เห็นเช่นนั้นเซียวเฉวียนก็กล่าวในเชิงเกลี้ยกล่อม “ข้าไม่ได้ตั้งใจที่จะตำหนิพวกเจ้า พวกเจ้าทำได้ดีมากแล้ว”
ก็แค่บอกให้พวกมันลดเสียงลงหน่อยเท่านั้น แต่กลับทำให้พวกมันรู้สึกไม่มีความสุข หัวใจของพวกมันค่อนข้างอ่อนแอ
ยิ่งไปกว่านั้น เซียวเฉวียนนั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะตำหนิพวกมันจริงๆ
เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าวของเซียวเฉวียน ดวงตาของสัตว์เทพทั้งสองเปล่งประกาย จ้องมองมาที่เซียวเฉวียน ราวกับกำลังพูดว่า เจ้าพูดจริงงั้นหรือ?
สิ่งที่ทำให้เซียวเฉวียนประหลาดใจก็คือ ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจความหมายของพวกมัน เขาพยักหน้า ตอบกลับไปว่า “พวกเจ้ายอดเยี่ยมจริงๆ”
“เพียงแต่การกลับมาอย่างเย่อหยิ่งและทรงพลังของพวกเจ้าเมื่อครู่ มันทำให้นกและสัตว์ป่าที่นี่หวาดกลัว”
ให้พวกเจ้าใช้ชีวิตให้ถ่อมตัวกว่านี้อีกเสียหน่อย นี่คือความหมายที่ข้าจะบอก
หัวใจของพวกเราจะต้องมีจริยธรรม ไม่ทำลายบรรยากาศตามใจชอบ และสร้างความลำบากหรือทำให้ผู้อื่นหวาดกลัวไม่ได้
สัตว์เทพได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าด้วยความเข้าใจ บอกเซียวเฉวียนว่าพวกมันเข้าใจแล้ว หลังจากนี้จะระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
ได้ยินเสียงร้องตกใจของเสียงนกในป่า สัตว์เทพก็รู้ว่าเมื่อครู่พวกเขากลับมาด้วยท่าทีที่เอิกเกริกเกินไป ทำให้นกและสัตว์ป่าต่างๆ หวาดกลัว
เซียวเฉวียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ไม่เป็นไร หลังจากนี้ระวังให้ดีก็พอแล้ว”
จากนั้นเซียวเฉวียนก็กล่าวออกมาว่า “ติดรูปภาพเสร็จ พวกเจ้าก็หมดเรื่องแล้ว พวกเจ้ากลับไปที่เมืองหลวงเสียเถิด”
สัตว์เทพกลับมามีสติปัญญาอีกครั้ง แต่อย่างไรมันก็เป็นแค่สัตว์ การรับรู้มีจำกัด และนิสัยของมันก็คาดเดาไม่ได้
เรื่องง่ายๆ อย่างเช่นติดรูปภาพ สามารถปล่อยให้พวกมันไปทำได้
นอกจากนั้น เซียวเฉวียนไม่กล้าที่จะปล่อยพวกมันให้เคลื่อนไหวตามลำพัง
โดยเฉพาะหลังจากที่รู้ว่าย่าเหยียนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เซียวเฉวียนก็ไม่กล้าปล่อยพวกมันไว้ตามใจชอบ
ประการแรก เซียวเฉวียนเกรงว่าสัตว์เทพจะถูกคนชั่วนำมาใช้ประโยชน์เพื่อสร้างปัญหาและหายนะ
ประการที่สอง เขากังวลว่าพวกมันจะถูกย่าเหยียนจับตามอง
พวกมันจะใช่คู่ต่อสู้ของย่าเหยียนหรือไม่ เรื่องนี้เซียวเฉวียนไม่แน่ใจ แต่เซียวเฉวียนรู้ว่าหากพวกมันถูกนางจับตามอง พวกมันจะต้องมีอันตรายเป็นแน่
สรุปก็คือ เซียวเฉวียนไม่อยากให้พวกมันไปเผชิญหน้ากับอันตรายตามลำพัง
ตอนแรกเซี่ยวเฟิงและกิเลนคิดว่าจะกลับมาอยู่ข้างกายของเซียวเฉวียนได้ แต่พวกมันคิดไม่ถึงว่า เพิ่งจะมาถึงก็ถูกไล่กลับไป ทำให้พวกมันรู้สึกไม่เต็มใจ
เซี่ยวเฟิงก้าวมาด้านหน้าสองสามก้าว เข้ามาแนบชิดกับร่างกายของเซียวเฉวียน ความหมายของมันชัดเจน มันไม่อยากกลับเมืองหลวง มันต้องการอยู่ข้างกายของเซียวเฉวียน
กิเลนเองก็ใช้กรงเล็บของมันเกี่ยวเสื้อผ้าของเซียวเฉวียนไว้ บ่งบอกว่าพวกมันมีความชิดเช่นเดียวกับเซี่ยวเฟิง
เซียวเฉวียนกล่าวว่า “เชื่อฟัง กลับไปก่อน มีเรื่องอะไรข้าจะเรียกพวกเจ้ามาเอง”
มีสัตว์เทพอันเก่งกาจสองตัวอยู่ข้างกาย มันดูโดดเด่นและโอ้อวดเกินไป
แบบนี้ไม่ว่าเซียวเฉวียนจะไปไหนหรือทำอะไร การเคลื่อนไหวของเขาก็จะโจ่งแจ้งเกินไป
ได้ยินเช่นนั้น สัตว์เทพทั้งสองก็ยังไม่อยากจากเซียวเฉวียนไป แต่สุดท้ายก็ต้องเชื่อฟัง เดินทางกลับไปยังเมืองหลวง
หลังจากไล่สัตว์เทพกลับไปแล้ว เซียวเฉวียนก็กล่าวออกมาด้วยความสงสัยว่า “บรรพชน เหตุใดท่านจึงรู้ได้ว่าเป็นพวกของเซี่ยวเฟิง”
ก่อนที่เจี้ยนจงจะพูดออกมา เซียวเฉวียนตัดสินได้จากปฏิกิริยาตอบสนองของนกเท่านั้น ไม่รู้ว่าผู้ที่มาเยือนคือสัตว์เทพ
เจี้ยนจงมองมาที่เซียวเฉวียนด้วยดวงตาที่เปล่งประกายและพูดว่า “ข้าเป็นใคร? ข้าเป็นถึงบรรพชนแห่งคุนหลุนเชียวนะ!”
เขาดำรงอยู่มามากกว่าพันปี คุ้นเคยกับคุนหลุนเป็นที่สุด มนุษย์หรือสัตว์ของคุนหลุนที่มีลมปราณอยู่บนร่างกาย ภายใต้สถานการณ์ทั่วไป เจี้ยนจงสามารถสัมผัสถึงพวกมันทั้งหมดได้
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อครู่สัตว์เทพทั้งสองเอิกเกริกมาก ทำให้เจี้ยนจงสัมผัสถึงลมปราณของพวกมันได้ตั้งแต่แรกแล้ว
เหตุผลก็เป็นเช่นนี้
แต่พูดไปพูดมา เหตุใดเมื่อวานเจี้ยนจงจึงไม่รู้สึกตัวว่าย่าเหยียนเข้ามาใกล้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...