ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1776

เขาที่กำลังผัดกับข้าวอยู่ และไม่สามารถควบคุมได้ว่ากับข้าวที่ผัดอยู่จะอร่อยหรือไม่ วางทัพพีลง และเดินตรงไปอยู่ตรงหน้าเซียวเฉวียน ดวงตาเป็นประกายพูดว่า “พี่ใหญ่ ท่านมาได้อย่างไร?จะมาก็ไม่บอกข้าก่อน”

เซียวเฉวียนยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ตัดสินใจกระทันหัน”

อาสือเรียกให้เซียวเฉวียนนั่งลงก่อน และก็เพิ่งจะเห็นว่าข้างๆเขามีคนๆหนึ่งอยู่ด้วย

โย่ว เด็กชายคนนี้หน้าตาดีจริงๆ

รออีกไม่กี่ปี โตขึ้นคงจะเป็นชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งเลยทีเดียว

แต่ว่า ในสายตาของอาสือ เสวียนอวี๋มีสีหน้าเย็นชา มองดูแล้วเข้ากับคนอื่นได้ยาก

แต่เป็นคนที่เซียวเฉวียนพามาด้วย ก็เหมือนกับเป็นพี่น้องครอบครัวเดียวกัน

อาสือกระตือรือร้นเข้าไปทักทายบอกให้เสวียนอวี๋นั่งลงก่อน ยิ้มและพูดว่า “น้องชายคนนี้ ชื่ออะไร?”

เสวียนอวี๋พูดว่า “เสวียนอวี๋”

“เจ้าชื่ออาสือ?”

อาสือมองดูและพยักหน้า ในใจคิดว่า เซียวเฉวียนพูดถึงเขาต่อหน้าคนอื่นบ่อยๆใช่ไหม?

เมื่อคิดดังนั้น ในใจของเซียวเฉวียนก็ยังนึกถึงเขาอยู่ ทำให้อาสือรู้สึกดีใจ

แต่เสวียนอวี๋ก็เป็นคนที่ชื่นชอบเซียวเฉวียนเหมือนกัน เขาไม่ยอมให้คนอื่นเข้าใจผิดต่อไอดอลของเขา เสวียนอวี๋เหลือบมอง และพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่ เซียวเฉวียนไม่เคยพูดถึงเจ้าต่อหน้าข้ามาก่อน”

ความหมายเห็นได้ชัดเจน ที่ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นใคร เพราะข้ามีความสามารถรู้ได้ด้วยตัวเอง

ทำไมจะต้องดูโกรธแบบนี้ด้วย?

อาสือมีสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจเล็กน้อยมองเสวียนอวี๋ เขากลับเปลี่ยนเป็นยิ้ม และพูดว่า “พี่ใหญ่ พวกท่านนั่งก่อน ข้าจะไปทำอาหารก่อน”

เซียวเฉวียนพยักหน้า พูดว่า “อื้ม เจ้าไปทำเถอะ อย่าลืมใส่เนื้อเยอะๆนะ”

ในที่สุดก็ออกมาจาอันหยวน ได้มีอาหารที่สดใหม่กินแล้ว

ไม่เพียงแค่เสวียนอวี๋ เซียวเฉวียนก็ไม่ค่อยชอบอาหารของอันหยวน

แต่อาหารที่อันหยวนมีจำกัด เซียวเฉวียนก็ทำได้เพียงเท่านี้

และอีกอย่าง ก็ไม่อยากทำให้ทาสคุนหลุนเสียน้ำใจ

อาสือได้ยินดังนั้น ก็ชะงักไปชั่วขณะ จะให้ใส่เนื้อมากแค่ไหน ไม่มีจริงๆ

เซียวเฉวียนมาไม่ถูกจังหวะเวลาจริงๆ ถ้าเขามาเร็วกว่านี้ อาสือก็คงจะซื้อเนื้อกลับมามากกว่านี้แล้ว

ตอนนี้เป็นเวลาใกล้ค่ำแล้ว ร้านด้านนอกที่ขายผักขายเนื้อก็เก็บไปหมดแล้ว

อาสือรู้สึกลำบากใจพูดว่า “พี่ใหญ่ ในบ้านมีเนื้อยู่ไม่มาก อาหารค่ำก็มีเพียงเท่านี้ พรุ่งนี้ข้าจะรีบออกไปซื้อกลับมาเยอะๆ ท่านคิดว่าอย่างไร?”

เซียวเฉวียนมองไปทางเสวียนอวี๋ เหมือนกับว่ากำลังพูดกับเสวียนอวี๋ ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากดูแลให้เจ้าได้กินเนื้อ เพราะพวกเรามีข้อจำกัดเรื่องวัตถุดิบจริงๆ

เสวียนอวี๋พูดอย่างเห็นอกเห็นใจว่า “ได้ วันนี้มีเท่าไรก็เท่านั้น พรุ่งนี้รีบไปซื้อกลับมาให้เยอะๆ”

ชายหนุ่มคนนี้ดูท่าทางสงบเยือกเย็น แต่ที่จริงแล้วพูดอะไรไปก็เข้าใจได้อย่างง่าย

อาซือรีบตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “ได้!”

พูดจบ อาสือก็เดินเข้าไปในห้องครัว

และตามหลังมาด้วยเสียงพูดของเสวียนอวี๋ที่ยังไม่ยอมแพ้ว่า “มีไข่ไหม?ทอดไข่มาหลายๆใบก็จะดีมาก”

ตอนนี้เป็นช่วงเวลาของการเจริญเติบโต ร่างกายย่อยอาหารได้อย่างรวดเร็ว หิวเร็ว และบวกกับว่าตอนอยู่ที่อันหยวนหิวโหยมาหลายวัน เสวียนอวี๋หิวมากจริงๆ

เนื้อไม่พอ เอาไข่มาแทนก็ได้

อาสือพูดตอบว่า “ได้เลย!”

เวลาเพียงไม่นาน อาสือที่คล่องแคล่วว่องไวก็ทำอาหารเสร็จแล้ว

แต่เมื่อเห็นจำนวนอาหารที่อยู่บนโต๊ะแล้ว เสวียนอวี๋ตกตะลึง ทำไมถึงน้อยอย่างนี้?

ผู้ชายตั้งสามคน แต่มีอาหารแค่นี้?

จะอิ่มได้อย่างไร?

เสวียนอวี๋กินหมดคนเดียว ก็กินอิ่มไปเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

เห็นว่าท่าทางของเสวียนอวี๋ที่มีบ้างอย่างแปลกไป อาสือรู้สึกกังวลพูดขึ้นว่า “คุณชายน้อย มีอะไรผิดปกติ?”

และในขณะนั้น อาสือก็หันไปมองเซียวเฉวียน

เซียวเฉวียนยิ้มและพูดว่า “ไม่มีอะไร เขาแค่รู้สึกว่าอาหารที่เจ้าทำหอมอย่างมาก จะต้องอร่อยอย่างแน่นอน เขารู้สึกว่าเจ้าทำอาหารมาน้อยไป”

ที่จริงแล้วปริมาณอาหารที่อาสือทำ เพียงพอสำหรับที่จะให้ผู้ชายธรรมดาสามคนกิน

เป็นเด็กที่มีมารยาท ก็เป็นสิ่งที่ดี

เสวียนอวี๋รับรู้ได้ถึงสายตาของเซียวเฉวียนที่มองมา เขาเงยหน้าขึ้นมองเซียวเฉวียน ยิ้มและพูดว่า “ลุงเซียว มองข้าแบบนี้ทำไม?กินข้าวเถอะ”

พูดจบ เสวียนอวี๋ก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ

รออาสือต้มบะหมี่เสร็จ อาหารบนโต๊ะก็คงหมดเกลี้ยงแล้ว

ครั้งนี้ อาสือได้รับบทเรียนแล้ว ต้มบะหมี่ในปริมาณสำหรับสามคนกิน

เขาคิดทบทวนว่า ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรเสวียนอวี๋และเซียวเฉวียนก็น่าจะพอกินแล้ว?

ต้มให้มากขึ้น ก็ไม่สามารถทำให้เสวียนอวี๋และเซียวเฉวียนอิ่มได้

ในเมื่อทั้งสองคนนานๆจะมาที่นี่ครั้งหนึ่ง

สิ่งที่ทำให้อาสือประหลาดใจก็คือ เขาต้มบะหมี่ไปมากมาย กินหมดไม่เหลือเลย

สองคนนี้ หิวโหยมากี่วันแล้ว?

ห๊ะ?

ติดตามเซียวเฉวียน ทำไมถึงได้หิวโหยอย่างนี้?

ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้

อาสือมองดูชามที่ว่างเปล่า พยายามระงับความประหลาดใจเอาไว้ในใจ ถามขึ้นว่า “พี่ใหญ่ พวกท่านอิ่มแล้วใช่ไหม?”

ถ้ายังไม่อิ่ม ข้าจะไปต้มบะหมี่เพิ่ม

เซียวเฉวียนยิ้มและพูดว่า “อิ่มแล้ว”

อาสือพยักหน้าครุ่นคิด ในใจคิดว่า พรุ่งนี้จะต้องซื้อเนื้อกลับมาเยอะๆ

พรุ่งนี้จะต้องเป็นวันที่จะต้องใช้จ่ายเงินอย่างมาก

หลังจากที่กินอิ่มแล้ว อาสือรายงานสถานการณ์การเก็บเกี่ยวของที่นี่

ปริมาณพริกมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก อาสือเอาไปตากแห้งส่วนหนึ่ง และเหลืออีกส่วนหนึ่งเอาไปทำเป็นน้ำพริก และนำออกไปขาย

เพิ่งจะเริ่มทำ เนื่องจากประชาชนไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องพริก ดังนั้นจึงยังขายไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ ก็มีความคิดขึ้นมา คิดวิธีการโฆษณาขึ้นมาได้วิธีหนึ่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย