่มีต้นไม้หรือหญ้าขึ้นข้างทาง
แต่เมื่อมาถึงช่วงกลางของเส้นทาง ทั้งสองข้างก็จะรกร้างขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
แต่สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายของเซียวเฉวียนก็คือ หลังจากเดินทางมาได้ประมาณครึ่งวัน มาถึงจุดที่เซียวเฉวียนเคยสำรวจไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่กลับไม่พบกับการซุ่มโจมตี
แต่กองทัพต้าเว่ยก็ยังพบร่องรอยของการซุ่มโจมตีอยู่ทั้งสองฝั่งของถนน
แต่กลับไม่เห็นใครเลย
เซียวเฉวียนเดาว่า บางทีพวกเขาอาจจะถอยกลับไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...