ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1764

เสวียนอวี๋รู้สึกดีขึ้นมาก

แต่เนื่องจากครั้งนี้เป็นการบาดเจ็บภายใน อาการของมันจึงค่อนข้างสาหัส

แม้ว่าพลังภายในของเซียวเฉวียนจะสามารถบรรเทาความเจ็บปวดของเขาได้

แต่เสวียนอวี๋ก็ยังรู้สึกเหนื่อยล้า เปลือกตาของเขามีน้ำหนัก ไม่สามารถยกขึ้นได้โดยง่าย

เขาเองก็อยากให้ร่างกายของเขามีชีวิตชีวาขึ้นมา แต่ร่างกายของเขากลับไม่เชื่อฟัง

เสวียนอวี๋พึมพำออกมาอย่างงงงวย “ท่านอาเซียว ไม่ต้องกังวล ข้าได้นอนสักพักก็จะดีขึ้นเอง”

เซียวเฉวียนยังรู้สึกไม่สบายใจ เขาพูดคุยกับผนึกจูเสินผ่านกระแสจิตว่า “บรรพชน เสวียนอวี๋จะไม่เป็นอะไรใช่หรือเปล่า?”

ผนึกจูเสินตอบกลับมาด้วยเสียงทุ้ม “ไม่เป็นไร เหมือนกับที่เขาพูด นอนพักสักพักเดี๋ยวก็หาย”

ล้อเล่นบ้าอะไรกัน พลังภายในที่ใส่เข้าไปในร่างกายของเสวียนอวี๋เมื่อครู่มันพลังภายในของผนึกจูเสินอยู่ด้วย มีผนึกจูเสินคอยปกป้อง เขาจะเป็นอะไรไปได้อย่างไร?

ได้ยินเช่นนั้นเซียวเฉวียนก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาทันที

แต่เสวียนอวี๋ เด็กคนนี้ก็หลับไปแล้ว

เซียวเฉวียนวางเขาลงบนเตียง ให้เขาได้นอนหลับพักผ่อนให้สบาย

แต่เซียวเฉวียนก็ไม่ได้จากไป คอยให้การคุ้มกันอยู่ข้างเตียงของเขา

ด้วยความแข็งแกร่งของเสวียนอวี๋ แม้เสวียนอวี๋จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนักปราชญ์ แต่เขาก็ไม่ควรถูกนักปราชญ์โจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้

ความแข็งแกร่งของนักปราชญ์ เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ ไม่ถึงหนึ่งเดือน เหตุใดถึงได้พัฒนาได้รวดเร็วถึงเพียงนี้?

ดูเหมือนว่าคงจะเก็บนักปราชญ์ไว้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

หากปล่อยเขาให้เป็นเช่นนี้ต่อไป เซียวเฉวียนเกรงว่าในอนาคตคงไม่อาจทำอะไรเขาได้

เนื่องจากเขาได้เห็นผลลัพธ์ของการฝึกวิชาของนักปราชญ์ด้วยตาของตัวเองแล้ว และมันก็สุดยอดมากจริงๆ

เซียวเฉวียนคิดคำนวณอยู่ในใจว่าควรจะจัดการกับนักปราชญ์อย่างไร

เวลาดำเนินต่อไป ผ่านไปแบบนั้นเงียบๆ

เสวียนอวี๋หลับไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม

ในที่สุดเขาก็ตื่นขึ้นมา

และที่ตื่นขึ้นมาก็เป็นเพราะความหิว!

เขาลืมตาขึ้นมา พึมพำด้วยน้ำเสียงอันแหบแห้ง “น้ำ ขอน้ำ”

เซียวเฉวียนรีบรินน้ำให้เสวียนอวี๋ จากนั้นก็นำไปป้อนให้เขา

“ท่านอาเซียว มีอะไรให้ข้ากินบ้างไหม? ข้าหิว”

หลังจากได้รับการบำรุง ในที่สุดเสียงของเสวียนอวี๋ก็กลับมาเป็นเหมือนปกติ แต่เมื่อลองฟังดูให้ดีก็จะรู้ว่าเขายังอ่อนแออยู่เล็กน้อย

เซียวเฉวียนตอบกลับไป “มี”

ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นและเดินออกมา จากนั้นก็ถือโจ๊กเข้ามาหนึ่งถ้วย

หากจะเรียกว่าโจ๊ก เรียกว่าข้าวต้มคงจะดีกว่า

เสวียนอวี๋เงยหน้าขึ้นและพูดอย่างเหลือเชื่อ “ดื่มเจ้านี้งั้นหรือ?”

เซียวเฉวียนพยักหน้า “อ่า เจ้าดื่มมันไปก่อน อย่างน้อยก็เพื่อรองท้อง”

ภูเขาจงหนานแห่งนี้เป็นพื้นที่ที่ยากจน เซียวเฉวียนพยายามค้นหาอย่างสุดความสามารถแล้ว สุดท้ายก็เจอแค่ของพวกนี้

และข้าวต้มถ้วยนี้ก็เป็นของที่เหลือจากเซียวเฉวียน

เขาคิดว่าเมื่อเสวียนอวี๋ตื่นขึ้นมา เสวียนอวี๋จะต้องรู้สึกหิวเป็นแน่

ไม่อย่างนั้นเซียวเฉวียนก็คงจัดการมันไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

หรือพูดอีกอย่างก็คือ หากเสวียนอวี๋ตื่นขึ้นมาช้ากว่านี้อีกสักประมาณครึ่งวัน เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วเขาก็คงไม่ได้พบกับข้าวต้มถ้วยนี้

เนื่องจากเสวียนอวี๋หมดสติ เซียวเฉวียนจึงไม่กล้าทิ้งเขาไว้ที่นี่เพียงลำพัง และไม่กล้าออกไปไหน

เพิ่งจะฟื้นจากอาการบาดเจ็บ แต่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้

เซียวเฉวียนอยากจะหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา

แต่ก็เหมือนกับที่เซียวเฉวียนพูด มีข้าวต้มสักถ้วยให้ดื่มก็ถือว่าไม่เลวแล้ว

ข้าวต้มก็คือข้าวต้ม เสวียนอวี๋สามารถดื่มมันเข้าไปได้ภายในอึกเดียวโดยไม่ต้องใช้ช้อนเลยด้วยซ้ำ

ที่ก้นถ้วยมีข้าวติดอยู่สองสามเม็ด เสวียนอวี๋สูดมันเข้าไปจนหมดในลมหายใจเดียว

เมื่อข้าวต้มถ้วยนี้ตกถึงท้อง ความหิวก็หายไปในพริบตา เสวียนอวี๋เองก็มีพละกำลังเพิ่มขึ้นไม่น้อย

เซียวเฉวียนพูดออกมาว่า “รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง?”

เสวียนอวี๋ลองเคลื่อนไหวร่างกายของตนเอง จากนั้นก็ตอบกลับมาด้วยแววตาที่เปล่งประกาย “ดีขึ้นมาแล้ว ไม่มีอะไรผิดปกติ”

งั้นก็ดีแล้ว

ความวุ่นวายของชาวบ้าน จะบอกว่าเป็นเรื่องใหญ่ก็ไม่ใช่ เป็นเรื่องเล็กก็ไม่เชิง

แต่หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปก็คงไม่ใช่วิธีการในการแก้ปัญหา

แต่ฮ่องเต้ก็มีความคิดเป็นของตัวเอง พวกเขาไม่กล้าทวงถาม ทำได้เพียงรอคำสั่ง รอให้เบื้องบนเสนอวิธีการแก้ปัญหาลงมาเท่านั้น

ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลใด สองวันที่ผ่านมา จำนวนชาวบ้านที่เรียกร้องให้คนของราชสำนักเดินทางไปยังภูเขาจงหนานเพื่อจับกุมเซียวเฉวียนจึงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

พวกเขาบอกว่าเซียวเฉวียนอยู่บนภูเขาจงหนาน

เซียวเฉวียนจะอยู่บนภูเขาจงหนานได้อย่างไร?

เห็นได้ชัดว่าเซียวเฉวียนเดินทางไปที่ซินเจียง

ในตอนนี้ เรื่องที่กองทัพเว่ยควบคุมพื้นที่ทั่วทั้งซินเจียงยังไม่ได้แพร่งพรายออกไป

ดังนั้นผู้คนจึงรู้ว่าเซียวเฉวียนเดินทางไปยังซินเจียง แต่ไม่รู้ว่าเรื่องราวที่ซินเจียงได้สิ้นสุดลงแล้ว และไม่มีทางรู้เลยว่าแท้จริงแล้วเซียวเฉวียนอยู่บนภูเขาจงหนาน

และเรื่องที่เซียวเฉวียนอยู่บนภูเขาจงหนาน แน่นอนว่าข่าวลือดังกล่าวเป็นฝีมือของนักปราชญ์

ในเมื่อชาวบ้านที่มาสร้างความวุ่นวายอยู่ที่ตีนเขาได้สร้างความวุ่นวายติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายวัน และมั่นใจว่าเซียวเฉวียนได้สังหารผู้คน เช่นนั้นนักปราชญ์จึงใส่ไฟและโยนความผิดให้กับเซียวเฉวียนมากยิ่งขึ้น!

หลายวันที่ผ่านมา ศาลาว่าการปิดสนิท ไม่เห็นแม้แต่เงาของคน

สิ่งนี้ทำให้ความโกรธของชาวบ้านรุนแรงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

เห็นได้ชัดว่าทางการต้องการที่จะปกป้องเซียวเฉวียน!

หลังจากปาไข่เน่าและผักเน่าติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายวัน ก็ยังไม่มีใครปรากฏตัวออกมาแม้แต่คนเดียว ทำให้ชาวบ้านอดสงสัยไม่ได้ว่าด้านในมีคนอยู่หรือไม่

ดังนั้นพวกชาวบ้านจึงนำกำแพงมาเพื่อปืนขึ้นไป ดูว่าสถานการณ์ด้านในเป็นอย่างไรบ้าง

แม้ว่าเหล่าชาวบ้านที่ยืนอยู่ใต้กำแพงจะได้กลิ่นเหม็นจากด้านใน แต่เนื่องจากมีกำแพงกั้นอยู่ ความแตกต่างระหว่างด้านในกำแพงกับด้านนอกกำแพงจึงค่อนข้างชัดเจน

ทันทีที่คนปีนขึ้นไปบนกำแพง เขาก็อดไม่ได้ที่จะอาเจียนออกมาราวกับสายน้ำ

นี่อาจกล่าวได้ว่าเป็นการทรมานตัวเองทางอ้อม

คนที่ปีนขึ้นไปบนกำแพงไม่อาจทนต่อกลิ่นเหม็นที่เกิดขึ้นได้จริงๆ เขารีบลงมาจากกำแพงอย่างรวดเร็ว

จากกลิ่นเหม็นที่ลอยขึ้นมาเหนือกำแพง คนที่ปีนกำแพงขึ้นไปกล้าบอกได้อย่างมั่นใจว่าไม่มีใครอยู่ด้านใน

หากมีคนอยู่ด้านใน คนพวกนั้นก็คงตายไปนานแล้ว!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย