ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1884

เพราะจู่ๆ เซียวเฉวียนสังเกตเห็นมีการเคลื่อนไหวเบาๆ ราวกับว่ามีคนแอบมองพวกเขาอยู่ใกล้ ๆ

เมื่อเห็นเซียวเฉวียนจู่ๆ ตื่นตัวขึ้นมาขนาดนั้น เสวียนอวี๋ก็อดหยุดพักกินเนื้อปิ้งไม่ได้ ระวังสังเกตรอบๆ ตัวเขาอย่างตื่นตัว

ตอนนี้เอง มีลมกระโชกแรงมาจากป่าด้านหลังพวกเขาและมากระทบตัวพวกเขาทั้งสอง เสวียนอวี๋กล่าวว่า "ลุงเซียว แค่ลม"

แต่เซียวเฉวียนไม่ได้ประมาท จนกระทั่งลมพัดผ่านไป เซียวเฉวียนยังคงตั้งใจฟังอยู่พักหนึ่ง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดปกติแล้ว เขาจึงผ่อนคลายอารมณ์ที่ตึงเครียดลง

หรือเขาประสาทตึงเครียดเกินไปหรือเปล่า ?

แต่ประสาทหูของเขาฉับไวเสมอและไม่เคยพลาด

เขาได้ยินเสียงกรอบแกรบนิด ๆ ข้างหลังเขาเมื่อกี้ ทั้งมีเสียงหายใจแผ่วๆ ถ้าไม่ใช่คนก็ต้องเป็นสัตว์ป่า

แต่พอจะฟังอีกที กลับไม่เจออะไรแล้ว

ถ้าเป็นสัตว์ป่าคงไม่หายตัวไปไวขนาดนี้

เซียวเฉวียนสงสัยว่าเป็นมนุษย์ และสงสัยว่ามันก็คือยายเหยียน

ก็มีเพียงยายเหยียนเท่านั้นที่ยังสามารถแอบๆ ทำอะไรชนิดมองไม่เห็นภายใต้ลมหายใจของเซียวเฉวียนได้

เซียวเฉวียนสังเกตฟังต่อไปอีกสักพัก แน่ใจว่าไม่มีใครแล้ว จึงกินเนื้อปิ้งกันต่อไป

ทั้งนายและบ่าวสองคนกินกันอย่างเอร็ดอร่อย แต่ไม่ได้สังเกตเลยว่า มีคนหนึ่งนั่งยองๆ อยู่บนต้นไม้ใหญ่ข้างหลังของพวกเขา

คนนั้นก็คือยายเหยียน

นางแอบซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางใบไม้หนาทึบบนยอดต้นไม้ มองด้วยตาปริบๆ ดูเซียวเฉวียนสองคนกินเนื้อปิ้งคำแล้วคำเล่า และนางก็ทำได้แต่กลืนน้ำลายไปอย่างเบาๆ

เนื้อนี้ปิ้งแล้ว กลิ่นหอมจริงๆ

เมื่อสักครู่นี้ ยายเหยียนเกือบอดไม่ได้จะไปฉกมาแล้ว

แต่สติของนางบอกนางว่าทำอย่างนั้นไม่ได้ นางจึงเบรคไว้ทันเวลา

ถ้าไปฉกเอามา เซียวเฉวียนก็ต้องรู้ว่ายายเหยียนอยู่ใกล้ๆ

แล้วคิดต่อเนื่องไปอีก เซียวเฉวียนก็จะรู้ถึงนักปราชญ์และศิษย์ของเขา กระทั่งพี่น้องเว่ยหงก็อยู่แถวนี้ด้วย

อุตส่าห์มาหาที่หลบซ่อนดีๆ ได้ขนาดนี้ จะเป็นเพราะเนื้อปิ้งแล้วถูกเซียวเฉวียนค้นพบไม่ได้

แต่ยายเหยียนได้กลิ่นหอมแล้วไม่คิดจะห่างไป จึงหลบซ่อนตัวอยู่ด้านหลังเซียวเฉวียนและแอบดูสองคนกินอยู่

ไม่คิดว่าเซียวเฉวียนเด็กคนนี้มีความรู้สึกไว ทั้งๆ ที่นางระวังตัวมากแล้ว แต่เซียวเฉวียนก็ยังสังเกตแปลกประหลาดและตื่นตัวขึ้นมา

หากนางวิ่งไม่ไวพอและพอดีมีลมจากภูเขาพัดผ่านมา เซียวเฉวียนคงพบนางเข้าแล้ว

เมื่อต้องรับมือกับเซียวเฉวียน เผลอนิดเดียวก็ไม่ได้จริงๆ !

เห็นเซียวเฉวียนและเสวียนอวี๋กินเนื้อปิ้งเหลืออยู่นิดเดียวแล้ว ยายเหยียนจึงถอนสายตาอย่างไม่สู้เต็มใจและผันตัวออกไปจากต้นไม้นั้น

ออกมาข้างนอกครั้งนี้ นางแค่จะมาตรวจดูสภาพแวดล้อมโดยรอบ ดูว่ามีอะไรแปลกประหลาดหรือไม่

ไม่คิดว่า มาเจอเซียวเฉวียนพาเสวียนอวี๋หามาถึงนี่แล้ว

เสวียนอวี๋เด็กคนนี้ ไม่ได้เจอเพียงไม่กี่เดือน เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ยายเหยียนแทบจะจำหน้าเขาไม่ได้

ยิ่งกว่านั้น เสวียนอวี๋ยังทำให้นางรู้สึกว่า กำลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน

ยายเหยียนจะถือโอกาสนี้ฆ่าเซียวเฉวียน แต่นางก็กังวลเช่นกันว่าหากนางพลาด ฆ่าเซียวเฉวียนไม่สำเร็จ ยังจะเปิดเผยที่อยู่ของนางอีก

เพราะการประมือในวันนั้น ยายเหยียนรู้สึกว่าเซียวเฉวียนมีฤทธิ์พลังไม่น้อย นางก็ไม่อาจหยั่งรู้รายละเอียดของเซียวเฉวียนได้

ไม่อยากออกแรงในการสู้รบที่ไม่มั่นใจ

ดังนั้น ยายเหยียนจึงมองข้ามความคิดที่จะสังหารเซียวเฉวียนในตอนนี้ ถ้าจะสังหารเซียวเฉวียน รอให้เขาไปจากนี่ก่อนค่อยลงมือก็ไม่สาย

ถึงตอนนั้น หากนางฆ่าเซียวเฉวียนไม่สำเร็จ นางยังสามารถรักษาที่อยู่ที่พักของพวกเขาได้

ท้องฟ้าโล่งผืนดินกว้างใหญ่ก็จริง แต่จะหาที่พักที่ปลอดภัยได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

เพราะอาจมีสายลับอยู่ในทุกหนทุกแห่ง และรูปลักษณ์ภายนอกของยายเหยียนและนักปราชญ์นั้นง่ายต่อการจดจำ ยากต่อการหลบซ่อน

ดังนั้นยายเหยียนจึงได้แต่ย้อนกลับไปตามทางเดิมอย่างเงียบๆ

ในเมื่อพบร่องรอยของเซียวเฉวียนแล้ว หลังจากที่ยายเหยียนกลับมาถึงที่พัก นางจึงต้องเปิดประชุมให้ทุกคนมาร่วมด้วย

ถ้าไม่อย่างนั้น เซียวเฉวียนไม่มีเหตุผลที่จะมาไล่ล่าพวกเขาอย่างไม่ลดละนี่

ถึงแม้สองคนจะเป็นผู้กระทำผิดที่ราชสำนักตามจับ แต่ก็ไม่ถึงกับให้เซียวเฉวียนต้องมาตามล่าด้วยตัวเองนี่

เว่ยหงสงสัยว่าคนที่อยู่นอกบ้านไม้ตอนครั้งที่แล้ว ก็คือเซียวเฉวียนและพวกของเขา

มิฉะนั้น ด้วยความแข็งแกร่งของพี่น้องเว่ยหงในตอนนี้ คนธรรมดาไม่อาจติดตามถึงที่อยู่ของพวกเขาได้อย่างเด็ดขาด

มีก็แต่เซียวเฉวียนและคนของเขาเท่านั้น

ได้ยินเช่นนี้ ยายเหยียนก็ว่า "เป็นไปได้"

เพราะตอนที่นางเจอเซียวเฉวียนครั้งแรก เซียวเฉวียนก็ตั้งคำถามนี้กับนาง

ถ้าไม่ระแวงสงสัย เซียวเฉวียนจะมาถามได้ยังไง ?

ครั้งที่แล้ว ยายเหยียนไปหาเซียวเฉวียน อันดับแรกเพื่อทดสอบกำลังของเขา ประการที่สองเพื่อดูว่าเขาสงสัยนางและพี่น้องเว่ยหงหรือไม่

ก็อย่างที่คาดไว้

ดังนั้น ที่นางจะสังหารเซียวเฉวียน ก็เป็นอย่างที่เสวียนอวี๋และเซียวเฉวียนคิด ไม่ใช่เพราะเซียวเฉวียนไปเผาเขาหมิงเซียนและทำลายสำนักหมิงเซียน

นางรู้ดีว่าหน้าที่รับผิดชอบอันสำคัญที่สุดของเรื่องนี้อยู่ที่นักปราชญ์ นักปราชญ์หาเหาใส่หัวเอง มาโทษเซียวเฉวียนไม่ได้

ถ้านางเป็นเซียวเฉวียน นางก็จะทำแบบเดียวกัน

ดังนั้น กรณีของสำนักหมิงเซียนถูกทำลายไปเพราะมือของเซียวเฉวียน ยังไม่ถึงขั้นที่ยายเหยียนต้องมาสังหารเซียวเฉวียนให้ได้

การสังหารเซียวเฉวียนเพื่อเห็นแก่สำนักหมิงเซียนเป็นเพียงข้ออ้างให้เป็นที่ประจักษ์ของยายเหยียนเท่านั้น

สาเหตุที่แท้จริงนั้นคือนางมีความเกี่ยวข้องอันสำคัญกับการรีดแก่นเลือดระหว่างคิ้วของทหารตระกูลเซียว และเซียวเฉวียนกำลังสืบสวนเรื่องนี้มาตลอด !

เมื่อพี่น้องเว่ยหงมาตามหานาง นางก็รู้ว่าเซียวเฉวียนได้เล็งเป้ามาที่พี่น้องเว่ยหงแล้ว และไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องตามเส้นสายนี้คลำมาถึงต้นตออย่างนางอย่างแน่นอน

นางและเซียวเฉวียนถูกลิขิตไว้แล้วว่าจะอยู่ด้วยกันอย่างสันติไม่ได้ ถูกลิขิตแล้วว่าไม่ว่าจะเป็นเขาหรือเป็นนางต้องตายไปข้างใดข้างหนึ่ง !

ในเมื่อเป็นอย่างนี้ นางจึงต้องชิงลงมือก่อน !

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย