ทีแรกคิดจะไว้ชีวิตหมิงเจ๋อและปล่อยให้เขาเอาตัวรอดเอง
แต่ไม่คิดว่าเขาจะกระเสือกกระสนริหาความตายถึงขนาดนี้
ถ้าเซียวเฉวียนไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ ต้องระวังตัวเซียวเฉวียน นักปราชญ์อยากจะตบฟาดหมิงเจ๋อให้ตายคามือจริงๆ
คิดถึงตรงนี้ สีหน้าของนักปราชญ์ก็โหดเหี้ยมดูน่ากลัว
ถึงจะมองไม่เห็น แต่หมิงเจ๋อก็สัมผัสรู้สึกได้
พูดตามตรง แค่เซียวเฉวียนก็มากพอที่จะทำให้หมิงเจ๋อขยาดแล้ว ตอนนี้มีนักปราชญ์เพิ่มมาอีก วิทยายุทธ์ของทั้งสองคนล้วนหาได้ยากในโลกด้วย
ไม่ว่าใคร หากมาตีหมิงเจ๋อ หมิงเจ๋อล้วนสู้ไม่ได้
หมิงเจ๋อชักจะใจเสียซะแล้ว
ตอนนี้เขายังคิดอยากมีชีวิตอยู่จริงๆ
มีชีวิตอยู่เท่านั้น ถึงจะสามารถแก้แค้นได้
แต่ว่า ทำยังไงเขาถึงจะอยู่รอดอย่างมีชีวิต ?
นี่คือปัญหา
เขาคิดไม่ถึงว่า นักปราชญ์ไม่ได้คิดจะทำอะไรกับหมิงเจ๋อเลยตอนนี้
เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านักปราชญ์คือเซียวเฉวียน หากเซียวเฉวียนฉวยโอกาสที่นักปราชญ์กำลังลงมือกับหมิงเจ๋อมาจู่โจมนักปราชญ์ นักปราชญ์จะป้องกันตัวไม่ทัน !
นักปราชญ์มองดูเซียวเฉวียนอย่างตื่นตัวเป็นอย่างยิ่ง
เซียวเฉวียนยิ้มๆ และพูดว่า "ทำไมท่านปราชญ์ถึงมองเซียวแบบนี้ ?"
บนหน้าของข้ามีดอกไม้บานหรือไง ?
นักปราชญ์นิ่งเฉย
ในเวลานี้ หมิงเจ๋อได้คลำถึงข้างหน้าต่าง กำลังเตรียมจะเปิดหน้าต่างและหลบหนี
เซียวเฉวียนเลิกคิ้วขึ้นพูดว่า "มองอยู่ได้ คนที่ลอบกัดท่านกำลังจะหนีแล้ว"
ได้ยินคำพูดของเซียวเฉวียน หมิงเจ๋อก็ตัวสะดุ้งทีหนึ่ง แต่เขาตอบสนองอย่างว่องไวและปีนขึ้นไปด้วยมือข้างเดียวถึงบนหน้าต่าง
เซียวเฉวียนคิดไม่ถึงจริงๆ คนพิการเช่นนี้ยังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วขนาดนี้
เห็นได้ว่า ในช่วงที่เขาหายตัวไป เขาก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ
เพื่อให้ชีวิตอยู่รอดและแก้แค้น หมิงเจ๋อก็ดิ้นรนหนักเอาการอยู่
นักปราชญ์ได้ยินเสียงที่หมิงเจ๋อปีนขึ้นไปบนหน้าต่าง แต่เขาไม่กล้าหันไปมองหมิงเจ๋อ เขากลัวว่าเซียวเฉวียนจะทำอะไรแอบๆ
ก็เพราะอย่างนี้ หมิงเจ๋อจึงได้มีเวลาหลบหนี
เซียวเฉวียนแซวว่า "ท่านปราชญ์ไม่ไปตามหรือ ?"
”ให้โอกาสท่าน เซียวจะให้เวลาท่านไปจัดการกับหมิงเจ๋อก่อน”
นักปราชญ์ทำตาหยี ด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ
ปากของเซียวเฉวียน หลอกคนไปทั่ว
ผู้คนที่อยู่ใต้หล้านี้ ใครไม่รู้ว่าเซียวเฉวียนไม่เคยเล่นตามกิจวัตร สิ่งที่เขาพูด ไม่สามารถเชื่อได้
ใครหรือจะยอมละทิ้งโอกาสในการลอบโจมตีอันยอดเยี่ยมนี้และไม่ทำการจู่โจม ?
เว้นแต่ว่าน้ำได้ท่วมสมอง
แต่สมองของเซียวเฉวียนนั้นไหวทันยิ่งกว่าผี
หมิงเจ๋อไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อนักปราชญ์มากนัก เขาหนีก็ให้เขาหนีไป ภูเขาลำธารยังอยู่คงเดิม ต้องมีวันที่เจอเขาอีก แค้นที่เขามาลอบกัดครั้งนี้ วันข้างหน้าค่อยสะสางก็ไม่สาย
ขณะนี้ การรักษาชีวิตไว้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ดังนั้น นักปราชญ์จึงยังไม่สะทกสะท้าน
ไม่ พูดให้ถูกคือ ใจของเขาสะท้านอยู่และกำลังคิดว่าจะสลัดเซียวเฉวียนให้หลุดอย่างไร
ในสมองของนักปราชญ์กำลังหมุนติ้วถึงวิธีที่จะหลบหนี
ในจังหวะช่องว่างนี้เอง เซียวเฉวียนก็เฟี้ยวทีผันตัวหายไปในพริบตา
รอนักปราชญ์ไหวตัวทัน กำลังจะยกเท้าหน้าขึ้น เซียวเฉวียนก็คว้าตัวหมิงเจ๋อย้อนกลับมาแล้ว
เขามองหน้านักปราชญ์อย่างภาคภูมิใจ
นี่มันความเร็วเวทย์มนตร์อะไรขนาดนี้ !
หมิงเจ๋อซึ่งถูกหิ้วมาในมือของเซียวเฉวียนยังดิ้นรนไม่หยุด "เซียวเฉวียน ! ปล่อยนายแกลงเดี๋ยวนี้ !"
หมิงเจ๋อคิดว่าเขาหลบหนีได้สำเร็จ เพิ่งจะเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ถูกเซียวเฉวียนหิ้วกลับมาอย่างง่ายดาย
น่าโมโหยิ่งนัก !
ได้ยินปั๊บ เซียวเฉวียนก็ปล่อยมืออย่างเชื่อฟังจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...