ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1870

แต่อาจารย์ก็ไม่ได้อยากที่จะทอดทิ้งนักปราชญ์ที่เป็นตัวอย่างที่ดีเหมาะจะเป็นหัวหน้า ยังไงซะเขาก็ได้รับการฝึกฝนมานานและตัวเขาเองก็ทำได้ดีเป็นอย่างมากต่อหน้าอาจารย์ เขาเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ดีมากทีเดียว

กล่าวอีกนัยหนึ่ง นักปราชญ์และย่าเหยียน ทั้งสองเป็นที่โปรดปรานของอาจารย์และอยากจะให้เขาเป็นเสาหลักของสำนักหมิงเซียน

แต่เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ อาจารย์ของเขาก็เข้าใจดี

ในเมื่อเขารับนักปราชญ์มาเป็นศิษย์ก่อนและได้เลือกนักปราชญ์ให้เป็นผู้นำไว้ก่อนแล้ว เขาจึงไม่สามารถปล่อยให้ย่าเหยียนมาคุกคามนักปราชญ์ได้

เมื่อคิดได้แบบนั้น ไม่ใช่แค่เพื่อปกป้องนักปราชญ์ แต่เพื่อป้องกันไม่ให้สำนักหมิงเซียนตกอยู่ในสภาพแย่ ๆ จากการแย่งชิงอำนาจกัน

เมื่อชั่งน้ำหนักเรื่องนี้ดูแล้ว อาจารย์ก็ได้บอกให้นรักปราชญ์ยอมรับย่าเหยียนเป็นศิษย์

นักปราชญ์เข้าใจความตั้งใจของอาจารย์ดี การที่อาจารย์ได้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบแบบนี้ เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ

หลังจากที่ได้รับความยินยอมจากย่าเหยียนแล้ว นักปราชญ์จึงได้รับย่าเหยียนมาเป็นศิษย์

เธอเป็นลูกศิษย์ในนามของนักปราชญ์ แต่ในความเป็นจริง กลับเป็นอาจารย์ของนักปราชญ์ที่สอนย่าเหยียน

นักปราชญ์เข้าใจความตั้งใจของอาจารย์ที่จะทําเช่นนั้น

ที่สำนักหมิงเซียนไม่มีกฎเขียนไว้ แต่โดยทั่วไปแล้ว ผู้นำจะต้องส่งต่อให้ศิษย์

ย่าเหยียนเป็นศิษย์คนแรกในนามของนักบุญ ก็เป็นศิษย์ใหญ่ที่ต่อไปตำแหน่งผู้นำก็จะต้องเป็นของเธอ

นักปราชญ์ก็เข้าใจความหมายของอาจารย์ และก็ได้ปฏิบัติตามสิ่งที่อาจารย์ต้องการ ต่อมาเขาก็ได้ส่งต่อตำแหน่งผู้นำให้ย่าเหยียน

ดังนั้น เสวียนจิ้งตะโกนเรียกย่าเหยียนว่าศิษย์พี่

ศิษย์พี่งั้นหรือ ?

ย่าเหยียนมองสวียนจิ้งแล้วพูดว่า “พูดแบบนี้ ก็แสดงว่าเจ้าเป็นผู้นำของเหล่าลูกศิษย์งั้นสิ?”

และจากสถานะที่พิเศษ ย่าเหยียนไม่เคยเรียกนักปราชญ์ว่าอาจารย์เลย มีแต่เรียกว่านักปราชญ์

แต่ยังไงซะ นักปราชญ์ก็ชอบให้คนอื่นเรียกเขาแบบนี้มากกว่า

หลังจากที่นักปราชญ์ได้เป็นผู้นำของสำนักหมิงเซียน ย่าเหยียนก็ได้เรียกเขาว่า ผู้นำ ต่อมาก็ได้เรียกเขาว่าเจ้าสำนัก

เสวียนจิ้งก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ข้าชื่อว่าเสวียนจิ้ง”

นักปราชญ์รับคนต้าเว่ยมาเป็นศิษย์เมื่อไหร่ อะไรยังไง ย่าเหยียนไม่ได้สนใจ

แต่เธอสิ่งที่เธออยากรู้ก็คือ เสวียนอวี๋ล่ะ?

เสวียนอวี๋ไม่ใช่ศิษย์ที่นักปราชญ์ภาคภูมิใจงั้นหรือ?

เมื่อก่อนนักปราชญ์จะไปที่ไหน เสวียนอวี๋ก็ไปด้วยไม่เคยแยกกัน

ทำไมวันนี้ถึงได้กลายมาเป็นชาวต้าเว่ยคนนี้ได้ล่ะ?

ตอนที่ยังไม่ได้พูดถึงเสวียนอวี๋ก็ยังดีอยู่ แต่เมื่อได้พูดถึงเสวียนอวี๋แล้ว นักปราชญ์ก็หัวร้อนขึ้นมา “ไอเลวเสวียนอวี๋! ยังมีไอมู่จิ่น! ไม่ใช่แค่ทรยศแต่ยังไปอยู่ฝั่งเซียวเฉวียนอีก!”

นี่มันน่าโมโหไหมล่ะ!

การทรยศต่ออาจารย์ ยังไม่ได้ทำให้นักปราชญ์โมโหมากนัก แต่สิ่งที่เขาโมโหนั่นก็คือ ไปเข้าร่วมกับเซียวเฉวียน ศัตรูหมายเลขหนึ่งของเขา!

ได้ยินแบบนี้แล้ว มันน่าโมโหจริง ๆ

แต่ย่าเหยียนก็ได้พูดขึ้นว่า “เซียวเฉวียนเป็นตัวเลือกที่ดีจริง ๆ”

เธอก็ชื่นชมคนอย่างเซียวเฉวียนมาก

หากเขาไม่ได้ทำลายสำนักหมิงเซียน ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้ ก็คงไม่กลายเป็นศัตรูกัน

แต่น่าเสียดายที่ไม่มีถ้าหาก . . .

หลายสิ่งหลายอย่างเหมือนถูกกำหนดไว้แล้ว แค่รอเพียงว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่

ใครจะไปคิดว่าลูกเขยที่ไร้ความสามารถในตอนแรก สุดท้ายก็เริ่มมีชีวิตที่เต็มไปด้วยการต่อสู้

ถ้าไม่ได้ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรก แล้วมันคืออะไรกัน?

ได้ยินย่าเหยียนชื่นชมเซียวเฉวียนแบบนี้ นักปราชญ์ก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก

แต่ต่อหน้าย่าเหยียน แม้ว่าเขาจะไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมา

ถึงเขาจะแสดงออกมา ก็ดูเหมือนจะไม่มีความหมายอะไร

ตั้งแต่ที่ได้รู้ว่าอาจารย์ได้ให้ความสำคัญกับย่าเหยียนเป็นอย่างมาก นักปราชญ์ก็ได้แสดงความใจกว้างมาโดยตลอด ใบหน้าก็แสดงความเป็นมิตรกับย่าเหยียน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย