สรุปตอน บทที่ 1948 หลบหนีได้อย่างสมบูรณ์แบบ – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
ตอน บทที่ 1948 หลบหนีได้อย่างสมบูรณ์แบบ ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
หากพวกเขารู้ พวกเขามีความสุขมากขึ้นแน่นอน
เซียวเฉวียนเป็นเจ้านายของเซี่ยวเฟิง มันมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ บางทีเซียวเฉวียนอาจจะอยู่แถวนี้ก็ได้
ในใจของผู้คนของรัฐมู่อวิ๋น เซียวเฉวียนเป็นผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาและผู้มีพระคุณกลับมา เขาจะไม่ดีใจได้อย่างไรกัน?
แม้ว่าในรัฐมู่อวิ๋นจะมีคนเพียงไม่กี่คนที่เคยเห็นเซียวเฉวียน แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความเคารพที่พวกเขามีต่อเซียวเฉวียน
หากสามารถมองเห็นเซียวเฉวียนได้อย่างชัดเจน มันก็สามารถไล่ตามความฝันของเขาได้
ไม่ใช่เพียงแค่ในปัจจุบันที่มีการไล่ตามคนดัง แต่ในยุคโบราณก็มีเหมือนกัน
แต่ที่คนโบราณไล่ตามนั้นก็คือ วีรบุรุษและเป็นคนที่มีส่วนร่วมอย่างมากต่อสังคม
ยกตัวอย่างเช่น เซียวเฉวียน ในตอนแรกที่เขาได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดและใช้กลยุทธ์เพื่อลดอาการบาดเจ็บและเพื่อยุติความวุ่นวายในรัฐมู่อวิ๋น
นี่คือดวงดาวที่ส่องแสงในหัวใจของผู้คนมากมาย
แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับเซียวเฉวียนมากนักและไม่รู้ว่าข้างกายเซียวเฉวียนมีเซี่ยวเฟิงอยู่ด้วย
ถ้ารู้ พวกเขาก็คงไม่ตื่นตระหนกขนาดนี้ เมื่อได้เห็นเซี่ยวเฟิงปรากฏตัวขึ้นที่ถนนชางเฉิง
อีกคนก็พูดเยาะเย้ยว่า “ดูเหมือนว่า ถึงแม้ว่ามันจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง มันก็จะไม่ทำร้ายใครแน่”
ถ้าจะทำร้าย ก็คงทำไปนานแล้ว
มันออกมาพร้อมกับเงิน เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นสัตว์ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี
จากบทสนทนาของคนพวกนี้ เสี่ยวเซียนชิวก็จับใจความได้ว่า เซี่ยวเฟิงเคยมาที่นี่จริง ๆ
บังเอิญมาก เธอก็มาที่นี่เหมือนกัน
เธอยืนมองอยู่ที่ถนน สุดท้ายก็เลือกโรงแรมที่มีคนเข้าไปเยอะ ๆ
คนข้างในก็ยุ่งมาก แค่ทักทายเสี่ยวเซียนชิวง่าย ๆ จากนั้นก็กลับไปทำงานของตัวเองต่อ
ไม่มีใครว่างที่จะมาทักทายเสี่ยวเซียนชิว
แต่เถ้าแก่ร้านที่ว่างอยู่ ก็ได้เห็นสาวน้อยคนหนึ่งยืนอยู่ เขาก็ได้พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “สาวน้อย เจ้ามาหาที่พักหรือมากินข้าว?”
เห็นว่าท้องฟ้ากำลังจะมืดแล้ว เถ้าแก่ร้านก็คิดว่าเธอน่าจะมาหาที่พัก
เถ้าแก่คนนี้มีชื่อเสียงในการทำธุรกิจที่อ่อนโยนและใจกว้างในถนนชางเฉิง
ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจโรงเตี้ยมของเขาจึงดีกว่าที่อื่น ๆ มาก
เมื่อได้เห็นเสี่ยวเซียนชิวอยู่ที่ด้านนอก เขากังวลว่าเธอจะถูกคนเลวมารังแก เขาก็ได้แต่ถามเธอด้วยความเป็นห่วง ทําความเข้าใจสถานการณ์ซะก่อน
ถ้าเธอมาพักที่นี่ก็จะดีกว่ามาก แต่ถ้าเธอแค่มากินข้าว เถ้าแก่ก็พร้อมจะชวนให้เธอมาพักค้างคืนที่นี่และออกเดินทางในวันพรุ่งนี้เพื่อความปลอดภัย
เสี่ยวเซียนชิวได้ฟังที่เถ้าแก่พูด เมื่อได้มาเผชิญหน้ากับคนที่ใจดีแบบนี้ เสี่ยวเซียนชิวก็ยิ้มและพูดว่า “ท่านลุง ข้าไม่ได้กินอะไรมาสองวันแล้ว รบกวนท่านลุงจัดอาหารที่อร่อยที่สุดของที่นี่มาสองอย่าง”
พูดจบ เสี่ยวเซียนชิวก็ดึงเงินออกมาหนึ่งก้อน วางไว้ที่หน้าเถ้าแก่ แล้วพูดว่า “นี่พอหรือไม่?”
ถ้าไม่พอ เธอก็ยังมีอีก
เถ้าแก่เป็นคนดีขนาดนี้ เสี่ยวเซียนชิวเชื่อว่าเขาจะไม่หลอกเธอ แค่ราคาของอาหารเธอก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ
เงินก้อนหนึ่งนี้ ไม่ต้องทอน ยังไงซะพ่อของเธอก็มีเงิน เธอจะใช้จ่ายยังไงก็ได้
ถ้าน้อยไป เธอก็สามารถเพิ่มให้ได้และจะไม่ปล่อยให้เถ้าแก่ขาดทุนแน่นอน
เถ้าแก่ก็รีบกล่าวว่า "พอแล้วพอแล้ว"
เสี่ยวเซียนชิวกล่าวขึ้นอย่างอาจหาญ “งั้นก็ดี จัดมาให้ข้าสองชุด ไม่ต้องทอน”
เถ้าแก่หยิบเศษเงินที่แตก ๆ ออกมายัดใส่ในมือเสี่ยวเซียนชิว แล้วพูดว่า “สาวน้อย รับเอาไปเถอะ”
เสี่ยวเซียนชิวก็ค้านหัวชนฝาว่าไม่ต้องการ เถ้าแก่ก็ทำได้แต่เอาให้ลูกน้องของตน
ทันใดนั้น เถ้าแก่ก็พูดว่า “สาวน้อย เจ้าดูท้องฟ้าสิตอนนี้ก็เย็นแล้ว พักที่นี่ซักคืนดีกว่า”
ดูแล้วเจ้าก็ไม่ใช่คนท้องถิ่น กลางค่ำกลางคืนไปอยู่ข้างนอก ไม่ปลอดภัย
เสี่ยวเซียนชิวยิ้มและกล่าวว่า “ขอบคุณสำหรับความกรุณาของท่านลุง”
น่าจะเป็นเหมือนประโยคนั้นที่ว่า หนุ่มสาวไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง
ใครทำให้เธอกล้าหาญขนาดนี้
อาจั้นคนนี้ เถ้าแก่ได้เห็นแล้วก็อดเหงื่อตกไม่ได้ แต่สาวน้อยคนนี้กลับกล้าไปแหย่เขางั้นหรือ?
กล้าหาญจริง ๆ !
แต่เพื่อเห็นแก่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเสี่ยวเซียนชิว เถ้าแก่ก็พยายามช่วย
ในไม่ช้า ใบหน้าของเขาก็กลับมาสงบอีกครั้งและพูดว่า “คุณลูกค้า เชิญเข้าด้านใน”
"ต้องการเข้าพักหรือกินข้าวดี?"
อาจั้นพูดกับเถ้าแก่ว่า "กินข้าว "
เถ้าแก่ก็ตอบรับด้วยสีหน้าย้มแย้ม “เชิญนั่งลงก่อน”
พูดจบ เถ้าแก่ก็เรียกพนักงานเมื่อครู่มา แล้วพูดว่า “ถ้าอาหารที่เด็กสาวเมื่อครู่สั่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว วางไว้ที่ห้องครัวก่อน เงียบไว้ก่อน รู้ไหม?”
พนักงานกำลังจะพูด เถ้าแก่ก็พูดว่า “เข้าใจก็ดีแล้ว อย่าแพร่ข่าวออกไป รีบไปทักทายลุกค้าท่านนั้น”
พนักงานคนนี้เป็นมือดีของเถ้าแก่ ฉลาดและทำงานดีที่สุด เขาพยักหน้าแล้วพูดว่า "ได้"
เมื่อเขาพูดจบ ก็เดินไปหาอาจั้นด้วยสีหน้ากระตือรือร้น “คุณลูกค้า ไม่ทราบว่าท่านอยากจะกินอะไรดี?”
จากนั้นพนักงานก็แนะนําอาหารของร้านด้วยความกระตือรือร้น
โชคดีที่โต๊ะที่อาจั้นนั่งอยู่ มองไม่เห็นความเคลื่อนไหวที่ด้านข้างเคาน์เตอร์ เถ้าแก่ก็จับตาดูความเคลื่อนไหวและพูดว่า “สาวน้อย เจ้าออกไปทางด้านหลังเงียบ ๆ แล้วอ้อมไปที่ห้องครัวดีกว่า”
อาหารที่เธอสั่ง เถ้าแก่ได้สั่งให้พนักงานวางไว้ที่ครัวเรียบร้อยแล้ว เธอไปหยิบมันมาได้เลย
เสี่ยเซียนชิวกล่าวว่า "ได้ ขอบคุณท่านลุง"
ยังไม่ได้รอให้เถ้าแก่พูดอะไร ในพริบตา เสี่ยวเซียวชินก็ได้หายตัวไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...