ถ้าไม่เห็นแก่เสวียนจิ้งที่ห่ออาหารกลับมาให้ นักปราชญ์คงจะทีท่าทีโกรธเสวียนจิ้งไปแล้ว
ชายหนุ่มคนหนึ่ง พูดจาไม่เด็ดขาดชัดเจน ไม่เป็นลูกผู้ชายเอาซะเลย!
ได้ยินดังนั้น เสวียนจิ้งกัดฟันและพูดว่า “อาจารย์ ถ้าข้าพูด ท่านจะต้องไม่โกรธข้านะ”
เสวียนจิ้งกลัวว่านักปราชญ์จะโกรธโมโหอย่างมาก
ถ้าพูดแบบนี้ เรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับนักปราชญ์?
นักปราชญ์มีสีหน้ารำคาญและพูดว่า “รีบพูดมา!”
ถูกนักปราชญ์พูดใส่แบบนี้ เสวียนจิ้งรู้สึกตกใจ พูดอย่างระมัดระวังว่า “ตามทางที่ข้ามาที่นี่ เห็นในหมู่บ้านมีรูปภาพวาดของท่านติดอยู่เต็มไปหมด”
รูปภาพวาดของข้า?
นักปราชญ์รู้สึกว่าจะต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างแน่นอน
เขาขมวดคิ้ว ดวงตาทั้งสองข้างมองเสวียนจิ้งอย่างเยือกเย็น และพูดว่า “พูดต่อสิ”
รายละเอียดที่เขียนอยู่ในภาพเสวียนจิ้งยังไม่ได้บอก นักปราชญ์ก็รู้สึกโกรธแล้ว ถ้าเขาได้รู้ว่าใต้ภาพเขียนบรรยายถึงนักปราชญ์ว่าอย่างไร คงจะโกรธโมโหเป็นอย่างมาก ?
เพื่อความปลอดภัย เสวียนจิ้งค่อยๆก้าวขยับออกห่างเล็กน้อย รักษาระยะห่างระหว่างนักปราชญ์ไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงความโกรธที่อาจจะประทุออกมา
อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง ในระยะใกล้โดนนักปราชญ์ตะคอกพูดเสียงดังใส่ เสวียนจิ้งสะดุ้งตกใจเป็นอย่างมาก
รักษาระยะห่างความปลอดภัยเอาไว้ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก
เสวียนจิ้งแอบเหลือบมองนักปราชญ์เงียบๆ ต่อด้วยค่อยๆพูดเนื้อหาที่อยู่ภายใต้รูปวาดทีละคำให้นักปราชญ์ฟัง
ฟังไปจนถึงตอนสุดท้าย สีหน้าของนักปราชญ์ก็ยังมีท่าทางดูแย่มาก สีหน้าดูเหมือนจะโกรธโมโหขึ้นมาอีกครั้ง
เขามองเสวียนจิ้งอย่างน่ากลัว เป็นเวลานานถึงจะพูดขึ้นว่า “เจ้าแน่ใจนะว่าไม่ได้ดูผิดไป?”
ดูผิด?
เป็นไปไม่ได้!
เสวียนจิ้งพยักหน้าอย่างมั่นใจและพูดว่า “ไม่ผิดแน่นอน”
ถ้าไม่เป็นเพราะว่ามีคนมากมาย กลัวว่าจะเป็นที่ดึงดูดสนใจจนทำให้ถูกจับได้ เสวียนจิ้งอยากจะเอาภาพวาดกลับมาด้วย
มีภาพเพื่อมาแสดงว่าเป็นเรื่องจริง
ได้ฟังอย่างนั้นแล้ว นักปราชญ์ก็เชื่อเสวียนจิ้งอย่างไม่มีข้อสงสัยอีกแล้ว
ไม่ต้องถามก็รู้ ว่า “เรื่องดีๆแบบนี้”!จะต้องเป็นเซียวเฉวียนที่เป็นคนทำ
บ้าชะมัด!
เซียวเฉวียน!
คิดแผนการค้นหาแบบนี้ออกมาได้!
คราวนี้ เมื่อติดรูปภาพวาดของนักปราชญ์ นักปราชญ์ก็จะต้องพยายามปิดบังหน้าตา หรือไม่สามารถเปิดเผยหน้าตาได้
ทำได้เพียงเหมือนกับหนู มีชีวิตแอบอยู่ในที่ที่ไม่มีคนหรืออยู่ในมุมมืด
โหดร้ายบีบบังคับจนหมดหนทาง กลั่นแกล้งกันมากเกินไปแล้วจริงๆ!
ไร้เหตุผลสิ้นดี!
เซียวเฉวียนทำแบบนี้ต่อนักปราชญ์ นักปราชญ์โกรธโมโหอย่างมาก!
เรื่องเป็นอย่างนี้แล้ว ชื่อเสียงของนักปราชญ์ที่สะสมมาหลายสิบปีก็ถูกทำลายจนหมดสิ้น!
นักปราชญ์เป็นเจ้าสำนักของสำนักหมิงเซียน เป็นตัวแทนแห่งสวรรค์!
ถูกเซียวเฉวียนทำลายชื่อเสียงอย่างนี้ ทำให้เขาโกรธจนสั่นไปทั้งตัว!
น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นอย่างมาก “งั้นเจ้าพบร่องรอยของเซียวเฉวียนและพวกของเขาบ้างหรือไม่?”
ทำลายชื่อเสียงของนักปราชญ์ถึงขนาดนี้ นักปราชญ์จะไม่ยอมอีกแล้ว!
ไม่สามารถปล่อยเซียวเฉวียนไว้ได้อีกแล้ว!
ให้เขามีชีวิตรอดอยู่อีกหนึ่งวัน ก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก
เพียงแค่เซียวเฉวียนอยู่ลำพังคนเดียว นักปราชญ์ต้องการฆ่าเซียวเฉวียน ก็มีโอกาสสามารถทำได้สำเร็จ
เสวียนจิ้งส่ายหน้า และพูดว่า อาจารย์ท่านอยากจะฆ่าเซียวเฉวียนตอนนี้?”
กลัวว่าจะไม่สามารถทำได้ ข้างกายของเซียวเฉวียนตอนนี้มีเสวียนอวี๋และไป๋ฉี่ที่เก่งกาจมาก และยังมีเจี้ยนจงกับชิงหลงอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...