เจี้ยนจงรู้จักเซียวเฉวียนมานานขนาดนี้แล้ว เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเซียวเฉวียนมีความคิดเช่นนี้?
แต่เขาเอาชนะเซียวเฉวียนไม่ได้จริงๆ
และในฐานะที่เขาเป็นบรรพชน เขาไม่สามารถไปแย่งน่องไก่กับชายหนุ่มรุ่นหลังที่มีอายุน้อยกว่าเป็นพันปีได้ แบบนั้นมันน่าอายเกินไป
ดังนั้นเจี้ยนจงจึงดึงกลับมาอย่างร่วมมือ และยื่นมือไปทางปีกไก่
เป็นการย่างที่มีกลิ่นหอมมาก แม้ว่าจะไม่ใช่น่องไก่ แต่เจี้ยนจงก็รู้สึกชอบมันเหมือนกัน!
ทั้งสองกำลังกินไก่ย่างและเป็ดย่างอย่างมีความสุด ส่วนทางด้านของนักปราชญ์และลูกศิษย์ต้องซ่อนตัวอยู่บนหน้าผา หาผลไม้ป่ากินเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ
ร่างกายของพวกเขาหายดีแล้ว แต่พวกเขายังไม่กล้าที่จะออกไปล่าสัตว์
กินผลไม้ป่ามาติดต่อกันมานานหลายวันแล้ว นักปราชญ์และลูกศิษย์รู้สึกว่าตนเองจะกลายเป็นผักอยู่แล้ว
ท้องไส้ปั่นป่วนด้วยความหิวทุกวัน รู้สึกเมื่อยล้าไปทั้งตัว
สิ่งที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ แม้แต่ผลไม้ป่าที่พวกเขาแบ่งเอาไว้ ดูเหมือนว่ามันจะอยู่ได้อีกไม่นาน
เมื่อลองมองออกไป สิ่งที่เห็นก็มีแต่เถาวัลย์และท้องทะเล
ซึ่งเถาวัลย์นั้นนำมากินเป็นอาหารไม่ได้
หากยังคิดที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป อาจารย์และศิษย์จำเป็นจะต้องเดินออกไป
แต่หากเดินออกไปก็กลัวว่าจะต้องเผชิญหน้ากับเซียวเฉวียน
เสี่ยวเซียนชิวนั้นร้ายกาจมาก หากไม่ระวังให้ดี ถูกนางตรวจสอบจนรู้ที่อยู่ของพวกเขา แบบนั้นที่ชีวิตอดทนมาสองสามคนของพวกเขาก็จะไร้ประโยชน์
คิดไปคิดมา แววตาของนักปราชญ์ก็มุ่งความสนใจไปที่ทะเล
ในทะเลมีปลา
หากแอบลงไปจับปลาในทะเลมาย่างกินได้ แบบนั้นก็ยังพอมีโอกาสรอด
เห็นแววตาที่ลุกโชนของนักปราชญ์ ลางสังหรณ์อันเลวร้ายก็ปรากฏขึ้นมาในใจของเสวียนจิ้ง
นักปราชญ์คงไม่ได้คิดจะใช้ให้เขาลงไปจับปลาในทะเลหรอกใช่ไหม?
แม้ตัวเขาเองก็อยากกินเนื้อเหมือนกัน แต่การจับปลาในทะเลมันก็อันตรายเกินไป
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องว่าจะถูกคนอื่นตรวจพบหรือไม่ การที่จะลงไปจากหน้าผาที่สูงชันถึงเพียงนี้ ตอนลงอาจจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเสวียนจิ้งในเวลานี้ การที่จะต้องนำของติดมือขึ้นมา เกรงว่ากว่าจะปีนกลับขึ้นมาได้คงไม่ใช่เรื่องง่าย
ในบางครั้งผู้ชายเองก็มีสัมผัสที่หกเช่นเดียวกัน
ความคิดนี้เพิ่งจะปรากฏขึ้นมาในหัวของเสวียนจิ้ง นักปราชญ์ก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “เสวียนจิ้ง ให้เจ้าลงไปจับปลาในทะเลดีหรือไม่?”
ดีหรือไม่?
ฟังดูเหมือนเป็นคำถามที่ถามความเห็นของเสวียนจิ้ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันคือคำสั่งที่เสวียนจิ้งต้องปฏิบัติตาม
เนื่องจากเสวียนจิ้งเป็นลูกศิษย์ ในฐานะลูกศิษย์จะกล้าปฏิเสธอาจารย์ได้อย่างไร?
ยิ่งไปกว่านั้น นักปราชญ์เองก็ว่ายน้ำไม่เป็น เขาอยากกินปลา สิ่งที่ทำได้ก็มีแค่ฝากความหวังไว้กับลูกศิษย์อย่างเสวียนจิ้งเท่านั้น
เสวียนจิ้งตอบกลับไปว่า “ท่านอาจารย์ ศิษย์สามารถลงไปได้ไม่มีปัญหา แต่ศิษย์เกรงว่าอาจจะกลับขึ้นมาไม่ได้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น นักปราชญ์ก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กล่าวออกมาว่า “ไม่ต้องกังวล ข้าจะทำเชือกให้เจ้าหนึ่งเส้น หากเจ้ารู้สึกว่าตนเองไม่สามารถกลับขึ้นมาได้ เจ้าก็ดึงเชือกนั้นเพื่อพยุงตัวเองขึ้นมา อาจารย์จะคอยรับเจ้าอยู่ด้านบน”
ข้าได้คิดหาวิธีการไว้ให้เจ้าเรียบร้อยแล้ว เจ้าแค่ลงไปจับปลาอย่างสบายใจก็พอ!
นักปราชญ์คิดรอบคอบถึงเพียงนี้ เสวียนจิ้งยังจะพูดอะไรได้?
เสวียนจิ้งทำได้เพียงตั้งท่าและกระโดดลงไปในทะเล
แต่ก่อนที่จะลงไปในทะเล เขามองไปรอบๆ พบว่ารอบๆ นั้นไม่มีใครอยู่เลย แต่กลับมีเรือลำหนึ่งจอดอยู่ที่ชายหาด
ดูจากสภาพแล้ว ชาวบ้านบนเกาะนกกระสาน่าจะกลับมาทำการประมงเหมือนปกติ
อ่า ถือว่าเป็นข่าวดี
มีเรือ หลังจากนี้หากพวกเขาต้องการออกจากเกาะนกกระสาแห่งนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องยาก
นักปราชญ์ต้องรีบนำข่าวนี้ไปแจ้งให้นักปราชญ์ได้รับรู้
เมื่อคิดเช่นนั้นเขาก็กระโดดลงไปในทะเลทันที
ต้องบอกเลยว่า ท้องทะเลที่กว้างใหญ่นั้นมีปลาชุกชุม
ผ่านไปเพียงไม่นาน เสวียนจิ้งสามารถจับปลาขนาดใหญ่ได้ถึงสองตัว
มีปลาใหญ่สองตัวนี้ มันเพียงพอสำหรับเขาและนักปราชญ์ที่จะกินอิ่มในมื้อนี้
ดังนั้นเขาจึงขึ้นมาบนชายหาด บินขึ้นไปบนหน้าผาพร้อมกับปลาสองตัว
บินมาได้ครึ่งทาง เสวียนจิ้งรู้สึกว่าเรี่ยวแรงของตนเองยังไม่เพียงพอ เขาจึงคว้าเชือกที่นักปราชญ์ทำเอาไว้ให้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...