ตอน บทที่ 1886 มีนามว่าอะไร จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1886 มีนามว่าอะไร คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
เพื่อให้ทุกคนร่วมมือกับการแสดงของพวกเขา หลังจากที่พี่น้องเว่ยหงส่งคนที่ “ยืม” ไปยังที่อยู่ของพวกเขาแล้ว พวกเขาทั้งสองคนก็แยกย้ายกันไปอยู่บ้านของชายหนุ่มทั้งสองคนนั้น
เขายังขู่ออกมาว่า “ขอแค่พวกเจ้าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พวกข้าจะไม่ทำให้พวกเจ้าลำบากแม้แต่น้อย แต่หากพวกเจ้าไม่ให้ความร่วมมือ เช่นนั้นก็อย่าหาว่าพวกข้าไม่เตือน”
เห็นได้ชัดว่าเป็นการข่มขู่ ทั้งสองคนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทาว่า “ใต้เท้ามีคำสั่งอันใด สามารถเอ่ยปากออกมาได้ทุกเมื่อ พวกเขาจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี”
เว่ยหงกล่าวออกมา “ก่อนอื่นพวกเจ้าห้ามเป็นกังวลเรื่องใดทั้งสิ้น ใช้ชีวิตให้เหมือนกับในวันปกติของพวกเจ้าไปก็พอ”
ความหมายของคำพูดนี้ก็คือ ทำเป็นเหมือนเว่ยหงนั้นไม่มีตัวตน แต่หากมีใครมาถามเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับพวกเขา พวกเขาก็ไม่อาจตอบไปอย่างเรื่อยเปื่อยได้
ห้ามพูดจาไร้สาระ ชาวบ้านเข้าใจดี แต่จะให้พวกเขาใช้ชีวิตเหมือนวันปกติที่ผ่านมา พวกเขาจะทำได้อย่างไร?
มีคนที่สามารถสังหารพวกเขาได้ตลอดเวลาอยู่ในบ้าน พูดตรงๆ ก็คือ ชีวิตของพวกเขาอยู่ในมือของเว่ยหง จะไม่ให้พวกเขาหวาดกลัวได้อย่างไร?
มันจะทำตัวเหมือนปกติได้อย่างไร?
มันทำเช่นนั้นไม่ได้จริงๆ
แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่เคร่งขรึมของเว่ยหง ชาวบ้านก็ไม่กล้าพูดว่าตนเองทำไม่ได้ ทำได้เพียงอดกลั้นไว้ในใจและรับปากไปว่า “ขอรับ”
ให้ตายเถอะ มีคนแปลกหน้าในดินแดนอันห่างไกลมาปะปนอยู่บนภูเขาลูกนี้งั้นหรือ?
แค่มาอยู่ก็ไม่เท่าไหร่ แต่พวกเขากลับไม่ใช่คนธรรมดา!
สามารถสังหารผู้คนได้ตลอดเวลา ต่อให้ไม่ใช่นักฆ่าในยุทธภพ เขาก็คงเป็นนักฆ่าที่สามารถสังหารผู้คนได้ในพริบตา!
ช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก
พวกเขาอาศัยอยู่ที่นี่มาหลายช่วงอายุคนแล้ว อาศัยอยู่เป็นเวลาหลายสิบปี ที่นี่มีเพียงแค่คนที่จากไป ไม่มีใครเข้ามา แต่ทันทีที่มีคนเข้ามา พวกเขากลับมาข่มขู่เพื่อเอาชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่
ดูจากสภาพแล้ว คนพวกนี้น่าจะเป็นคนที่หนีเอาชีวิตรอดมาจนถึงที่นี่
คนแปลกหน้าที่พวกเขาพูดถึง เป็นไปได้ว่าจะเป็นศัตรูคู่แค้นของพวกเขา
ต่อให้ชาวบ้านมีความคิดที่เรียบง่ายมากแค่ไหน แต่พวกเขาก็รู้ว่าพวกเขากำลังช่วยคนพวกนี้ให้พ้นจากความยากลำบาก และมีความเป็นไปได้สูงว่าคนพวกนี้จะต้องหันกลับมาทำร้ายพวกเขา
แต่ให้ศัตรูของพวกเขาจากไป นั่นจะเป็นวันแรกที่ชาวบ้านจะต้องเสียชีวิต
คนพวกนี้ไม่คิดจะเปิดเผยที่อยู่ของตนเอง ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาจะทำก็คือการฆ่าปิดปาก
ไม่เพียงแค่ผู้อาวุโสของตระกูลที่เว่ยหงควบคุมเท่านั้นที่คิดเช่นนี้
ผู้อาวุโสของตระกูลที่เว่ยหยานควบคุมเองก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน
ดังนั้นผู้อาวุโสของทั้งสองตระกูลจึงตัดสินใจ หากคนแปลกหน้าเข้ามาจริงๆ พวกเขาจะหาหนทางในการบอกกับคนแปลกหน้าให้รับรู้ว่า คนที่พวกเขากำลังตามหานั้นอยู่ที่นี่
อีกด้านหนึ่ง เซียวเฉวียนและเสวียนอวี๋นอนหลับพักผ่อนเต็มอิ่ม พวกเขากลับมามีชีวิตชีวา ร่างกายของพวกเขารู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมาก
ทั้งสองคนเจอลำธารเล็กสายเล็กๆ สายหนึ่ง หลังจากที่ล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็เริ่มค้นหาร่องรอยของพวกนักปราชญ์ต่อไป
ระหว่างทางทั้งสองได้พบกับคนสัญจรไปมา
เมื่อชายคนผู้นั้นเห็นเซียวเฉวียนและเสวียนอวี๋ เขาก็ตกตะลึงขึ้นมาทันได้ จากนั้นก็จ้องมองทั้งสองคนอย่างระมัดระวัง
แม้ว่าบนร่างกายของเซียวเฉวียนจะลมปราณแห่งการสังหารอันแรงกล้าปกคลุมอยู่ แต่มันก็ไม่ได้มีอำนาจข่มขู่หรือเข่นฆ่า ชายผู้นั้นใช้ชีวิตมาหลายสิบปี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบคนอย่างเซียวเฉวียน ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจ
และเสวียนอวี๋เองก็จ้องมองเขาอย่างระมัดระวังเช่นกัน
ชายผู้นั้นหันกลับไปอย่างรวดเร็ว ดูว่าจะมีใครมอบความกล้าให้กับเขาหรือไม่
สุดท้ายเขาก็พบว่า ในเส้นทางที่ยาวไกลด้านหลังของเขา ไม่มีผู้ใดอยู่แม้แต่คนเดียว
ชายผู้นั้นร้องไห้อยู่ในใจ
ที่ผ่านมา เขามักจะออกมาเป็นกลุ่ม แต่ก็ไม่เคยได้พบเห็นคนแปลกหน้าเช่นนี้เลย
วันนี้เป็นครั้งแรกที่ออกมาเพียงลำพัง แต่กลับพบคนแปลกหน้าที่น่าหวาดกลัวถึงสองคน หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นไปจนถึงลำคอ
เขากลัวว่าสองคนนี้จะสังหารเขา
เห็นอย่างนั้นเซียวเฉวียนก็เอ่ยปากออกไปว่า “พี่ชาย พวกข้ามาที่นี่เพื่อตามหาใครบางคน ท่านไม่ต้องตื่นตระหนก”
ได้ยินเช่นนั้น สุดท้ายเขาก็สงบสติอารมณ์ได้ แต่เขาก็ยังไม่กล้าพูดอะไรออกมา เพียงแค่เหลือบมองไปทางเซียวเฉวียนและเสวียนอวี๋อย่างระมัดระวัง
และในตอนที่เซียวเฉวียนกำลังจะหันหลังกลับเพื่อไปตามหายังสถานที่อื่น
ชายผู้นั้นก็เอ่ยปากขึ้นมาว่า “คุณชายทั้งสอง หมู่บ้านของพวกเราอาศัยอยู่ค่อนข้างกระจัดกระจาย ไม่ค่อยได้พบเจอกันในวันธรรมดา ท่านทั้งสองสองไปถามบ้านหลังอื่นดูได้”
“บางทีอาจจะมีคนพบเห็นพวกเขาอยู่”
ได้ยินชายคนดังกล่าวพูดออกมาเช่นนี้ เซียวเฉวียนก็คำนวณอยู่ในใจ
บ้านที่สร้างอยู่บริเวณนี้ ส่วนใหญ่แล้วน่าจะสร้างอยู่บนภูเขา บางทีบ้านของเจ้าอาจจะอยู่บนภูเขาลูกนั้น บ้านของข้าอยู่บนภูเขาลูกนี้ หรือไม่ก็บ้านของเจ้าอยู่ตรงตีนเขา บ้านของข้าอยู่บนกลางเขา
ด้วยเหตุนี้เอง ชาวบ้านจึงได้พบปะกันน้อยมาก เรื่องราวต่างๆ จึงไม่ค่อยปะติดปะต่อกัน
เมื่อเป็นเช่นนี้ เซียวเฉวียนจึงรู้สึกว่าเขาควรจะเดินทางไปหาที่หมู่บ้านแห่งนั้นสักครั้ง
หลังจากที่เซียวเฉวียนขอบคุณชายผู้นั้นเป็นอันเรียบร้อย เขาก็เดินทางไปด้านหน้าต่อไป
เซียวเฉวียนเดินออกไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ชายผู้นั้นก็ตะโกนขึ้นมาว่า “ขอถาม คุณชายมีนามว่าอะไร?”
เมื่อได้พูดคุยกันพักหนึ่ง เขาก็มั่นใจได้ว่าเซียวเฉวียนไม่ใช่คนเลวร้าย ชายผู้นั้นจึงมีความกล้ามากขึ้น
ในสายตาของเขา เซียวเฉวียนและเสวียนอวี๋คือผู้ร่ำรวยและมีเกียรติเป็นอย่างมาก
และหมู่บ้านแห่งนี้ก็อยู่ห่างไกลจากสายตาของฮ่องเต้ เขามีชีวิตอยู่ที่นี่มาหลายสิบปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นคนประเภทนี้เดินทางมาที่นี่ ดังนั้นเขาจึงเกิดความสงสัยและอยากรู้ว่าเซียวเฉวียนมีนามว่าอะไร แต่อาศัยอยู่ที่ไหน
เซียวเฉวียนหันกลับมา ตอบกลับไปว่า “ตัวข้านั้นแซ่เซียว นามว่า เฉวียน ส่วนน้องชายท่านนี้มีนามว่าเสวียนอวี๋”
เซียวเฉวียน?
เหตุใดชื่อนี้ถึงได้ฟังดุคุ้นหูยิ่งนัก
แต่เขาก็ครุ่นคิดอยู่นาน สุดท้ายก็นึกไม่ออกว่าได้ยินชื่อนี้มาจากที่ไหน
ชายผู้นั้นกล่าวว่า “คารวะคุณชายเซียว คุณชายเสวียนอวี๋ ไม่ทราบว่าคุณชายทั้งสองมาจากที่ใด?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...