โดยเฉพาะพ่อค้าร้านอื่นๆ เมื่อเห็นดังนั้นก็ตีอกชกตัวใหญ่
หากพวกเขาไม่หนีไปไหน เงินพวกนี้ก็คงเป็นของเขา
เจ้าของธุรกิจเล็กๆแบบพวกเขาต้องทำงานหนักเท่าไหร่ ถึงจะได้เงินมากมายขนาดนั้น
คิดแล้วก็เจ็บใจ!
เจ้าของร้านซาลาเปานี่ก็ไม่รู้ไปเหยียบอะไรมา ถึงได้มีโชคก้อนใหญ่ตกลงมาที่หัวแบบนี้
ช่างเป็นคนที่โชคดีจริงๆ
ทันทีที่เซี่ยวเฟิงจากไป พวกเว่ยหงและคนอื่นๆที่กำลังตามหาเซี่ยวเฟิงอยู่ก็มาที่ตลาดนี่พอดี
กลุ่มสี่คน
ในครั้งแรกที่มาเยือน เว่ยหงก็รู้สึกประหลาดใจมากที่ตลาดกลางวันแห่งนี้เงียบสงบไม่ครึกครื้น
พวกเขาเดินมาระยะหนึ่ง เว่ยหงก็ถามคนแถวนั้นว่า “ขอโทษนะ เกิดอะไรขึ้นที่นี่?”
ประชาชนที่ถูกถามก็พูดด้วยความตกใจว่า “เมื่อกี้มีเสือตัวใหญ่โผล่มาที่นี่”
ตอนแรกเว่ยหงไม่ได้แสดงท่าทีสงสัยใดๆ คิดว่าคงเป็นเสือจากป่าใหญ่แถวนี้หลุดเข้ามา
แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้คนในตลาดได้รับบาดเจ็บ แถมยังได้ยินจากปากผู้คนว่าเสือตัวนี้ยังรู้จักใช้เงินซื้อของ เขาก็รู้สึกว่าเสือตัวนี้ไม่ธรรมดา
เขาถาม “ใช่เสือโคร่งสีขาวหรือไม่?”
ประชาชนตอบ “ใช่”
เว่ยหงจึงสันนิษฐานได้ว่า เสือที่ชาวบ้านพูดถึงนั้นคือเซี่ยวเฟิง90%
เป็นเรื่องที่เหนือคาดหมาย โดยที่เขาไม่ต้องลงแรงอะไรเลย
เพื่อค้นหาที่อยู่ของสัตว์สงครามทั้งสองของเซียวเฉวียน พวกเขาทิ้งรอยเท้าและออกตามหาจากภูเขาลูกต่อลูก
เว่ยหงถามด้วยความสงสัย “มันอยู่ไหนหรอ?”
การพบเจอเซี่ยวเฟิงก็เท่ากับว่าเขาพบเจอเซียวเฉวียนด้วย
แต่ฝันของเว่ยหงก็เหมือนโดนน้ำร้อนราด กับการที่ชาวบ้านตอบเขาว่า “ไปแล้ว ถ้ามันไม่ไป พวกเราจะกล้าออกมาได้ยังไง”
เซี่ยวเฟิงน่าเกรงขามยิ่งกว่าสัตว์ป่าทุกชนิดที่เคยเจอมา ใครจะกล้าเอาชีวิตออกมาเสี่ยง
คำพูดเหล่านี้ยิ่งกระตุกความสนใจของเว่ยหง
ให้ตายเถอะ เขามาช้าไปก้าวเดียว
เว่ยหงพูดต่อ “แต่รู้ใช่ไหมว่ามันมุ่งหน้าไปทางไหน?”
ถึงจะไม่เห็นเงาของเซี่ยวเฟิง แต่ก็ได้รู้ว่ามันหนีไปทางใด เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
เซี่ยวเฟิงเคลื่อนตัวไปเร็วมาก ชาวบ้านเองก็ไม่ทันได้สังเกตุว่ามันไปทางไหน รู้เพียงมันเอาซาลาเปาสองลูกออกไป
ประชาชนคิดว่าพวกเขาเป็นพวกนักล่าที่ต้องการตัวเซี่ยวเฟิง จึงพูดโน้มน้าวว่า “ท่านนักรบ ไหนๆมันก็จากไปแล้ว ท่านก็ปล่อยมันไปเถอะ ข้าว่าเสือตัวนั้นน่ะยากจะต่อกร”
แค่เพียงมันไม่ทำร้ายคน พวกเราก็ไม่ต้องไปหาเรื่องมันให้ภัยมันมาหาตัวหรอก
ปกติเสือไม่ดุร้าย หากมันไม่ทำร้ายคน คนก็อย่าไปทำร้ายมัน
ขนาดกระต่ายเวลาโมโหมันก็กัดคน แล้วนับประสาอะไรกับเสือ
เมื่อได้ยินชาวบ้านพูดดังนั้น เขาก็ยิ้มตอบกลับ “ขอรับ ขอบคุณสำหรับความหวังดี”
เมื่อหลายวันที่ผ่านมา เว่ยหงและพรรคพวกเดินทางมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย ร่างกายก็อ่อนแรง ต้องการที่จะพักเสียหน่อย
และยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ไม่รู้ว่าเซี่ยวเฟิงมุ่งหน้าไปทางไหน ถึงรีบร้อนไปก็เท่านั้น
เว่ยหงเลือกที่จะพักกินพักดื่มที่นี่ ก็เพราะเขามั่นใจว่าหากเซี่ยวเฟิงปรากฎตัวที่นี่ นั่นก็หมายความว่าเซียงวเฉวียนซ่อนตัวอยู่ไม่ไกล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...