ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1846

ขอเพียงเซียวเฉวียนวางใจ เสี่ยวเชียนชิวยินดีที่จะอยู่ในเกาะนกกระสาต่อ

หากว่ากันจริง ๆ แล้ว นักปราชญ์ช่างเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก เป็นดั่งที่เซียวเฉวียนกล่าวเอาไว้มิมีผิด เมื่อเขารู้ว่าเสี่ยวเชียนชิวมีความสามารถพิเศษเช่นนี้ เขาย่อมพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อปกปิดร่องรอยตัวตนของตนเอง

มิใช่ว่าเสี่ยวเชียนชิวอยากจะควานหาเขาก็จักทำได้อย่างง่ายดายเช่นเดิมไม่

ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว การค้นหาเบาะแสโดยมิมีจุดหมายของเสี่ยวเชียนชิวเช่นนี้ ย่อมถือว่าเป็นการเสียเวลา

มิสู้นางเชื่อฟังคำสั่งของเซียวเฉวียน รั้งอยู่ในเกาะนกกระสาต่อไป อีกด้านก็เพื่อปกป้องเซียวจิง ในขณะที่อีด้านหนึ่งก็คอยจับตามองความเคลื่อนไหวภายในเกาะนกกระสาต่อไป

พวกเขาทั้งสามคนพลันพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเซียวเฉวียนจึงกำชับสั่งการให้เสี่ยวเชียนชิวดูแลตนเองดี ๆ แม้แต่เซียวจิงเองก็ต้องดูแลตัวเองดี ๆ เช่นกัน

พร้อมทั้งเซียวเฉวียนที่หันกายเดินออกจากบ้านที่เซียวจิงอาศัยอยู่ไป

แน่นอนว่าการจากไปของเซียวเฉวียนนั้น มิอาจให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ได้

ห้ามมิให้ผู้ใดรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเซียวจิง

เพื่อที่จะซ่อนและปกปิดการมีตัวตนอยู่ของเซียวจิงนั้น ไม่เพียงแต่เซียวเฉวียนจักกำชับมิให้เซียวจิงไปช่วยเหลืออาสือนั้น เขายังกำชับกับอาสือด้วยว่าห้ามเอ่ยถึงเซียวจิง

ผู้คนมีหลายตาปากที่เอ่ยย่อมมากวาจา

เซียวเฉวียนหาได้นึกกังวลว่า หากทาสคุนหลุนล่วงรู้เข้าจักทำการขายข่าวของเซียวจิงไม่ แต่เขาเป็นกังวลว่าคนพวกนั้นจักเผลอหลุดปากพูดออกมาต่างหาก

ดังนั้น ยิ่งคนรู้เรื่องนี้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดีมากเท่านั้น

หลังจากกลับมาแล้วนั้น เซียวเฉวียนจึงฉวยโอกาสช่วงที่ตนเองมีเวลาว่าง พาเจี้ยนจงออกไปมองหาสถานที่ที่เหมาะสมในการสร้างสถานศึกษาแทน

ในระหว่างทางนั้น เจี้ยนจงพลันเอ่ยถามถึงคำถามที่เขาอยากจะถามมาโดยตลอดว่า "เหล่าเซียว เจ้ากล่าวว่าหลังจากที่จักสร้างสถานศึกษาภายในแต่ละรัฐของเจ็ดรัฐใหญ่แล้วนั้น เจ้าจักไปสร้างสถานศึกษาที่ต้าเว่ยและที่ซินเจียงอีกหรือไม่?”

เซียวเฉวียนพลันพยักหน้าลงตอบกลับในทันที "ใช่"

เจี้ยนจงพลางเลิกคิ้วขึ้นมาน้อย ๆ ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเบาว่า "เจ้ายอมออกเงินมากมายเพียงนั้นเลยหรือ?"

ในความคิดของเจี้ยนจงนั้น ค่าใช้จ่ายภายในเจ็ดรัฐใหญ่ บางทีฝ่าบาทอาจจะออกเงินเพื่อช่วยเหลือแก่เซียวเฉวียนบ้าง

ทว่า หากเป็นทั่วทั้งต้าเว่ยนั้นจนรวมไปถึงที่ซินเจียงแล้ว ด้วยค่าใช้จ่ายทำนี้ สำหรับสถานการณ์ของต้าเว่ยในยามนี้รวมไปถึงต้าเว่ยในอีกสิบปีข้างหน้านับว่าเป็นเงินก้อนใหญ่ยิ่งนัก

หรืออาจจะใช้เวลานานมากกว่านี้ด้วยซ้ำ

หากว่ากันตามจริงแล้ว ถึงแม้ว่าเงินก้อนนี้จักเป็นเซียวเฉวียนที่ออกไปก่อน แต่ฝ่าบาทก็คงมิอาจหามาคืนให้ได้หรอกกระมัง

ท้ายที่สุดแล้ว เหยื่อก็คือเซียวเฉวียน

อีกประเด็นหนึ่งก็คือ เซียวเฉวียนสามารถทำเงินได้มากมายด้วยตนเองเช่นนี้ เขามิกังวลว่าฝ่าบาทจักทรงหวาดระแวงในตัวเขาหรืออย่างไร?

เซียวเฉวียนมีพลังอำนาจมากก็นับว่ามากพอแล้ว เขายังร่ำรวยเกินกว่าแว่นแคว้นของตนเองไปอีก!

ไม่เพียงเท่านั้น ภายในตระกูลของเขายังมีผู้คนมากความสามารถมากมายอีกด้วย รวมไปถึงผู้ที่สามารถผลิตปืนขึ้นมาได้เช่นมู่จิ่น

ถึงแม้ว่ามู่จิ่นจักมิได้สร้างปืนขึ้นมาจริง ๆ ทว่า คำพูดนี้เป็นคำพูดที่เซียวเฉวียนเอ่ยออกมาด้วยตนเอง ไม่ว่าผู้ใดก็ย่อมเชื่อในคำพูดของเขา

มิใช่เรื่องเกินจริงเลยที่จะกล่าวว่า เซียวเฉวียนแข็งแกร่งกว่าองค์จักรพรรดิมากนัก

แม้แต่พวกหัวไม่ดีเช่นเว่ยอวี๋ก็ยังเข้าใจในเรื่องนี้ เหล่าอ๋องทั้งหลายขี้หวาดระแวงยิ่งนัก

อีกทั้ง เซียวเฉวียนยังเป็นที่รักของเหล่าราษฎรมากมายอีกด้วย

มิต้องเอ่ยถึงที่อื่นเลย แม้แต่ภายในเมืองหลวงใต้ฝ่าพระบาทขององค์จักรพรรดินั้น

เหล่าราษฎรภายในเมืองหลวงมากมายต่างก็กล่าวถึงความดีของเซียวเฉวียนเอาไว้มากแล้ว เอ่ยถึงฝ่าบาทน้อยครั้งนัก

ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ หากเปลี่ยนให้เว่ยอวี๋เป็นองค์จักรพรรดิแล้วไซร้ เขาย่อมนึกหวาดระแวงในตัวของเซียวเฉวียนเช่นกัน

ฉะนั้น เจี้ยนจงจึงนึกเป็นกังวลมากว่า เพียงเพื่อฝ่าบาทและต้าเว่ยแล้วนั้น หากเซียวเฉวียนเคลื่อนไหวตัวเช่นนี้ ตนเองอาจจักมีจุดจบที่ไม่สวยก็เป็นได้

เจี้ยนจงรู้ดีว่า เซียวเฉวียนหาได้สนใจในชื่อเสียงของตนเองไม่ ทั้งยังมิมีผู้ใดสามารถมาทำร้ายเขาได้ง่าย ๆ อีกด้วย หากแต่เจี้ยนจง รู้สึกว่า หากท้ายที่สุดแล้วผลลัพธ์จักเป็นเช่นนี้ เซียวเฉวียนหาได้คุ้มค่าที่จะทำเช่นนั้นไม่!

เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว เซียวเฉวียนจึงได้แต่ยิ้มตอบกลับไปเบา ๆ ว่า "ท่านบรรพชน หากให้ท่านขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิ ท่านจักยอมหรือไม่เล่า?"

เจี้ยนจงพลางตอบกลับมาในทันทีว่า "ข้าย่อมมิยอม"

ผู้คนธรรมดาย่อมรู้สึกว่า การที่จักขึ้นไปนั่งบนตำแหน่งจักรพรรดิเบื้องบนสุดแล้วนั้น จักสามารถเพลิดเพลินไปกับความมั่งคำอำนาจมากมายได้

แต่แท้จริงแล้ว องค์จักรพรรดินั้นมิต่างอันใดกับเครื่องจักรมนุษย์เลยสักนิด เขาไม่มีแม้แต่เวลาว่างเป็นของตัวเอง ไม่มีอิสระ หากว่ากันง่าย ๆ ก็คืองานยุ่งตลอดทั้งวัน ทั้งยังต้องถูกกักขังอยู่แต่ภายในพระราชวังอีกด้วย

บางทีทั่วทั้งชีวิตนี้ การจะออกไปนอกรั้ววังนั้นคงจะนับนิ้วได้เลยกระมัง

มีสิ่งใดให้น่าสนใจนักหรือ?

เมื่อได้ยินสิ่งที่เจี้ยนจงตอบกลับมานั้น เซียวเฉวียนพลางอดไม่ได้ที่จะแย้มยิ้มออกมาว่า "นั่นน่ะสิ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย