ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1830

เซียวเฉวียนกับเจี้ยนจงต่างร่วมด้วยช่วยกันผูกมัดจนนักปราชญ์ดิ้นไม่หลุด

แต่ว่า เมื่อนักปราชญ์ได้ความอิสระ พอมารับมือกับสองคนก็ไม่เหนื่อยแรงเท่าใดนัก

ถึงแม้จะยังหนีไม่หลุดในขณะนี้ นักปราชญ์จึงต้องตั้งอกตั้งใจสู้รบกันไป เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ตกไปอยู่ในมือของเซียวเฉวียน

เมื่อกี้ก็ได้ลองมาแล้ว ตกไปอยู่ในมือเซียวเฉวียน คิดจะหนี มันยากลำบากยิ่งนัก

ยิ่งกว่านั้น เซียวเฉวียนได้รับบทเรียนมาครั้งหนึ่ง ได้ประสบการณ์แล้ว นักปราชญ์จะหนียากยิ่งขึ้นไปอีก

สนามรบระหว่างสามคนนี้ เต็มไปด้วยแสงเงามีดและดาบ ลมหนาวกระโชกเป็นระลอกๆ ดูจนไพร่คุนหลุนสะดุ้งหวาดกลัว

การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ขนาดนี้ ทำให้ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงแตกตื่น

เห็นมีคนสู้รบกัน พวกชาวบ้านไม่เพียงแต่จะสับสน แต่ยังตื่นเต้นอีกด้วย

ที่สับสนคือ ทำไมเซียวเฉวียนถึงมาสู้รบกันแล้ว ?

ที่ตื่นเต้นคือ การสู้รบครั้งนี้ค่อนข้างดุเดือด เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นผู้คนต่อสู้กันในลักษณะเช่นนี้

มันดูครึกโครมมโหฬารมาก !

ดูให้ละเอียดอีกที พวกเขาจึงตระหนักได้ว่าคนที่ต่อสู้กับเซียวเฉวียนและเจี้ยนจงนั้นมีผมเผ้าและหนวดเคราล้วนเป็นสีขาว

นั่นไม่ใช่ปีศาจฆ่าคนในภาพวาดนั่นหรือ ?

เทพเจ้า !

ปีศาจฆ่าคนอยู่ในเมืองไป๋ลู่จริงๆ ด้วย ทั้งยังปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาให้เห็นจะๆ ด้วย !

มันน่าสะทกสะท้านจริงๆ !

ทีนี้ จิตใจของชาวบ้านที่มาดูความตื่นเต้นก็ชักหนักใจขึ้น และวิตกกังวลขึ้นมาทันที

ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็ถอยไปยืนห่างออกไปโดยไม่รู้ตัว โดยรักษาระยะปลอดภัยจากด้านของเซียวเฉวียน

อำนาจพลังแห่งการต่อสู้ของพวกเขาแรงมากจริง ถึงแม้พวกเขาจะยืนห่างขนาดนั้นแล้ว ยังสัมผัสได้ถึงแรงอาฆาตโชยมาเป็นระลอกๆ

ทันใดนั้น มีประกายมีเงาดาบแวบขึ้นเหนือท้องฟ้าอันมืดมิดอีกระลอก

ชาวบ้านเห็นสภาพ ต่างตระโกนร้อง "ว้าว !"

ได้ยินมาว่า เซียวเฉวียนเก่งกาจมาก

ตอนนี้ได้เห็น ดั่งที่เขาลือกันไม่ผิด

แต่ฝีมือของนักปราชญ์ก็ไม่ใช่ย่อย เขาสามารถใช้กำลังเพียงคนเดียว รับมือกับการโจมตีของเซียวเฉวียนและเจี้ยนจงได้

ไม่น่าแปลกใจที่ราชสำนักได้สั่งการให้เซียวเฉวียนมาจับนักปราชญ์

นักปราชญ์ร้ายกาจถึงขนาดนี้ ก็มีแต่เซียวเฉวียนเท่านั้นที่สามารถตีเสมอกับเขาได้

หากเป็นชาวบ้านธรรมดาอย่างพวกเขามาเจอกับนักปราชญ์ หากนักปราชญ์คิดจะฆ่าพวกเขาก็ง่ายเหมือนกับขยี้มดตัวหนึ่ง

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ชาวบ้านอดรู้สึกหนาวสั่นใจเต้นระริกไม่ได้

พวกเขามองไปที่เซียวเฉวียนและเจี้ยนจงอย่างเอาใจใส่ หวังว่าพวกเขาจะรวบนักปราชญ์ได้และนำตัวเขาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ !

กำจัดภยันตรายเพื่อประชาราษฎร์ !

การสู้รบครั้งนี้ ชาวบ้านดูกันอย่างตื่นเต้นเร้าใจ

ภายใต้การรุกรบของเซียวเฉวียนและเจี้ยนจง นักปราชญ์ดูแผ่กำลังไม่ค่อยได้ดั่งใจ

เขารู้ว่าถ้าเขายังเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาจะต้องแพ้ในไม่ช้าก็เร็ว และตกไปอยู่ในมือของเซียวเฉวียนอีกครั้ง

ไม่ได้แล้ว !

เขาต้องรีบหาทางออกจากที่นี่ให้ได้ !

พอคิดเช่นนี้ นักปราชญ์ผันกายในพริบตาเดียว มายืนอยู่บนพื้นอย่างไว

เขาคิดจะมุดดินหนี

แต่วิชาเคลื่อนตัวในพริบตัวของเซียวเฉวียนและเจี้ยนจงนั้นไวกว่าเขาอีก ทั้งสองคนได้ลงมาบนพื้นดักหน้าเขาก่อนหนึ่งก้าว มองดูนักปราชญ์ด้วยสายตาอันเยือกเย็น

เหมือนจะพูดว่า "คิดจะมุดดินหรือ ? ต้องถามพวกเราว่ายินยอมไหม !"

ทั้งสองเริ่มรุกรบนักปราชญ์โดยไม่พูดอะไรสักคำ เพื่อให้เขาไม่มีจังหวะได้มุดดินหนี

นักปราชญ์กระวนกระวายใจที่จะหลบหนี ถูกทั้งสองคนมาขวางไว้ เขาฉุนจนตากลมหนวดเคราตั้ง จำต้องรับมือกับการรุกคืบของทั้งสองคนต่อไป

ท้องฟ้าค่ำคืนที่เงียบงันไปไม่กี่วินาที กลับมาส่งประกายไฟอีกครั้ง

เสียงการต่อสู้ทำให้ค่ำคืนที่มืดแล้วยิ่งมืดลงไปอีก ทั้งเพิ่มความน่าหวาดกลัวขึ้นไม่น้อย

พวกชาวบ้านและไพร่คุนหลุนก็ดูกันทั้งตื่นเต้นและหวาดกลัวเช่นกัน

พวกเขาอธิษฐานในใจอยู่เสมอว่า เซียวเฉวียนและเจี้ยนจงจะต้องไม่ปล่อยให้นักปราชญ์หลบหนีไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย