อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาไม่สามารถช่วยเซียวเฉวียนได้ ไม่สร้างปัญหาให้เขาถือว่าดีแล้ว
ดังนั้น พวกเขาจึงทำได้แค่เฝ้าดูเซียวเฉวียนและนักปราชญ์ต่อสู้ รู้สึกกังวล
ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ระวังอย่างเต็มที่ เผื่อว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจะรีบเข้าไปช่วยเซียวเฉวียน
พูดตามตรง คนที่ดูการต่อสู้นั้นตึงเครียดกว่าคนที่ต่อสู้มาก
เซียวเฉวียนไม่ได้รู้สึกตึงเครียดเลย แต่ทาสคุนหลุน กลับตึงเครียดขนาดนี้?
เซียวเฉวียนเหลือบมองด้วยหางตา อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขำขัน
ทาสคุนหลุนนั้นบริสุทธิ์จริงๆ
ด้วยเหตุนี้ เซียวเฉวียนจึงเอาใจใส่พวกเขาอย่างเต็มที่ พยายามหาทรัพยากรเพิ่มเติมให้พวกเขา
คนดีและใจดีเช่นนี้ สมควรได้รับชีวิตที่ดีกว่า
ทุกคนควรได้รับการปฏิบัติด้วยความอ่อนโยนจากโลก
การแสดงออกของพวกเขาทำให้รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซียวเฉวียน นักปราชญ์สังเกตเห็น
กล้าจดจ่อกับสิ่งอื่น ในขณะที่ต่อสู้กับเขา ยังกล้าหัวเราะ?
เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ใส่ใจนักปราชญ์เลย
เขาเก่งขนาดนี้ สามารถทำร้ายเจี้ยนจงได้แล้ว เซียวเฉวียนยังไม่ใส่ใจเขา?
ช่างหยิ่งยโส!
ความโหดเหี้ยมในดวงตาของนักปราชญ์ยิ่งทวีคูณ
โดยไม่พูดอะไร นักปราชญ์ก็เพิ่มพลังภายในอย่างเงียบๆ โจมตีเซียวเฉวียนอย่างรุนแรง
ผู้เชี่ยวชาญต่อสู้กัน สิ่งที่สำคัญคือความไวของประสาทสัมผัส
ต้องสามารถรับรู้ความผิดปกติของคู่ต่อสู้ได้ทันท่วงที แม้แต่การเปลี่ยนแปลงที่เล็กน้อยก็ตาม และต้องตอบสนองทันที
มิฉะนั้น อาจพ่ายแพ้ได้ง่าย
ดังนั้น เมื่อนักปราชญ์โจมตีอย่างรุนแรง เซียวเฉวียนจึงเพิ่มพลังภายใน
ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือด ยากที่จะแยกแยะ
หลังจากรอ อยู่ครู่หนึ่ง เซียวเฉวียนก็ยิ้มออกมาและตะโกนว่า “เจี้ยนจง”
เสียงของเจี้ยนจงทำให้เซียนตกใจ เขา รีบจดจ่อกับเสียงรอบข้าง ระวังเจี้ยนจงและชิงหลงโจมตีแบบซุ่มโจมตี
ด้วยวิธีนี้ นักปราชญ์จึงไม่สามารถทุ่มเทให้กับเซียวเฉวียนได้เต็มที่ สร้างโอกาสให้เซียวเฉวียน
เซียวเฉวียนหมุนข้อมือ ใช้ท่าทางที่รวดเร็วของดาบจิงหุนกดดาบยาวของนักปราชญ์ลงอย่างแรง จนดาบของนักปราชญ์ตกลงพื้น
ในชั่วพริบตา เซียนก็สูญเสียอาวุธ
ในขณะที่เขาประหลาดใจ เซียวเฉวียนก็รีบเข้าไปข้างหน้า ดาบจิงหุนของเขากดอยู่ที่คอของนักปราชญ์ทำให้เขาขยับไม่ได้
นักปราชญ์จ้องมองเซียวเฉวียนด้วยความโกรธแค้น “เซียวเฉวียน! เจ้าโกง!”
เด็กคนนี้เจ้าเล่ห์มาก รู้ว่านักปราชญ์กลัวเจี้ยนจง จงใจใช้ชื่อเจี้ยนจงเพื่อขู่เขา ทำให้เขาเสียสมาธิ
เขาหลงกลเซียวเฉวียน ไม่ควรเลย!
เซีวเฉวียนยิ้มอย่างเย็นชา “กลอุบายของข้า เทียบกับท่านผู้แทนสวรรค์ได้อย่างไร?”
นักปราชญ์เรื่องวางเหลิงทำได้โดยไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย
ยังกล้าอ้างตนเป็นตัวแทนของสวรรค์อีกหรือ?
ฟิ้ว!
จริงอยู่ว่าเซียวเฉวียนนั้นเจ้าเล่ห์ เพทุบาย แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ต่างจากนักปราชญ์ผู้เปี่ยมไปด้วยความดีงาม แต่กลับลงมือทำร้ายผู้บริสุทธิ์โดยไม่ปรานี!
นักปราชญ์ย่อมเข้าใจดีถึงนัยยะแฝงในคำพูดของเซียวเฉวียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...