เพื่อให้สามารถไล่ตามร่องรอยของนักปราชญ์ได้ทันเวลา เสี่ยวเซียนชิวที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลได้สร้างสิ่งที่เป็นเสมือนฉากกำบังขึ้นมาบนพืชบางชนิด
ความพิเศษของฉากกำบังนี้คือ มันสามารถทำให้พืชชนิดต่างๆ ส่งสัญญาณไปหานางได้ในระยะพันลี้
กล่าวคือ หากพวกมันพบร่องรอยของนักปราชญ์ เสี่ยวเซียนชิวก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากฉากกำบังเหล่านี้ในการรับข่าวสารได้ทันเวลา
แต่ข้อเสียของฉากกำลังนี้ก็คือเป็นฝ่ายส่งข่าวได้เพียงอย่างเดียว
มีเพียงพืชเหล่านี้เท่านั้นที่สามารถส่งข่าวไปหาเสี่ยวเซียนชิวได้ แต่เสี่ยวเซียนชิวไม่สามารถติดต่อกลับมายังพืชเหล่านี้ได้
แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เสี่ยวเซียนชิวต้องการมีเพียงผลลัพธ์นี้เท่านั้น
หลังจากเตรียมการทุกอย่างเรียบร้อย ทั้งสามคนก็ออกเดินทางเพื่อค้นหาร่องรอยของนักปราชญ์และลูกศิษย์ของเขาต่อไป
แต่หลังจากที่ไล่ตามมาสักพักใหญ่ ทิศทางของทั้งสามคนกับทิศทางของพวกนักปราชญ์กลับต่างกันโดนสิ้นเชิง
แม้สุดท้ายแล้วทั้งสามคนเองก็มาถึงชายหาด แต่ชายหาดที่พวกเขามาถึงนั้นคืออีกฝั่งหนึ่งของชายหาด
ด้วยเหตุนี้ พวกเขาทั้งสามคนจึงพลาดโอกาสที่จะค้นพาร่องรอยของพวกนักปราชญ์
หลังจากรอคอยมาเป็นเวลาหลายวัน ข่าวไฟไหม้บนเกาะนกกระสา รวมถึงการเสียชีวิตจำนวนมากของทาสคุนหลุนก็ได้ส่งไปถึงเมืองหลวง
แต่พวกของหวังซวนกลับมีความสุขเป็นอย่างมาก
อ่า! ในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสที่จะเอาชนะเซียวเฉวียนได้สักที!
คราวนี้พวกเขาจะจับกุมเซียวเฉวียนไว้ให้ได้ และจะกัดเซียวเฉวียนอย่างโหดเหี้ยมไม่ยอมปล่อย
ในขณะเดียวกันพวกเขายังจะให้เซียวเฉวียนเวนคืนที่ดินของขุนนางในรัฐมู่อวิ๋น เพื่อสร้างความยุ่งยากและปัญหาอันยิ่งใหญ่
ตอนแรกเรื่องนี้เป็นความสมัครใจของเหล่าขุนนาง แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็จะเปลี่ยนมันให้ได้ เซียวเฉวียนใช้อำนาจจากตำแหน่งของตนเองในการข่มขู่ขุนนาง แย่งชิงที่ดินจากประชาชน
แน่นอน หากเรื่องนี้ถูกเอามาพูดในห้องโถง มันก็ไม่มีใครสามารถโต้แย้งได้
แต่หวังซวนก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าความจริงเรื่องนี้นั้นเป็นอย่างไร
หากฮ่องเต้ทำการสืบหาความจริง โยนความผิดฐานกล่าวหาขุนนางใหญ่ในราชสำนักให้แก่พวกเขา พวกเขาคงได้รับความเสียหายครั้งใหญ่
ดังนั้นเรื่องนี้หวังซวนและพรรคพวกของเขาจึงส่งให้คนไปเผยแพร่ข่าวลือเท่านั้น โดยใช้มันเพื่อทำลายชื่อเสียงของเซียวเฉวียน
ความเห็นของชาวบ้าน ชาวบ้านนั้นสนใจเพียงแค่ข่าวลือและเรื่องซุบซิบนินทาเท่านั้น ส่วนเรื่องที่ใครเป็นคนเผยแพร่ข่าวลือ มันไม่เคยอยู่ในใจของพวกเขาเลย
ตราบใดที่พวกของหวังซวนลงมือได้อย่างไร้ที่ติ ต่อให้มีคนคิดจะตรวจสอบก็ไม่มีทางพบเจอสิ่งใด
ส่งที่ถูกยกขึ้นมาพูดคุยในราชสำนัก แค่เรื่องบนเกาะนกกระสาเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้เซียวเฉวียนหายใจไม่ออกแล้ว
พระราชวังฉางหมิง ฮ่องเต้นั่งตัวตรงอยู่บนบัลลังก์ มองมายังเหล่าเสนาบดีด้านล่าง กล่าวอย่างเยือกเย็น “อ้ายชิงทุกท่าน มีเรื่องอื่นใดอีกหรือไม่?”
มีเรื่องอะไรก็พูดออกมา ไม่มีอะไรจะได้เลิกการประชุมราชสำนักไปเสีย
หลายวันที่ผ่านมา เมืองหลวงอยู่ในความสงบ ต้าเว่ยเอาก็สงบด้วยเช่นกัน ส่วนเรื่องการจัดการปัญหาย้อนหลังในซินเจียงเองก็ผ่านไปได้ด้วยดี
โดยพื้นฐานแล้ว เวลานี้ทั่วทั้งต้าเว่ยถือว่าสงบสุข
แต่ฮ่องเต้รู้ดี เมื่อเกิดเรื่องขึ้นบนเกาะนกกระสา จะต้องมีคนพยายามใช้เรื่องนี้ในการสร้างปัญหาเป็นแน่
ราษฎรเองก็ยังคงพูดถึงเรื่องนักปราชญ์ผู้คลั่งไคล้การฆาตกรรมไม่ยอมหยุด
แต่อย่างไรก็ตาม ในเมืองหลวงไม่ได้มีเหตุการณ์การเสียชีวิตที่แปลกประหลาดเกิดขึ้น นักปราชญ์จึงไม่ได้เป็นที่หวาดกลัวของราษฎรมากนัก ส่วนใหญ่ราษฎรจะใช้มันเป็นบทสนทนาในมื้ออาหารเย็นเท่านั้น หรือเป็นเรื่องเล่าที่ทำให้เด็กไม่เชื่อฟังหวาดกลัว
ฮ่องเต้รู้ดีกว่าเซียวเฉวียนจงใจทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องของนักปราชญ์ เพื่อหวังจะทำลายชื่อเสียงของนักปราชญ์ให้พังพินาศ
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความรุนแรงและความน่าสนใจของเรื่องนี้ก็ค่อยๆ ลดลงไปเช่นกัน
แต่เมื่อสองวันที่ผ่านมา มีข่าวลือมาว่าเซียวเฉวียนปลดที่ดินของราษฎร
เมื่อข่าวลือเรื่องนี้ถูกแพร่กระจายออกไป ราษฎรก็ค่อยๆ ออกมาช่วยกันปกป้องเซียวเฉวียน
ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเขาได้ยินข่าวลือร้ายๆ เกี่ยวกับเซียวเฉวียนมามากมาย หากเป็นก่อนหน้านี้พวกเขาอาจจะเชื่อ
ตั้งแต่ที่ดวงวิญญาณกว่าห้าหมื่นตนของกองทัพตระกูลเซียวได้กลับมายังเมืองหลวง เรื่องนี้เกิดขึ้นจากเซียวเฉวียน และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พวกเขาก็ได้เห็นสิ่งที่เซียวเฉวียนทำเพื่อพวกเขาด้วยตาของตัวเอง เซียวเฉวียนทำเพื่อต้าเว่ย นี่คือความประทับใจที่ชาวบ้านมีต่อเซียวเฉวียนอย่างไม่มีเปลี่ยนแปลง
ในทุกวันนี้ หากมีข่าวลือแย่ๆ เกี่ยวกับเซียวเฉวียน พวกเขาจะไม่เชื่อเลยแม้แต่คำเดียว ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขาจะยังสร้างปัญหาให้กับคนที่มาปล่อยข่าวลือเหล่านั้นด้วย
คนพวกนี้เห็นเซียวเฉวียนได้ดิบได้ดีไม่ได้ ต้องการที่จะเห็นเซียวเฉวียนพังพินาศ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...