เสี่ยวเซียวชิวเป็นดาบวิญญาณที่มีสถานะไม่ธรรมดา และความแข็งแกร่งที่เหนือชั้นเป็นเลิศ
หากว่านักปราชญ์และลูกศิษย์ของเขารู้ว่าเสี่ยวเซียนชิวอยู่ที่เกาะนกกระสา ด้วยนิสัยของพวกเขาจะต้องคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่
จะต้องคิดว่าที่เกาะนกกระสามีบางสิ่งที่สำคัญเป็นแน่ และสำคัญถึงขนาดเซียวเฉวียนให้เสี่ยวเซียนชิวอยู่ที่นี่
หากพวกเขามีความคิดนี้ พวกเขาจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน
ขอแค่พวกเขาตั้งใจไปสืบค้น จะต้องหาตัวเซียวจิงเจออย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้นจะต้องไม่ให้นักปราชญ์และลูกศิษย์ของเขารู้ว่าเสี่ยวเซียนชิวอยู่ที่เกาะนกกระสาเป็นอันขาด
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เสี่ยวเซียนชิวก็โล่งใจที่เธอไม่ได้ทำอะไรโดยพละการ และไปปรากฏตัวต่อหน้านักบุญ
ไม่เช่นนั้นจะเป็นกลายเจตนาดีแต่ดันก่อปัญหาแทน
เสี่ยวเซียนชิวก็รับปาก “ลูกรู้แล้ว!ท่านพ่อ !”
หลังจากที่ทั้งสองจบบทสนทนาแล้ว เซียวเฉวียนก็บอกเจี้ยนจงและคนอื่นๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ทันที
ไอ้แก่ตายยาก!
ช่างรวดเร็วยิ่งนัก นี่ถึงขนาดไปถึงเกาะนกกระสาเลยเหรอ!
เจี้ยยจงอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างโมโหว่า “ ไป ! พวกเราไปเยี่ยมเขาหน่อยเถอะ!”
ช่างกล้าสิ้นดี คิดที่จะเปลี่ยนเป้าหมายไปที่เกาะนกกระสา!
เกาะนกกระสานั้นเป็นถิ่นดินแดนของเซียวเฉวียนเลยนะ!
หากนักปราชญ์ทำลายพืชผลทั้งหมด เซียวเฉวียนจะต้องแบกรับความสูญเสียเท่าไร?
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญ สิ่งสำคัญคือเซียวจิงอยู่ที่เกาะนกกระสา และจะต้องไม่ถูกนักปราชณ์ค้นพบตัวเธอ!
เซียวเฉวียนก็มีความตั้งใจนี้ ดังนั้นทั้งสองคนจึงเตรียมออกเดินทางไปที่เกาะนกกระสาทันที
และแน่นอนเสวียนอวี๋ก็ต้องติดตามไปด้วยเป็นเรื่องธรรมดา
แต่เซียวเฉวียนห้ามไม่ให้พวกเขาติดตามไปด้วย และขอให้พวกเขาอยู่ที่หูโจวหมู่บ้านคุนหลุนแทน เผื่อป้องกันนักปราชญ์ย้อนมาโจมตีอย่างไม่ทันทั้งตัว
ไป๋ฉี่อาจไม่สามารถต้านทานเพียงลำพังได้
แต่ว่าชิงหลงก็ยังคงขอติดตามไปด้วย
ที่นี่มีไป๋ฉี่อยู่ หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นที่นี่ ไป๋ฉี่ก็สามารถแจ้งเซียวเฉวียนได้ทันที เซียวเฉวียนก็สามารถดำเนินการจัดการได้ทันเวลา
นอกจากนี้ยังมีเสวียนอวี๋คอยช่วยเหลืออยู่ น่าจะถ่วงเวลาจนกำลังเสริมมาถึงได้ ไม่น่ามีปัญหาอะไร
เซียวเฉวียนไม่ยอมให้เขาไปด้วย เสวียนอวี๋จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอยู่ต่อ
เขาได้แต่มองดูเซียวเฉวียนและคนอื่นๆเดินทางไปเกาะนกกระสา
พวกเขาสามคนรู้วิชาเคลื่อนย้ายวิญญาณ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องนั่งเรือไป
ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง พวกเขาทั้งสามก็ข้ามทะเลอันกว้างใหญ่มาถึงเกาะนกกระสา
ด้านนักปราชญ์และเสวียนจิ้งอาศัยยามค่ำคืนที่มืดมิดไร้ผู้คน ลงมือแกะรูปภาพที่ติดตามท้องถนนทั้งหมดออกมาแล้วเผาทิ้ง
ในขณะที่กำลังเผาอยู่ นักปราชญ์ก็แช่งด่าว่าเซียวเฉวียนด้วยความโกรธแค้น ด่ายันโคตรเง้าบรรพบุรุษทั้งสิบแปดรุ่นของเซียวเฉวียน
ไอ้บัดซบเอ๊ย !
หลุมศพบรรพบุรุษของตระกูลเซียวต้องหาสถานที่ที่มีฮวงจุ้ยที่ดีแค่ไหน ถึงได้มีคนที่มีความสามารถยอดเยี่ยมอย่างเซียวเฉวียนเช่นนี้ได้?
แค่เด็กอายุเพียงยี่สิบปีก็สามารถจัดการนักปราชญ์ชายผู้มีชีวิตอยู่มานานหลายสิบปี และมีประสบการณ์มากมาย ให้ตกอยู่ในสถาพบอบช้ำได้ขนาดนี้!
ความสามารถของเซียวเฉวียนนั้นน่าทึ่งมาก!
หลุมศพบรรพบุรุษของตระกูลเซียวอาจจะถูกปกคลุมไปด้วยควันแล้ว!
คิดจะทำอะไรก็ต้องทำให้ถึงที่สุด ไม่งั้นก็ไม่ต้องไปทำมัน
ไหน ๆ ก็คิดจะแกะออก ก็ต้องแกะออกให้หมด กำจัดรูปภาพให้หมดทั่วทั้งเกราะนกกระสาไปเลย
เกาะนกกระสาจะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะว่าเล็กก็ไม่ได้เล็ก
หากต้องการเดินให้ทั่วทั้งเกาะนกกระสาโดยไม่พลาดสักจุดที่มีรูปภาพติดอยู่ ด้วยความเร็วของนักปราชญ์ ยังไงก็ต้องใช้ระยะเวลาสองวันขึ้นไป
กล่าวอีกนัยหนึ่ง แม้ว่าอาจารย์และลูกศิษย์จะทำทั้งวันทั้งคืน เป็นไปไม่ได้ที่จะแกะรูปภาพทั้งหมดบนเกาะนกกระสาได้หมด
ถึงกระนั้น พวกเขาทั้งสองก็ทำงานทั้งคืนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อแกะรูปภาพทีละแผ่นทีละแผ่น
อย่างไรก็ตามพวกเขาจะทำได้แค่เฉพาะช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น
ฉะนั้น แม้คืนนี้พวกเขาจะไม่ได้นอนก็ตาม ก็ต้องแกะรูปภาพออกมาให้ได้มากที่สุด
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือสิ่งที่อยู่ด้านหลังของพวกเขา เซียวเฉวียน และคนอื่น ๆ ก็กำลังแปะรูปภาพใบใหม่ทดแทนเข้าไป
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ไม่ว่านักปราชญ์และเสวียนจิ้งจะแกะไปมากแค่ไหน ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามแค่ไหน มันก็ไร้ประโยชน์
มันเป็นการเข้าใจผิดของเขา หรือมีคนกำลังแสร้งทำล่อเล้น?
เพื่อความปลอดภัย นักปราชญ์ไม่รอช้ารีบทำค่ายกลกระบี่ขึ้น โดยวางค่ายกลกระบี่ไว้รอบๆตัวเขาและเสวียนจิ้ง
จากนั้นก็ใช้ภาพลวงตาเพื่อหลอกลวงผู้อื่น และอาศัยจังหวะนี้หนีออกไปจากที่นี่
ในเมื่อนักปราชญ์ไม่สามารถพักผ่อนอย่างสงบที่นี่ได้ เขาจึงไปหาที่อื่น
เกาะนกกระสากว้างใหญ่เต็มไปด้วยสถานที่รกร้างมากมาย
ต้องบอกว่าค่ายกลกระบี่ของนักปราชญ์นั้นใช้ได้ผลจริง ๆ
ปิดกั้นการมองเห็นของเซียวเฉวียนและคนอื่นๆ ได้สำเร็จ
ใช่แล้ว การเคลื่อนไหวเมื่อกี้นี้เกิดจากความจงใจของพวกเขานั่นเอง
จุดประสงค์คือเพื่อทำให้นักปราชญ์ตกใจกลัว
แต่ทันทีที่เขาและเสวียนจิ้งซ่อนตัวอยู่ภายใต้ค่ายกลกระบี่ เซียวเฉวียนก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้อีก
แม้ว่าชิงหลงจะรู้วิชาค่ายกลกระบี่นี้ แต่ญานเขาก็ไม่สูงเท่านักปราชญ์ เขาไม่รู้ว่านักปราชญ์จะตั้งกลไกอะไรไว้ข้างใน ดังนั้นชิงหลงจึงไม่กล้าที่จะบุกเข้าไปค่ายกลกระบี่ของนักปราชญ์อย่างหุนหันพลันแล่น
ยิ่งไม่กล้าพาเซียวเฉวียนไปเสี่ยงอันตรายด้วย
ความสามารถของนักปราชญ์นั้นทำให้น่าทึ่งอยู่เสมอ และชิงหลงไม่แน่ใจว่ารูปแบบค่ายกลกระบี่ของเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าพาทุกคนไปเสี่ยง
อย่างไรก็ตามเซียวจิงอยู่ที่เกาะนกกระสา มีเพียงการไม่ให้นักปราชญ์ทำให้เซียวเฉวียนตกอยู่ในที่นั่งลำบากเท่านั้น จึงจะสามารถรับประกันความปลอดภัยของเซียวจิงได้
ฉะนั้น ทั้งสามคนได้แต่เฝ้าดูนักปราชญ์และเสวียนจิ้งหลบอยู่ในค่ายกลกระบี่
เซียวเฉวียนพูดอย่างใจเย็นว่า "ไปกันเถอะ พวกเขาหนีไปแล้ว"
ตามที่เซียวเฉวียนรู้จักนักปราชญ์อย่างดี นักปราชญ์นั้นเป็นคนที่ละเอียดอ่อน แม้ว่าเซียวเฉวียนและคนอื่นจะไม่ปรากฏตัว แต่ว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เพื่อเอาชีวิตรอดของเขา แน่นอนนักปราชญ์จะใช้โอกาสนี้เปลี่ยนที่พักใหม่
ฉะนั้น พวกเขาไม่มีความจำเป็นต้องเฝ้าอยู่ที่นี่ต่อไป
และตามการคาดเดาของเซียวเฉวียน จุดประสงค์ที่นักปราชญ์และลูกศิษย์มาที่เกาะนกกระสานั้น ก็เพื่อมาดูว่าเซียวเฉวียนมีทรัพย์สินอะไรที่เกาะนกกระสา ที่พวกเขาจะสามารถทำลายมันได้
พูดให้ชัดเจนคือ พวกเขามาถิ่นของเซียวเฉวียนนั้นเพื่อมาหาปัญหา
ตราบใดที่เสี่ยวฉวนและคนอื่นๆ ยังคงอยู่ที่เกาะนกกระสา บนพื้นที่ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเซียวเฉวียน ก็จะไม่มีปัญหาอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...