บทที่ 1919 ค่อย ๆ แทรกซึม – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1919 ค่อย ๆ แทรกซึม จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เสวียนจิ้งหาได้เอ่ยอันใดออกมาไม่
เซียวเฉวียนจึงกล่าวขึ้นมาว่า “หากเจ้าอยากกินมันเทศและดื่มน้ำละก็ เจ้าก็ต้องเอาสิ่งของบางอย่างมาแลกกับข้า”
ในมือของเขามีอะไรที่เขาสามารถแลกเปลี่ยนกับเซียวเฉวียนได้ด้วยหรือ?
ถึงแม้ว่าเซียวเฉวียนจักมิได้เอ่ยออกมาอย่างชัดเจน หากแต่เสวียนจิ้งรู้ดีว่าเซียวเฉวียนต้องการให้เขาเปิดเผยที่อยู่ของกองกำลังชาวยุทธ์แท้มากเพียงใด
ก่อนที่ย่าเหยียนจักหาเขาเจอนั้น ข้อต่อรองเดียวที่เสวียนจิ้งมีนั่นก็คือ เขารู้ที่อยู่ของกองกำลังชาวยุทธ์แท้
ไม่ว่าเขาจะโง่เง่าเพียงใด เขาก็รู้ดีว่าหากตนเองพูดเรื่องนี้ออกไปนั้น คงมีแต่เพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่ตรงหน้าเขา
คนเช่นเซียวเฉวียนที่มีแค้นต้องชำระเช่นนี้ มิต้องเอ่ยถึงเรื่องอื่นเลย เสวียนจิ้งที่ป่วนทำลายพิธีบังสุกุลของกองทัพตระกูลเซียว ทั้งยังละโมบอยากได้ตัวองค์หญิงต้าถง แค่นี้ก็เพียงพอที่เซียวเฉวียนจักทำการสังหารเขาได้แล้ว
ในเมื่อเขาจักต้องตาย เหตุใดต้องให้การตายของตนเองมีประโยชน์ต่อเซียวเฉวียนด้วยเล่า?
เสวียนจิ้งยังคงมิยอมลืมตาขึ้นมา ทั้งยังไม่ยอมเอ่ยอันใดออกมาอีกด้วย
เซียวเฉวียนจึงเอ่ยขึ้นมาอีกว่า "ตราบใดที่เจ้าบอกที่อยู่ของกองกำลังชาวยุทธ์แท้ละก็ ข้าจักไว้ชีวิตเจ้าเป็นเช่นไร?"
การทรมานคนนั้นมีหลายวิธียิ่งนัก มิจำเป็นว่าเราต้องเอาชีวิตของฝ่ายตรงข้ามเสียหน่อย ไว้ชีวิตเสวียนจิ้งทำให้เขาอยู่มิสู้ตายไม่ดีกว่าหรือ เซียวเฉวียนไม่เพียงแต่ให้คำสัญญา แต่เขาเองยังสามารถบรรลุเป้าหมายในการแก้แค้นเสวียนจิ้งได้อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ในสายตาของคนชั่วร้ายพวกนี้ เดิมทีเซียวเฉวียนหาใช่พวกเล่นตามแผนไม่ อีกทั้งเขายังมิสนใจคำสาบานอีกด้วย ขอเพียงตนเองสามารถบรรลุเป้าหมายได้นั้น เขาค่อยไปตลบหลังคนพวกนั้นก็ยังมิสาย
ในเมื่อต้องมารับมือกับคนชั่วร้ายเหล่านี้ หาได้มีความจำเป็นต้องซื่อสัตย์ต่อพวกเขาไม่ เพียงแค่ต้องใช้วิธีการบางอย่างเท่านั้น
การหลอกลวงพวกเขาจึงหาใช่เรื่องใหญ่อันใดไม่
เมื่อได้ยินว่าเซียวเฉวียนเต็มใจที่จะไว้ชีวิตของตนเองนั้น เปลือกตาของเสวียนจิ้งพลันกระตุกขึ้นมาในทันที
ไม่นานนักเขาก็รีบกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว ทำทีไม่สนใจเซียวเฉวียนต่อ
เจ้าปีศาจเซียวเฉวียนเป็นคนที่มีความคิดชั่วร้ายมากมาย หากเขากล่าวว่าเต็มใจที่จะไว้ชีวิตเสวียนจิ้งไปนั้น เกรงว่าในใจของเขาอาจคิดหาวิธีหลายพันวิธีที่จะทำให้ชีวิตของเสวียนจิ้งอยู่มิสู้ตายก็เป็นได้
คำพูดของเซียวเฉวียนล้วนแต่โกหกทั้งเพ
ใครก็ตามที่เชื่อเขาช่างไร้เดียงสายิ่งนัก ดวงซวยแน่ ๆ หากเชื่อในลมปากของเซียวเฉวียน
เสวียนจิ้งย่อมมิยอมถูกหลอกด้วยลูกไม้เช่นนี้แน่ ๆ !
เขาย่อมเก็บความลับที่อยู่ของกองกำลังชาวยุทธ์แท้เอาไว้จนตาย เช่นนี้เขายังคงพอจะประคับประคองตนเองให้มีชีวิตรอดไปได้สักหน่อย
หากเขาเปิดเผยมันออกไปแล้ว เกรงว่าคำยังมิเอ่ยจนจบ ชีวิตของเสวียนจิ้งคงจักได้ถูกสังเวยเอาไว้ที่นี่กระมัง
หากเสวียนจิ้งเห็นว่าการค้านี้ตนเองจักขาดทุนละก็ เขาจักมิมีวันยอมลงทุนลงไปเป็นอันขาด
เมื่อเห็นสีหน้าสงบเงียบของเสวียนจิ้งแล้วนั้น เซียวเฉวียนพลางเอ่ยเยาะเย้ยออกมาด้วยท่าทีเย็นชาว่า "เจ้าคิดว่าตนเองจักมีชีวิตรอดไปหรือ หากมิคายสิ่งใดออกมา?"
เจ้าคิดว่าการที่ตนเองรู้จักที่อยู่ของกองกำลังชาวยุทธ์แท้นั้น มันจักช่วยให้ชีวิตของเจ้ารอดพ้นไปได้หรือ?
หากเสวียนจิ้งคิดเช่นนั้นจริง ๆ เช่นนั้นเขาก็คิดผิดมหันแล้ว!
ในเมื่อเสวียนจิ้งมิต้องการเอ่ยออกมา เช่นนั้นไว้ชีวิตเขาไปก็หาได้มีประโยชน์อันใด
ไม่ว่าอย่างไร ในเมื่อเสวียนจิ้งมิต้องการเอ่ยออกมา การไว้ชีวิตเขาเอาไว้ ก็ยังต้องมาคอยจัดข้าวปลาอาหารให้อีก เรื่องที่ไม่คุ้มค่าเช่นนี้ เซียวเฉวียนย่อมมิคิดทำเช่นกัน
เซียวเฉวียนจึงเอ่ยถามเสวียนจิ้งออกมา "ข้อแลกเปลี่ยนนี้ เจ้าจะทำหรือไม่เล่า?"
เซียวเฉวียนในยามนี้ หลงเหลือมันเทศเพียงสองอันเท่านั้น
หากเสวียนจิ้งไม่ยอมเปิดปากออกมา เขาย่อมกินมันเทศสองอันสุดท้ายแล้วกลับไปพักผ่อนในทันที
เซียวเฉวียนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ เขาย่อมมิเหมาะที่จะยืนเป็นเวลานาน ทั้งยังมิต้องการเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกต่อไป
เพียงประโยคเดียว เสวียนจิ้งจะพูดหรือไม่พูด?
ชีวิตของเขาอยู่ในกำมือของเซียวเฉวียนเช่นนี้แล้ว อันที่จริงมิว่าเสวียนจิ้งจักเอ่ยออกมาหรือไม่ ชีวิตของเขาล้วนขึ้นอยู่กับเซียวเฉวียนอยู่ดี
หากเสวียนจิ้งเอ่ยออกมายังพอเดิมพันได้ว่า เซียวเฉวียนจักเป็นคนรักษาคำพูดและไว้ชีวิตเขาไปหรือไม่
เช่นนี้ เขายังพอรักษาตัวอยู่รอดไปได้จนกว่าย่าเหยียนจักมาช่วยเขา
หากเขามิเอ่ยอันใดออกมาเลย แล้วเซียวเฉวียนมิสนใจผลที่ตามมาและสังหารเขาไปเลยละก็ เช่นนี้โอกาสที่จะมีชีวิตรอดของเสวียนจิ้งย่อมมิมีเหลือ
เขาหิวมากจน มิอาจนอนหลับได้สนิท
ความลำบากที่มิอาจอดทนได้นี้ ทำเอาเสวียนจิ้งได้สัมผัสกับมันแล้ว นับว่าต้องขอบคุณ “ของขวัญ” ที่เซียวเฉวียนมอบให้กับเขา!
เสวียนจิ้งค่อย ๆ หลับตาลง ภายในใจได้แต่ครุ่นคิดกับตนเองว่า เขาควรจะบอกเซียวเฉวียนถึงที่อยู่ของกองทัพตระกูลเซียวเอาไว้หรือไม่
วันรุ่งเช้า นักปราชญ์พลางบินลงจากหน้าผาลงมาถึงด้านล่างของตีนผาในทันที
ชาวบ้านตีนผาที่พากันตื่นนอนกันหมดแล้วนั้น ควันไฟแต่ละครัวเรือนที่ค่อย ๆ ฟุ้งกระจายออกมา ทำให้รับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของชีวิต
เหล่าชาวบ้านที่พากันเดินไปมาอยู่ในหมู่บ้านชนบท พร้อมทั้งเครื่องไม้เครื่องมือในมือ
ยามเช้าตรู่เช่นนี้ เมื่อแต่ละคนเห็นชายผมสีดอกเลาหนวดเครายืนอยู่ตรงหน้าชาวบ้าน
พวกเขาถึงกับเกิดอาการตกใจสุดขีด พร้อมกับวิ่งหนีไปในทันที ไม่สนใจเครื่องมือของตนเองเลยแม้แต่น้อย
วิ่งไปยังร้องตะโกนไปอีกว่า "ผี!"
เห็นผีแต่เช้าตรู่เช่นนี้ เพียงแค่พวกเขามิตกใจตายก็นับว่าโชคดีมากแล้ว พวกเขาจะไม่กลัวได้อย่างไร!
เสียงร้องตะโกนของชาวบ้าน พลันดึงดูดความสนใจของชาวบ้านคนอื่น ๆ ได้ในทันที
ชาวบ้านคนอื่นๆ ต่างก็พากันมองไปในทางเดียวกัน ก่อนที่จะพบชายชราผมสีดอกเลาคนหนึ่ง
ราวกับเห็นผีก็ไม่ปาน เมื่อวานมีคนแปลกหน้าเข้ามา วันนี้ก็ยังมีคนแปลกหน้าเข้ามาอีกคน
เหล่าชาวบ้านที่วางแผนจะออกไปทำงานทำการนั้น ต่างก็รีบร้อนเดินกลับไป พร้อมทั้งรีบปิดประตูบ้านเรือนของตนเองในทันที
เมื่อท่านนักปราชญ์เห็นสถานการณ์เช่นนั้น เขาก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดชาวบ้านที่ยังมิทันปิดประตูเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยออกมาว่า “น้องชายท่านนี้ ข้าบังเอิญเดินทางหลงเข้ามาที่นี่ ข้าขอพักที่นี่ก่อนได้หรือไม่?”
คำอธิบายของท่านนักปราชญ์นั้น หมายความว่าข้ามิได้ตั้งใจมารบกวนชีวิตของเจ้า ข้าแค่เผอิญหลงมายังที่แห่งนี้เท่านั้น ยังไม่สามารถเดินทางออกไปได้ในยามนี้ ข้าขอพักอยู่ที่นี่เป็นการชั่วคราว
หากต้องการให้ชาวบ้านที่เหล่านี้เข้าร่วมกับสำนักหมิงเซียน เขาจัดต้องได้รับความไว้วางใจจากชาวบ้านเหล่านี้เสียก่อน
หากอยากจะได้รับความไว้วางใจจากพวกเขานั้น ต้องค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปในสังคมของพวกเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...