ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1825

ไม่ใช่ว่าพวกของอาสือไม่อยากดับไฟ แต่เพราะกำลังของพวกเขานั้นอ่อนแอมาก แม้ว่าพวกเขาจะพยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถทำสำเร็จ!

พวกเขาพยายามเคลื่อนไหวในความมืด ฉวยโอกาสตอนที่ไฟยังลุกลามมาไม่ถึง พยายามเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ส่วนที่เหลือ พวกเขาทำได้เพียงเฝ้ามองมันถูกไฟเผาด้วยแววตาอันเจ็บปวด

แต่สิ่งที่เลวร้ายไปกว่านั้นก็คือ เปลวไฟกำลังลุกลามมายังที่อยู่อาศัยของพวกเขา!

นี่ทำให้พวกของอาสือไม่สนใจการเก็บเกี่ยว วิ่งกลับไปยังบ้านของตัวเอง พยายามทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เปลวไฟลุกลามมายังที่อยู่อาศัยของพวกเขา

นี่มันช่างเป็นการกระทำที่ชั่วร้ายยิ่งนัก!

อยู่ดีๆ ก็เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ

ปฏิกิริยาตอบสนองแรกของชาวบ้านก็คือ นี่ไม่ใช่ภัยพิบัติ แต่มันเกิดจากฝีมือของมนุษย์

พวกเขารู้สึกว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ มันจะต้องเป็นฝีมือของนักปราชญ์และลูกศิษย์ของเขาเป็นแน่

เพราะจุดที่มีการลุกไหม้นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายจุด

ใช่ ต่อให้พวกเขาไม่ได้เห็นด้วยตาของตนเองว่านักปราชญ์และลูกศิษย์ของเขาเป็นคนวางเพลิง แต่ในใจของพวกเขารู้ดีว่าจะต้องเป็นฝีมือของสองคนนั้นเป็นแน่!

ความเกลียดชังที่พวกเขามีต่อนักปราชญ์และศิษย์ ตอนนี้มันได้พุ่งขึ้นไปสู่จุดสูงสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน!

ตอนที่รู้ว่านักปราชญ์เป็นฆาตกร ความหวาดกลัวในหัวใจของผู้คนก็เพิ่มมากขึ้น

กังวลว่าชีวิตของตนเองกำลังตกอยู่ในอันตราย

ตอนนี้เปลวไฟที่กำลังลุกไหม้ส่งผลเสียต่อผลประโยชน์ของชาวบ้านโดยตรง ตอนนี้ความหวาดกลัวในใจของพวกเขาหายไปหมดแล้ว ทั้งหมดถูกแทนที่ด้วยความเกลียดชัง!

พืชผลคือสิ่งที่ผู้คนพึ่งพาเพื่อความอยู่รอด บ้านคือที่อยู่อาศัยของพวกเขา สำหรับพวกเขาแล้ว ทั้งสองอย่างสำคัญเป็นอย่างมาก

การวางเพลิงเพื่อทำลายสิ่งที่สำคัญของเหล่าชาวบ้าน แบบนี้มันไม่เท่ากับการฆ่าชีวิตของพวกเขาไปครึ่งหนึ่งแล้วอย่างนั้นหรือ?

ขณะที่ชาวบ้านกำลังหาวิธีดับไฟไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้ พวกเขาก็สาปแช่งนักปราชญ์และศิษย์ของเขา รวมถึงบรรพบุรุษของพวกเขาอีกหลายชั่วอายุคน!

เท่านั้นยังไม่พอ มีคนบอกว่าหากทั้งสองคนตกมาอยู่ในมือของพวกเขา พวกเขาจะทรมานทั้งสองคนให้สาสม!

มันช่างไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย!

กล้าดียังไงมาทำเรื่องชั่วร้ายเช่นนี้!

ฉวยโอกาสวางเพลิงในยามดึก เห็นได้ชัดว่ามันคือการทำลายล้าง!

บัดซบที่สุด!

ส่วนเสวียนจิ้งที่เห็นเปลวไฟค่อยๆ ลุกโชนเป็นวงกว้างมากขึ้นอย่างช้าๆ ใบหน้าที่หลบซ่อนอยู่ในความมืดของเขาก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ จากนั้นก็เดินทางไปยังริมทะเลด้วยเส้นทางผ่านป่า

แสงสว่างจากเปลวไฟกินพื้นที่กว่าครึ่งหนึ่งบนเกาะนกกระสา

ค่ำคืนที่มืดสนิทเดือดพล่านไปด้วยเปลวเพลิง

หมู่บ้านกำลังถูกเพลิงไหม้ ชาวบ้านพยายามอย่างหนักเพื่อหาวิธีดับไฟ

แต่มันก็ไร้ประโยชน์

ด้วยสายลมที่รุนแรง ทำให้เปลวไฟทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แสงสว่างบนท้องฟ้าเด่นชัดกว่าเดิมมาก

ผู้ชาย ผู้หญิง คนแก่ เด็ก ทุกคนออกมายืนอยู่นอกบ้านของตัวเอง เฝ้าดูเปลวไฟที่ลุกไหม้บ้านของพวกเขาอย่างช่วยอะไรไม่ได้

เสียงสาปแช่งของเหล่าผู้ใหญ่ เสียงร้องไห้เพราะความหวาดกลัวของเด็ก พร้อมกับเสียงร้องโหยหวนของเหล่าผู้หญิงที่ดังกึกก้องทำลายค่ำคืนอันเงียบสงบ

เนื่องจากทุกคนรู้ดีว่านักปราชญ์และลูกศิษย์ของเขาอยู่บนเกาะนกกระสาแห่งนี้ ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น คนแรกที่พวกเขานึกถึงก็คือนักปราชญ์และลูกศิษย์ของเขา!

ใช้ประโยชน์จากค่ำคืนที่มืดมิดและลมแรงในการวางเพลิง ช่างเป็นวิธีการที่ชั่วร้ายเสียจริง!

มันคือการก่ออาชญากรรมครั้งยิ่งใหญ่!

หากใต้เท้าเซียวจับพวกมันได้ จะต้องให้ใต้เท้าเซียวตัดเส้นเอ็นของพวกเขา และลอกหนังพวกเขาออกมาทั้งเป็น!

การเคลื่อนไหวอันยิ่งใหญ่ ดึงดูดความสนใจของพวกเซียวเฉวียนได้สำเร็จ

เซียวเฉวียนจ้องมองมาทางที่เปลวไฟกำลังลุกไหม้ด้วยสายตาอันเยือกเย็น มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่นโดยไม่ได้ตั้งใจ!

เป็นเพราะเขาประมาทเกินไป

เขาคิดไม่ถึงว่านักปราชญ์จะใช้วิธีนี้ในการต่อสู้กับพวกเขา

เห็นได้ชัดว่านี่คือกลอุบายล่อเสือออกจากถ้ำ

แต่เซียวเฉวียนก็จำเป็นต้องออกจากที่นี่เพื่อไปช่วยดับไฟ

หากเขายังไม่ยอมไปช่วยดับไฟ เช่นนั้นความเสียหายที่เหล่าชาวบ้านได้รับคงประเมินค่าไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย