ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1917

สรุปบท บทที่ 1917 เหตุใดใยต้องตะโกน: ซูเปอร์ลูกเขย

สรุปเนื้อหา บทที่ 1917 เหตุใดใยต้องตะโกน – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บท บทที่ 1917 เหตุใดใยต้องตะโกน ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เซียวเฉวียนชอบสัมผัสประสบการณ์ความสนุกแบบนี้มากที่สุด

พอแรกเริ่ม เสวียนจิ้งมุ่งเน้นไปที่การเผามันเทศให้กับเซียวเฉวียน ไม่สนใจว่ามันเทศคืออะไร

ตอนนี้เมื่อเขากำลังจะเริ่มทำงาน เสวียนจิ้งก็คิดได้ว่าเขาไม่เคยได้ยินเรื่องมันเทศมาก่อน

เขามองดูมันเทศที่กองอยู่ตรงหน้าอย่างระมัดระวัง จากนั้นยกเปลือกตาขึ้นอย่างสงสัย และอยากจะถามเซียวเฉวียนว่าสิ่งนี้คืออะไร

แต่ไม่รู้ว่าเซียวเฉวียนออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เสวียนจิ้งทำได้เพียงดูเซี่ยวเฟิงและกิเลนที่ยังคงอยู่

แต่เซี่ยวเฟิงและกิเลนพูดไม่ได้ ถามไปก็เสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ

สิ่งที่เสวียนจิ้งคิดไม่ถึงก็คือเซี่ยวเฟิงสามารถเห็นความกระหายและความอยากรู้ของเสวียนจิ้งจากดวงตาที่สับสนของเขา

มันเขียนไว้บนพื้นอย่างบิดเบี้ยว “อยากรู้อย่างนั้นหรือ? ก็ไปถามนายท่านข้าซะสิ”

สรุปว่า มันเทศก็คือแหล่งอาหารที่อร่อยที่สุดอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซี่ยวเฟิงและกิเลนไม่สามารถบอกได้

เดิมทีเสวียนจิ้งก็นึกว่าเซี่ยวเฟิงจะพูดอะไรออกมาให้เข้าใจ ใครจะรู้ว่าเหมือนที่เบจะพูดอะไร แต่จริง ๆ แล้วกลับไม่ได้พูดอะไรสักนิด

คำถามหนึ่งยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่เสวียนจิ้งพบอีกคำถามหนึ่ง เนื่องจากเขาไม่รู้จักมันเทศ เขาจึงไม่รู้ว่าจะกินมันอย่างไร ไม่ต้องพูดถึงว่ามันปรุงอย่างไรถึงจะสุก

เขาไม่รู้วิธีควบคุมความร้อนด้วยซ้ำ หัวหมออย่างเซียวเฉวียนต้องการให้เขาเผามันเทศไม่เป็น นี่ไม่ได้บังคับให้เขาทำอะไรยาก ๆ อย่างนั้นเหรอ?

กิน กิน และก็กิน!

ไม่กลัวว่าเสวียนจิ้งจะแอบใส่ยาพิษให้เขาตายหรืออย่างไร!

ฮึ!

แน่นอน เสวียนจิ้งแค่ต่อว่าเซียวเฉวียนในใจเพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นเท่านั้น

ความเป็นจริงแล้ว มีทั้งเซี่ยวเฟิงและกิเลนจ้องเขมือบเขาอยู่ เขาจะเอาที่ไหนมากล้า?

กลัวว่าเซียวเฉวียนยังไม่ทันจะได้ตายจากยาพิษ เกรงว่าเขาจะตายจากกรงเล็บสองตัวนี้ก่อนซะสิ

แต่มันเทศไม่สามารถเผาได้ ดังนั้นเสวียนจิ้งจึงต้องเข้าใจมันเทศ

เขาลุกขึ้นและต้องการตามหาเซียวเฉวียน แต่เขาไม่คาดคิดว่าเขาลุได้แค่ครึ่งหนึ่ง เซี่ยวเฟิงมองเสวียนจิ้งด้วยสีหน้าดุร้าย เสวียนจิ้งที่ตกใจจึงทำกลับไปนั่งลงแต่โดยดี

เขาพึมพำ “นี่ ในเมื่อท่านเก่งถึงขนาดนั้น ท่านจะมากังวลอะไรเล่า?”

“ข้าเพียงแค่อยากจักถามเซียวเฉวียนให้แจ้งใจ ว่ามันเทศเหล่านี้มันต้องทำเยี่ยงไร“

เซี่ยวเฟิงไม่มีท่าทีที่จะผ่อนคลาย แต่ยังคงมองเสวียนจงเช่นเดิม

เมื่อดูจากท่าทางแล้ว เห็นได้ชัดว่ามันไม่ให้โอกาสเสวียนจิ้งได้เข้าใกล้เซียวเฉวียน

แม้ว่าความแข็งแกร่งของเสวียจิ้งจะไม่ดีนัก แต่บางครั้งแม้แต่น้ำตื้นก็อาจทำให้วัวจมน้ำได้ เป็นเรื่องถูกต้องเสมอที่จะระมัดระวังเมื่อล่องเรืออายุพันปี

เมื่อเห็นว่าเซี่ยวเฟิงระวังเขามาก เสวียนจิ้งก็ทำได้แค่ขึ้นเสียงแล้วพูดว่า "แล้วเจ้าบอกข้าได้ไหมเล่า ว่าไอมันเทศนี้มันทำอย่างไร?”

อยากจะให้เขาเผาให้กิน ก็ต้องบอกมาสิว่าทันเทศมันทำอย่างไร

แม้แต่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร แต่กลับให้เขาเผา และเงื่อนไขสูงขนาดน้ นี่กำลังล้อกันเล่นอยู่ใช่หรือไม่?

หลังจากนั้นไม่นาน เสียงแผ่วเบาของเซียวเฉวียนก็ดังขึ้น "มันเทศก็คือมันเทศ มันปรุงสุกเมื่อมันนิ่ม เข้าใจไหมแล้วหรือไม่?"

“ส่วนเรื่องจะทำไม่ไหม้นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้า”

ถ้าบอกเขาไปหมด นั่นก็อดสนุกหมดน่ะสิ

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เสวียนจิ้งพึมพำ “แสร้งทำเป็นเร้นลับ ไม่บอกก็ไม่ต้องบอก!”

ในช่วงเวลาที่เสวียนจิ้งออกจากทะเลทรายพร้อมกับนักปราชญ์ ไม่กล้าพูดว่าทักษะการทำอาหารของเขานั้นพัฒนาขึ้นอย่างมาก

แน่นอนว่าการปรับปรุงนี้สัมพันธ์กับทักษะการทำอาหารก่อนหน้าของเสวียนจิ้งเท่านั้น

โดยเฉพาะทักษะการเผ่าย่างก็พัฒนาขึ้นมาก

ช่างน่ารำคานชะมัด!

ครั้งนี้เขาประสบกับความทุกข์อย่างแท้จริง!

เซียวเฉวียนเป็นตะเกียงที่ไม่ประหยัดน้ำมันจริงๆ เขาได้รับบาดเจ็บ แต่เขาก็ยังทรมานเสวียนจิ้งเช่นนี้

เมื่อเซียวเฉวียนเข้ามาเกี่ยวข้อง เสวียนจิ้งเหมือนคนซวยตกนรกทั้งเป็น!

โชคดีที่ชีวิตนี้กำลังจะจบลง และเขาก็ตะโกนในใจว่า "ท่านผู้นำเหยียน รีบมาเร็วเข้า!"

มาเร็วเข้า ก่อนที่อาการบ้าของเซียวเฉวียนจะฆ่าเขา!

แต่เราต้องไม่ให้โอกาสเซียวเฉวียนฟื้นตัวและหาทางจัดการกับย่าเหยียน!!

ในขณะที่เสวียนจิ้งกำลังเผามันเทศอย่างประหม่า เขายังคงสวดภาวนาอยู่ในใจว่าถ้าย่าเหยียนมาตอนนี้คงจะดีที่สุดถ้าท่านปรากฏตัวที่นี่ทันที

หลังจากดื่มชาไปประมาณหนึ่งจอก ในที่สุดเสวียนจิ้งก็เผามันเทศจนนุ่มอย่างที่เซียวเฉวียนพูด และภายนอกก็ดูไม่ไหม้

เพื่อดูว่ามันเทศสุกทั้งหมดหรือไม่ เสวียนจิ้งบีบมันทีละอัน

ทั้งหมกเพิ่งผมามาสด ๆ ร้อน ๆ ยังคงมีควันอยู่ แต่นิ้วของเสวียนจิ้งเต็มไปด้วยถูกไฟไหม้และพุพอง

เขาตะโกนออกไปอย่างไม่สบอารมณ์ “เซียวเฉวียน! มันเทศสุกแล้ว!”

รีบออกมากินซะ!

เมื่อไม่ได้เซียวเฉวียนตอบกลับมา เสวียนจิ้งก็คิดเองว่าเซียวเฉวียนนั่ช้นไม่ได้ยิน เขาจจึงจำต้องลุกขึ้ย แล้วเดินไปตะโกนใส่ใกล้ ๆ

ในเพลานั้น เขาลืมสิ้นไปเสียแล้วว่าเซี่ยวเฟิงไม่อนุญาตให้เขาเคลื่อนไหวใด ๆ

ดังนั้น เมื่อเซี่ยวเฟิงจ้องไปที่เสวียนจิ้งอย่างแค้นเคืองและคำรามใส่เขาเสียงต่ำ เขาตกใจมากจนต้องหยุดอย่างรวดเร็วและตะโกนจนสุดปอด “นี่เซียวเฉวียน! มันเทศที่เจ้าสั่งให้ข้าเผามันสุกแล้ว!”

“สุกแล้ว”ก่อนที่ทั้งสองคำจะเอ่ยออกมา เซียวเฉวียนก็เดินไปทีละก้าว เขาเหลือบมองเสวียนจิ้งงอย่างแผ่วเบาแล้วพูดว่า “เหตุใดใยต้องตะโกนเล่า? ตัวข้ามิได้หูหนวกเสียหน่อย”๓

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย