ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1802

เซียวเฉวียนพยักหน้าและกล่าวว่า "อืม พวกเขากำลังเดินทาง น่าจะใกล้ถึงเมืองมู่อวิ๋นแล้ว"

พูดให้ถูกต้องก็คือ ทั้งเจ็ดเมืองจะมีไพร่คุนหลุนไปเยือน

จากนี้ไป ไพร่คุนหลุนจะมาอาศัยอยู่ร่วมกับทุกคน หลอมเข้าไปในทุกกลุ่มคน

เราทุกคนล้วนเป็นลูกหลานชาวประชาต้าเว่ย ไพร่คุนหลุนก็ไม่ควรถูกดูหมิ่นกีดกันรุนแรงเยี่ยงนี้

ไพร่คุนหลุนไม่เพียงแต่จะอาศัยอยู่ร่วมกับชาวบ้านทั่วไป รุ่นเยาว์ของพวกเขาก็สามารถไปโรงเรียนและรับการศึกษาได้เช่นเดียวกับลูกหลานของชาวบ้านทั่วไปด้วย

เริ่มแรกนั้น อาจเป็นเรื่องยากเล็กน้อยที่จะให้ทุกคนยอมรับไพร่คุนหลุน

แต่ถ้ามีพวกท่านคหบดีช่วยเหลือสงเคราะห์ เรื่องก็จะง่ายขึ้นกว่าเป็นอันมาก

สำหรับชาวบ้านทั่วไป สถานะของคหบดีถือว่าสูงพออยู่แล้ว หากพวกเขาไม่ผลักไสไพร่คุนหลุน นำหน้าทำให้เขาเลียนแบบ ทุกคนก็จะยอมรับไพร่คุนหลุนได้อย่างรวดเร็ว

ด้วยวิธีนี้ ไพร่คุนหลุนที่มาอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเหล่านี้ ก็จะไม่ติดขัดทุกฝีก้าว ถูกเขาเมินหน้าหนี

เซียวเฉวียนต้องการให้พวกเขาหลอมเข้ากับชีวิตกลุ่มคนโดยเร็ว จึงคิดหาวิธีออกมาได้เช่นนี้

ได้ยินปั๊บ นัยน์ตาของท่านเซว้แวบดูซับซ้อนขึ้นมา พูดตามตรง เขาก็ดูถูกพวกไพร่คุนหลุนมากเช่นกัน

ไพร่คุนหลุนจะมาเมืองมู่อวิ๋น เขาก็เริ่มรู้สึกลำบากใจแล้ว แต่เมืองมู่อวิ๋นออกจะกว้างใหญ่ ต้องมีที่ให้พวกเขาไปอยู่ได้แน่

ขอเพียงพวกเขาไม่มาเพ่นพ่านต่อหน้าคหบดี คหบดีก็พอจะมองผ่านๆ ไปบ้าง

แต่ตอนนี้เซียวเฉวียนเอ่ยปากมาขอให้พวกเขาช่วยเหลือสงเคราะห์ไพร่คุนหลุน ยังจะให้ลูกหลานของไพร่คุนหลุนเข้าโรงเรียนและเรียนกับลูกๆ หลานๆ ของพวกเขาด้วยหรือ ?

ท่านเซว้แสดงออกว่ามันยากที่จะยอมรับได้ บอกว่าเขาทำไม่ได้

เมื่อได้ยิน เซียวเฉวียนก็เริ่มเข้าสู่กระบวนล้างสมองให้พวกเขา "อันที่จริงไพร่คุนหลุนมีจิตใจที่ดีและมีน้ำใจมาก"

”พวกเขาเกิดมาพร้อมกับพลังเหนือคนทั่วไป หากพวกท่านอยู่ร่วมกับพวกเขาอย่างสงบสุขได้และให้พวกเขารู้ซึ้งถึงความเมตตาของพวกท่าน พวกเขาจะจดจำบุญคุณของพวกท่านไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน”

ไม่เพียงเท่านั้น ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เรียนรู้จากจุดแข็งของกันและกัน จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ไม่ดีหรือ ?

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา คหบดีทั้งสามก็อดครุ่นคิดไม่ได้

เท่าที่พวกเขารู้ ไพร่คุนหลุนมักจะอยู่อย่างเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่เคยก่อปัญหาแต่ใดๆ

จากประเด็นนี้ พวกเขาก็ไม่ควรมีความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ต่อไพร่คุนหลุนมากนัก

เมื่อเห็นสภาพ เซียวเฉวียนจึงถือโอกาสตีเหล็กกำลังร้อน "นอกจากนี้ การเกิดไม่ใช่สิ่งที่คนสามารถเลือกได้ หากพวกเขามีทางเลือก พวกเขาก็คงไม่อยากเกิดมาเป็นไพร่คุนหลุน"

”ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน มนุษย์ด้วยกันไม่ควรมีการเลือกปฏิบัติที่ลึกซึ้งขนาดนี้”

”ไม่ว่าเงินทอง อำนาจ ก็เป็นเพียงสิ่งนอกกาย หากปราศจากสิ่งเหล่านี้แล้ว มีใครบ้างที่ไม่ใช่มีเพียงชีวิตเดียว ?”

ประโยคสุดท้ายนี้ทำให้ดวงตาของคหบดีเซว้ส่งประกายสว่างขึ้นทันที เขาไม่คิดว่า เซียวเฉวียนเป็นถึงมหาราชครู เป็นเจ้าของโรงเรียนชิงหยวน มีสถานะสูงขนาดนี้ แต่กลับมีความคิดเช่นนี้

คหบดีเซว้อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจยิ่งนัก

พูดตามหลักแล้ว ผู้มีสถานะสูงส่งอย่างเซียวเฉวียน ยิ่งจะดูหมิ่นดูแคลนไพร่คุนหลุนยิ่งกว่าพวกเขาอีกมิใช่หรือ ?

แต่เซียวเฉวียนไม่ แถมยังพูดแทนพวกเขา วางแนวทางให้พวกเขาอีกด้วย

ในเวลานี้เอง ในที่สุดคหบดีเซว้ก็เข้าใจว่าทำไมเขาถึงลือว่าเซียวเฉวียนไม่คำนึงถึงที่ต่ำที่สูง

แต่ว่า คำว่าไม่คำนึงถึงที่ต่ำที่สูง สำหรับที่ท่านเซว้ไม่ได้มีความหมายเชิงลบ แต่มีความหมายในเชิงสรรเสริญ

เซียวเฉวียนไม่คำนึงถึงที่ต่ำที่สูง ก็เหมือนกับที่เขาพูด ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกันหมด

ในสายตาของเซียวเฉวียน ไม่ว่าท่านจะเป็นจักรพรรดิ หรือว่าอัครเสนาบดี หรือว่าชาวบ้านธรรมดา ก็คือแค่คนคนหนึ่ง ไม่มีอะไรแตกต่าง

ดังนั้น เขาถึงถูกลือว่าเป็นคนไม่คำนึงถึงที่ต่ำที่สูง

เช่นเดียวกับตอนนี้ ทั้งๆ ที่เซียวเฉวียนมีสถานะเป็นถึงมหาราชครู แต่เขาไม่ได้ใช้สถานะมาข่มขี่ผู้อื่น และคำพูดของเขาก็ยังเกรงใจผู้อื่น

คหบดีเซว้รู้สึกว่า ที่เซียวเฉวียนพูดนั้นมีเหตุผลดีมาก

เป็นคนโบราณ คหบดีเซว้ที่เห็นด้วยกับคำพูดของเซียวเฉวียนได้นั้น ถือว่าหาได้ยากจริง

เมื่อร่างของเซียวเฉวียนหายไปต่อหน้าพวกเขา คหบดีหลี่ก็ถามด้วยความอยากรู้ว่า "ท่านเซว้ ท่านคงไม่ใช่ตกลงเรื่องนี้จริงๆ ที่จะช่วยไพร่คุนหลุนใช่ไหม ?"

คหบดีเซว้นั้นยอมรับไพร่คุนหลุนจากใจจริงแล้ว แต่ท่านหลี่และท่านจ้าวไม่ใช่

พวกเขาคิดว่าคหบดีเซว้น่าจะแค่ยอมตกลงไปทางวาจาก็เท่านั้น

แต่เมื่อดูสีหน้าของท่านเซว้ ดูไม่เหมือนแค่ตกลงทางวาจา

ทั้งสองต้องการรู้ให้แน่ใจ

คหบดีเซว้มองดูทั้งสองด้วยแววตาอันลึกซึ้งแล้วพูดว่า "ทำไมจะไม่ล่ะ"

ความหมายก็คือ เขาเอาจริง

คำตอบนี้ทำให้คหบดีทั้งสองตกตะลึง พวกเขางงมากและไม่เข้าใจว่าทำไมท่านเซว้ถึงไปเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้

คหบดีเซว้กล่าวว่า "เซียวเฉวียนไม่ใช่คนธรรมดา ลองคิดดู ในช่วงสองปีมานี้ เขาได้ทำสิ่งที่โลกแตกตื่นมาเท่าไรแล้ว ?"

กล่าวได้ว่า ไม่ว่ามีอะไรเกี่ยวข้องกับเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนจะเป็นผู้ได้ชัยในที่สุด

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เรื่องนี้หากพวกเขาไม่ตอบตกลง เซียวเฉวียนก็จะคิดหาวิธีอื่นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเขาจนได้

แทนที่จะเป็นเช่นนั้น ทำไมท่านเซว้จะไม่กระทำไปตามกระแส ในเวลาเดียวกันยังได้น้ำใจจากเซียวเฉวียนด้วยล่ะ ?

เหตุผลหลักคือ คหบดีเซว้รู้สึกว่าทฤษฎีของเซียวเฉวียนที่ว่าทุกคนถือกำเนิดมาเท่าเทียมกันนั้น เขาชื่นชมมาก

แน่นอน ไม่ใช่ทุกคนที่จะยอมรับความคิดแบบนี้ได้ อย่างน้อยในสภาพแวดล้อมกว้างใหญ่นี้ มีคนน้อยมากที่จะยอมรับได้ ก็อย่างคหบดีสองคนนี้ ก็เป็นเช่นนี้

ดังนั้น ประเด็นนี้ท่านเซว้จึงไม่ได้คุยกับพวกเขา ยังไม่มีความจำเป็นในตอนนี้

มาพูดถึงหลังจากที่เซียวเฉวียนกลับมาที่โรงเตี๊ยมและเล่าเหตุการณ์ให้เจี้ยนจงและพวกฟังแล้ว พวกเจี้ยนจงต่างชื่นชมในความสามารถของเซียวเฉวียนในการปฏิบัติงานอย่างนับถือจริงใจ

โดยเฉพาะชิงหลง เขาอดไม่ได้ที่จะศรัทธาในตัวเซียวเฉวียนมากยิ่งขึ้นไปอีก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย