สรุปตอน บทที่ 1901 ช่วยเหลือเสวียนจิ้ง – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
ตอน บทที่ 1901 ช่วยเหลือเสวียนจิ้ง ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
และแบบนี้เซียวเฉวียนก็จะสามารถถือโอกาสทำลายปีกของย่าเหยียนได้ เพื่อให้ความสามารถของเธอลดลง
คงจะมีแต่แผนนี้เท่านั้นที่จะสามารถอธิบายการโจมตีของเซียวเฉวียนได้
และเมื่อคิดมาถึงตอนนี้ ย่าเยียนก็รู้สึกว่าเซียวเฉวียนนี้ช่างเจ้าเล่ห์นัก
หากต้องต่อสู้กับบุคคลเช่นนี้ ต่อให้เธอจะแข็งแกร่งเพียงไหนก็ยังประมาทมิได้
ในตอนแรกเธอเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเว่ยเชียนชิวที่เป็นจอมวางแผนถึงได้พ่ายแพ้ให้กับเซียวเฉวียน
วิชากังฟูและไหวพริบปฏิภาณของเว่ยเชียนชิวนั้นถือว่าเก่งกาจไม่แพ้กัน และมีไม่กี่คนบนโลกเท่านั้นที่จะมีความสามารถถึงระดับนี้
เซียวเฉวียนที่ต่อให้จะเก่งกาจแค่ไหน แต่ก็เป็นเพียงชายหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ ด้วยวัยเพียงแค่นี้จะเก่งได้ถึงระดับไหนกันเชียว?
หากพูดตามหลักเหตุผลแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่เว่ยเชียนชิวนั้นจะพ่ายแพ้ให้แก่เซียวเฉวียน
แต่เมื่อต้องมาต่อสู้กับเซียวเฉวียนด้วยตัวเอง ย่าเยียนถึงเข้าใจว่าเหตุใดเว่ยเชียวชิวถึงได้พ่ายแพ้ต่อเซียนเฉวียนอย่างราบคาบ
เซียวเฉวียนรู้วิธีรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้า รู้วิธีที่จะส่งเสริมจุดแข็งและหลีกเลี่ยงจุดอ่อน แถมยังรู้วิธีคุ้นเคยกับมนุษย์และธรรมชาติ
เฉกเช่นตอนนี้ที่เซียวเฉวียนรู้ดีว่าตัวเขาอาจไม่สามารถเอาชนะย่าเยียนได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกกลยุทธ์วงเวียน
เขาจะไม่เผชิญหน้ากับย่าเยียนโดยตรง แต่ก็ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเธอได้เช่นกัน
ถึงแม้มันจะทำให้เธอสูญเสียพี่น้องเว่ยหงหรือสหายนักปราชญ์ไปซึ่งจะทำให้ขอบเขตกำลังของย่าเยียนอ่อนแอลง เซียวเฉวียนก็ยินดีจะทำ
การโจมนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการหย่อนกำลังของย่าเยียนลงเท่านั้น แต่ยังยื้อเวลาให้เซียวเฉวียนได้ฟื้นฟูกำลังของตัวเองด้วย เรียกได้ว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
สิ่งที่เซียวเฉวียนรู้ดียิ่งกว่านั้นคือ สำหรับย่าเยียนแล้วเว่ยหงใช้ประโยชน์ได้มากกว่านักปราชญ์ เพราะงั้นนางจึงยอมให้เสวียนอี๋และชุนเซียวถูจัดการกับนักปราชญ์และนางจัดการกับเว่ยหงแทน
และในสถานการณ์แบบนี้ ย่าเยียนเองก็จะมุ่งความสนใจไปแค่สิ่งสิ่งนึงและละเลยอีกสิ่งหนึ่งไป ซึ่งหากพิจารณาดูแล้วนางก็จะเลือกปกป้องเว่ยหงก่อนแน่นอน
เพราะงั้นเซียวเฉวียนจึงไม่มีความกังวลว่าย่าเยียนจะหันมาต่อต้านเสวียนอแต่อย่างใด
ถูกต้อง นั่นคือสิ่งที่เซียวเฉวียนคิด
ในความเป็นจริงสำหรับย่าเยียนแล้วการใช้ประโยชน์จากเว่ยหงนั้นมีค่ามากกว่านักปราชญ์จริงๆ
แต่สิ่งที่เซียวเฉวียนไม่รู้ก็คือสำนักหมิงเซียนแท้จริงแล้วเป็นของย่าเยียน ในแง่ความภักดีที่มีต่อสำนักหมิงเซียน เขาก็จัดว่าเป็นนักปราชญ์คนนึง
เช่นเดียวกัน แม้ว่าจะดูหัวโบราณและมีพฤติกรรมแบบสุดโต่ง แต่การที่พวกเขามีจุดเริ่มต้นที่ดีก็เพื่อสำนักหมิงเซียนทั้งนั้น
และเว่งหงเองก็มีความทะเยอทะยานและเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่มาก พวกเขาคงไม่ยินดีที่จะยอมแพ้ให้ใครง่ายๆ ความสัมพันธ์ของเขาและย่าเยียนเป็นเพียงพันธมิตรในการสู้รบเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการเท่านั้น
และในตอนนี้ย่าเยียนก็ยังปกป้องพวกเขา ถึงแม้จะเหมือนเป็นเพียงการใช้ประโยชน์จากพวกเขาก็ตาม
แม้ว่าตอนนี้เว่ยหงจะเป็นอาชญากรที่ถูกตามล่า แต่เรือพังก็ยังเหลือกงเรือ หากอนาคตเขาต้องการทำลายสำนักหมิงเซียน แค่เพียงคนเดียวคงไม่พอ อาจต้องหยิบยืมความช่วยเหลือจากคนอื่นเพิ่ม
แต่หากจะให้ย่าเยียนเลือกอย่างใดอย่างนึงแล้วนั้น นางก็คงเลือกที่จะช่วยนักปราชญ์ก่อน
เมื่อครู่การให้เว่ยหงออกไปก่อน แต่มาพบว่าให้ทั้งสองหนีออกไปก่อนน่าจะดีที่สุด
นอกจากนี้ เซียวเฉวียนเองก็คงไม่ปราถนาจะเป็นไปตามแผนของย่าเยียน เพราะนางจะสังหารเขาในตอนที่เขาไม่ทันได้ระวังอะไร
นางโน้มตัวลง และมุ่งตรงไปยังเสวียนอี๋
แต่บนร่างของเสวียนอี๋นั้นมีชุนเซียวถูอยู่ ย่าเยียนจึงไม่สามารถเข้าช่วยเหลือนักปราชญ์ได้โดยง่าย
และในเวลานี้เอง นักปราชญ์ก็กำลังต่อสู้กับเสวียนอี๋อยู่
เสื้อผ้าที่ห่อหุ้มร่างของนักปราชญ์ถูกกิ่งไม้ฉีกออกเป็นชิ้นๆ และในบางจุดของผิวหนังก็โดนกิ่งไม้บาดลึกเข้าไปด้วย
นักปราชญ์ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก หากแต่ที่เลวร้ายกว่านั้นคือเสวียนอี๋ เห็นได้ชัดว่าเสื้อผ้าของเขาขาดรุ่ยและร่างกายของเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เมื่อเห็นว่าย่าเยียนกำลังจะลงมา เสวียนอี๋จึงถือโอกาสนี้จบสงครามโดยเร็ว
ดังนั้นเมื่อเซียวเฉวียนเห็นย่าเยียนกำลังจะเข้าโจมตีเสวียนอี๋และชุนเซียวถู เขาก็วางเกราะป้องกันขังเว่ยหงไว้และป้องกันไม่ให้พวกเขาหลบหนี
หลังจากนั้นค่อยไปสมทบกำลังกับเสวียนอี๋
ย่าเยียนเมื่อเห็นสิ่งประหลาดอย่างชุนเซียวถู ก็มีสายตาที่ดูประหลาดใจ
พู่กันเฉียนคุนที่ถูกใช้โดยเซียวเฉวียนก็ทำให้ย่าเยียนตกตะลึงมากพอแล้ว นางคิดไม่ถึงเลยว่าชุนเซียวถูจะถูกใช้โดยเขาอีก
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เจี้ยงจงจะรับใช้เขาในฐานะปรมาจารย์!
ความเร็วของชุนเซียวถูนั้นมีเกือบจะเท่ากับย่าเยียน
และเพราะเหตุผลนี้เอง ที่ชุนเซียวถูสามารถดึงเวลาป้องกันย่าเยียน เพื่อให้เสวียนอี๋ได้ลงมือ
เมื่อเห็นการมาถึงของเซียวเฉวียน ชุนเซียวถูก็โยนเสวียนจิ้งขึ้นไปทางเซียวเฉวียนเพื่อให้เขาจัดการ
เสวียนจิ้งเป็นมนุษย์ ชุนเซียวถูไม่สามารถฝังเขาลงไปในภาพวาดได้ ไม่เช่นนั้นเขาจะถูกปิดผนึงและขาดอากาศตายในที่สุด
เซียวเฉวียนเมื่อเข้าใจสถานการณ์ก็รีบจับเสวียนจิ้งขึ้นมา และวางแนวป้องกันไว้ ก่อนจะพูดว่า “เสวียนอี๋ รีบขึ้นมา!”
ผลได้รับจากวันนี้ถือว่าคุ้มค่าแล้ว พอแค่นี้ก่อนดีกว่า
อย่างไรเสียเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน เซียวเฉวียนและเสวียนอี๋ต่างก็ไม่สามารถทำอะไรย่าเยียนได้
ถึงแม้เซียวเฉวียนจะเรียกกำลังเสริมมา แต่กว่าจะมาถึงย่าเยียนก็คงหนีไปแล้ว
เช่นนั้นแล้วเซียวเฉวียนจะทำการที่ไร้ประโยชน์นั่นไปทำไม
ย่าเยียนลืมไปว่าเสวียนจิ้งอยู่ในกองทัพบริสุทธิ์
เพราะงั้นนางคิดว่าถึงเสวียนจิ้งจะโดนจับก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร ยังไงเสียความสามารถของเขาก็ไม่ได้เก่งกาจอะไร อีกทั้งยังเป็นเพียงเด็กที่ถูกทอดทิ้ง
และในขณะนั้นักปราชญ์ก็ตระโกนว่า “ผู้นำเหยียน ท่านต้องช่วยเสวียนจิ้งนะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...