อย่างที่อาฉือได้พูดไป พวกเขายังมีการมีงานมากมายที่ต้องทำ ที่สำคัญกว่านั้น เขาไม่ต้องการให้เซียวเฉวียนเสียเวลา
หลังจากรอผู้คนแยกย้ายกลับไปกันหมด เซียวเฉวียนเพียงเอาแค่ไก่และเป็ดไปอย่างล่ะสองตัวแค่นั้น
ส่วนที่เหลือก็ให้อาฉือเป็นคนเก็บทั้งหมด ให้อาฉือไปแบ่งชาวทาสคึนหลุนได้กินกัน
ขืนเอาไปหมดนั้นไม่สำคัญเลยสักนิด
ที่เซียวเฉวียนเอาไก่เป็ด เพราะว่าอยากจะนำมาปิ้งกิน
หลังจากที่ออกมาจากเกาะนกกระสา เซียวเฉวียนและเจี้ยนได้สถานที่ห่างไกลและปักหลักชั่วคราว
มื้อกลางวันและมื้อเย็นของพวกเขา คือปิ้งไก่และปิ้งเป็ด
ฝีมือการทำอาหารของเจี้ยนจงนั่นไม่ได้เรื่อง ดังนั้น เขาจึงทำได้แค่เก็บฟืนมาก่อไฟ
รอจนเขาเก็บฟืนและก่อฟืนขึ้นมา เซียวเฉวียนก็ได้จัดการทำความสะอาดไก่และเป็ดเรียบร้อยแล้ว
มื้อกลางวันที่ ไก่อย่างล่ะตัวและเป็ดอย่างล่ะตัว ที่เหลือเก็บเอาไว้ตอนกลางคืน
ดูเซียวเฉวียนวางไก่และเป็ดอย่างชำนาญบนไม้ไผ่ที่ลับคมแล้ว ขณะพลิกไก่เติมเครื่องปรุงรสให้กับไก่และเป็ด เจี้ยนจงที่เห็นสิ่งนี้ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจ“เซียวเฉวียนนี่เก่งไปซะทุกอย่างเสียจริง!”
ศักยภาพเก่งขนาดนี้ ฝีไม้ลายมือในการทำกับข้าวก็เป็นเลิศ
คนเยี่ยงนี้ ยังไม่เตะตาคนชาวฮว่าเซี่ยอีก
ความอยากรู้อยากเห็นของเจี้ยนจงเกี่ยวกับฮว่าเซี่ยอดไม่ได้ที่จะเพิ่มมากขึ้นอีกเล็กน้อย
พูดตามความจริง เขาล่ะอยากรีบไปดูที่ฮว่าเซี่ยเสียจริงว่ามันจะเป็นอย่างไร คนที่ว่ามีความสามารถนักหนาคืออย่างใด!
ถ้าเป็นไปได้ คงจะดีถ้านำเพิ่มอีกสองสามอย่างมาเพื่อข้ามมาเวลานี้เพื่อนี้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้คนในยุคนี้
เซียวเฉวียนที่เพิ่งว่างจากการยุ่ง ก็มาได้ยินที่เจี้ยนจงคิดในในอยู่พอดี เขาล้มเลิกความคิดของเจี้ยนจงอย่างรวดเร็ว “นี่เจ้า เจ้าหยุดความคิดนั้นเสียเถอะ”
พาคนมาเพื่อข้ามเวลาอย่างนั้นหรือ?
ถ้าไม่ใช่ถูกบีบจนตรอก แม้จะให้เงินเขาเป็นแสน เซียวเฉวียนก็ไม่ยอมให้มาหรอก
แม้ว่าเขาจะเจริญรุ่งเรืองในยุคนี้ แต่ทั้งหมดนี้ได้มาจากการที่เขาคลาน กลิ้ง และเลียเลือดจากปลายมีด
ในเวลาและสถานที่นี้ หากไม่มีทักษะที่แข็งก่างมากพอ อาจตายได้ในไม่กี่นาที
ไม่ถูกชาวยุทธ์แท้ฆ่า ก็ถูกปัญญาชนทำร้ายจนตาย สรุปแล้วความตายทุก็มีอยู่ทุกอย่างก้าว
ใครอยากจะมา?
อยากตายหรืออย่างไร?
อยู่ยุคปัจจุบันสบายกว่าเป็นไหนๆ
มีทีวีให้ดู
มีโทรศัพท์ มีคอมพิวเตอร์ให้เบ่น
ไม่อยากทำอาหารก็กดมือถือสั่งได้ไม่ก็ออกไปกินข้าวนอกบ้าน
จะซักผ้าก็มีเครื่องซัก
จะล้างจานก็มีเครื่องล้างจาน
ออกเดินทางก็มีรถประจำทาง รถไฟฟ้าใต้ดิน เครื่องบินหรือรถไฟฟ้า
มีตัวเลือกความบันเทิงและการคมนาคมหลายรูปแบบ
แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือมีอาหารที่น่ากินมากมายน่ะสิ!
ห่านเมา เป็ดย่าง ปีกไก่โคล่า เป็ดเมาเบียร์ ซุปไฟโบราณ เนื้อเสียบย่าง
ไม่ได้ คิดต่อไปไม่ได้แล้ว น้ำลายของเขาใกล้จะไหลออกเต็มที
สรุปว่าไม่มีใครยอมข้ามเวลามายุคนี้หรอก
ไม่ต้องพูดถึงคนยุคปัจจุบัน แม้แต่คนอย่างเจี้ยนจงถ้าได้ไปยุคปัจจุบัน คาดว่าคงจะสนุกจนลืมบ้านช่องตัวเอง ร้องขอไม่อยากกลับไปที่เดิมอีกแน่
พอได้ยินเซียวเฉวียนพูดแบบนื้ เจี้ยนจงพูดอย่างสงสัย “แต่เหตุใดเจ้าเด็กเว่ยอวี๋ผู้นี้มา กลับสนุกจนลืมบ้านลืมช่องเล่า?“
ถามได้ดีนี่!
เซียวเฉวียนกล่าวเสียงเรียบ “บรรพชนของข้าเอ๋ย ท่านถามเขาด้วยตัวท่านเองเถอะ”
สำหรับเว่ยอวี๋นั่นเป็นข้อยกเว้น
เขาอยู่ในยุคปัจจุบันและไม่ต้องกังวล
นอกจากนี้ เขากลายเป็นท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์เมื่อเขามาที่นี่ และเขายังมีฮ่องเฮาผู้น่ารัก ผู้ซึ่งได้รับความรุ่งโรจน์ ความมั่งคั่ง และความโปรดปรานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
สถานการณ์นี้แตกต่างไปจากที่เขาอยู่ในยุคปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง
มาถึงที่นี่ เขารู้สึกเหมือนอยู่ในสวรรค์ แน่นอนว่าเขาไม่อยากกลับไป ดังนั้นเขาจึงส่งอาหารท่ามกลางสายลมและฝน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...