ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1829

นักปราชญ์คิดเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง เซียวเฉวียนจะไม่รู้เรื่องนี้งั้นหรือ?

เขาได้เปิดโปงกลอุบายอย่างไร้ความปราณี “ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว ยังไงซะครั้งนี้แกก็หนีไม่พ้นหรอก”

ตกมาอยู่ในกำมือของเซียวเฉวียนแล้ว ก็ต้องยอมว่าตัวเองหน่ะโชคร้าย!

แผนการของเขาพังพินาศลงแถมยังถูกเซียวเฉวียนเปิดโปงโดยไม่ไว้หน้าอีก ใบหน้าของนักปราชญ์ก็กลั้นอารมณ์ไว้ไม่อยู่อีกต่อไป มุมปากของเขาก็หุบยิ้ม

เซียวเฉวียนนี่มันจัดการยากจริง ๆ !

แต่ถ้าหากว่านักปราชญ์หนีไม่ทันก่อนเจี้ยนจงจะมาหล่ะก็ เขาต้องถูกเจี้ยนจงถลกหนังออกเป็นชิ้น ๆ แน่!

ในเมื่อกล่อมเซียวเฉวียนไม่สำเร็จ นักปราชญ์ก็ทำได้แค่งัดท่าไม้ตายออกมา “เซียวเฉวียน ถ้าฆ่าข้า เจ้าก็ไม่มีวันรู้ที่อยู่ของกองกำลังชาวยุทธ์แท้”

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า!"

เพื่อที่จะปกปิดความหวาดกลัวในใจของเขา นักปราชญ์ก็แสร้งหัวเราะออกมา

เขารู้ว่าเซียวเฉวียนเองก็อยากรู้มาตลอดว่ากองกำลังชาวยุทธ์แท้อยู่ที่ไหนกันแน่

และหากถ้าเซียวเฉวียนอยากรู้จริง ๆ ล่ะก็มีแค่ทางเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ ติดตามนักปราชญ์

ถ้าอยากจะรู้จากปากของนักปราชญ์ นั่นคงเป็นไปไม่ได้

เพราะงั้น ถ้าเซียวเฉวียนไม่ปล่อยนักปราชญ์ไป เขาก็จะไม่มีทางรู้ที่อยู่ของกองทัพ

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นักปราชญ์คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น เซียวเฉวียนก็ฮึมขึ้นมา “เฮ่อะ! ไม่มีเจ้า ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องหากองกำลังชาวยุทธ์แท้เจอ”

กองทัพใหญ่ขนาดนั้น ถ้าไม่มีนักปราชญ์คอยสนับสนุน ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาก็ไม่สามารถซ่อนมันได้อีก !

หากไม่มีการสนับสนุน กลุ่มทหารก็คงต้องออกมาก่อจลาจลแน่

ถึงเวลานั้น เซียวเฉวียนก็จะรู้ที่อยู่ของพวกเขาเอง

เดิมทีเซียวเฉวียนยังอยากที่จะปั่นหัวนักปราชญ์ เพื่อตามหาที่อยู่ของกองทัพ ป้องกันว่ากองทัพจะไปก่อกวนประชาชนอีกด้วย

แต่ในเมื่อตอนนี้นักปราชญ์ได้ก่อกรรมทำเข็ญไว้เช่นนี้ ถ้ายังจะให้อิสระแก่เขาและให้เขาไปก่อเรื่องอะไรอีก มันก็จะขัดต่อความตั้งใจเดิมของเขาที่จะปกป้องผู้คน

ไม่สู้รีบเอาชนะนักปราชญ์ซะตั้งแต่เนิ่น ๆ

นักปราชญ์เข้าใจความหมายของเซียวเฉวียนดี และสิ่งเดียวที่เขาจะสามารถต่อรองได้ในตอนนี้ก็คือ กองทัพเท่านั้น

เพราะงั้นเขาจะไม่เลิกใช้กองทัพมาต่อรอง

เขาระงับอารมณ์ไว้และกล่าวขึ้นว่า “เซียวเฉวียน เจ้าคิดว่าข้าจะออกมาโดยที่ไม่ได้เตรียมตัวเลยงั้นหรือ?”

เสบียงอาหารของกองทัพ นักปราชญ์เองก็ได้เตรียมไว้เพียบพร้อมแล้ว เขายังได้กำชับคนไว้เรียบร้อยแล้วและกำหนดเวลาส่งเสบียงไว้แล้ว

หรือจะพูดว่า กองทัพจะไม่ขาดเสบียงเลยก็เป็นได้

นอกจากนี้ ตอนที่นักบุญได้ออกจากกองทัพมาแล้ว เขาได้กำชับนายพลไว้แล้ว ถ้าถึงเวลาที่นัดกันแล้ว นักปราชญ์ยังไม่ไปตามนัดล่ะก็ให้นำทัพไปโจมตีต้าเว่ยได้เลย

พลังการต่อสู้ของกองทัพ เซียวเฉวียนเองก็รู้ดีอยู่แล้ว

ในปีนั้น ชาวยุทธ์แท้ได้โจมตีกองทัพที่กล้าหาญทั้งห้าหมื่นคนของตระกูลเซียวจนไม่มีใครเหลือเลยซักคนเดียว !

ความสามารถในการสู้รบของกองกำลังชาวยุทธ์แท้ไม่สามารถประมาทได้เลย

ถึงแม้ต้าเว่ยจะมีอาวุธปืน มีหญ้าอสุรา แต่แล้วยังไงหล่ะ?

ต้องมีวิธีมากกว่าอุปสรรคอยู่แล้ว

พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว นักปราชญ์ก็เพียงแค่อยากใช้กองทัพมาขู่เซียวเฉวียน เพื่อให้เซียวเฉวียนปล่อยตัวเขาไป

แต่เซียวเฉวียนจะยอมให้เขาขู่ได้ง่ายขนาดนี้เชียวหรือ?

เซียวเฉวียนพูดอย่างเย็นชาว่า “งั้นเซียวเฉวียนคนนี้จะรอดู!”

จะรอดูคำนี้ ทำให้นักปราชญ์พูดไม่ออกเลยทีเดียว

นักบุญจ้องที่การลดลงเช่นเดียวกับหินในหลุมยากและเหม็นจริงๆ

นักปราชญ์ได้แต่กัดฟันมองไปที่เซียวเฉวียน เซียวเฉวียนก็แข็งเหมือนหิน ทั้งแข็งและน่าเกลียด

เขาพูดขนาดนี้ แต่เซียวเฉวียนก็ไม่ได้กังวลเลยแม้แต่นิดเดียว!

เขาไม่สนโลกเลยงั้นหรือ?

ทําไมเขาถึงไม่กลัวว่ากองทัพจะฆ่าคนและปล้นประชาชน?

ไม่ใช่ว่าเซียวเฉวียนรู้อยู่แล้วว่ากองทัพอยู่ที่ไหน?

พอคิดได้แบบนั้น ดวงตาของนักปราชญ์ก็สั่นเทา เขาได้หยั่งเชิงว่า “เจ้ารู้อะไรมา?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย