ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1952

แสงจันทร์อันสดใสที่สาดส่องลงมายังใบไม้ เพิ่มความนุ่มนวลให้กับป่าลึกอันเงียบสงบและหนาวเย็น

แต่อย่างไรก็ตาม เซียวเฉวียนยังคงอยู่ในถ้ำ เขาไม่อาจเห็นทิวทัศน์อันงดงามในค่ำคืนนี้ได้

เขามองเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้อยู่บนกองหญ้า กล่าวออกมาอย่างใจเย็น “เสี่ยวเซียนชิว ป้าของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

ช่วงเวลาที่ผ่านมา นางใช้ชีวิตอยู่กับเซียวเฉวียนมาโดยตลอด เซียวเฉวียนถือเป็นเพื่อนคนหนึ่งของนาง เซียวเฉวียนรู้สึกว่าอารมณ์ของนางคงจะดีขึ้นไม่น้อย

แต่นี่ก็เป็นเพียงความคิดของเขาเท่านั้น

ความจริงเป็นเช่นไร ให้เสี่ยวเซียนชิวเป็นคนพูดออกมาเองจะดีกว่า

นี่เป็นค่ำคืนอันยาวนาน จะนอนเสียตั้งแต่ตอนนี้ก็คงจะเร็วเกินไป และสองพ่อลูกก็ไม่เคยอยู่ด้วยกันในสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน

ที่จริงโอกาสเช่นนี้นั้นมีน้อยมาก

เซียวเฉวียนอดไม่ได้ที่จะชวนเสี่ยวเซียนชิวพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องภายในครอบครัว

เสี่ยวเซียนชิวกล่าวว่า “ท่านป้าสบายดี”

เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ อารมณ์ของเซียวจิงดีขึ้นมาแล้ว ดูเหมือนว่านางจะร่าเริงและมีความสุขขึ้นไม่น้อย

เสี่ยวเซียนชิวสามารถสัมผัสมันได้จากรอยยิ้มที่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของนาง

นี่คือผลลัพธ์ที่เซียวเฉวียนต้องการ

ด้วยเหตุนี้เซียวเฉวียนจึงรู้สึกโล่งใจ

ทิ้งเซียวจิงไว้บนเกาะนกกระสา ความจริงแล้วเซียวเฉวียนก็ไม่รู้ว่าตัวเองควรทำเช่นไรเหมือนกัน

เคยเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ที่จวนเซียวมาแล้วครั้งหนึ่ง มันคือความสูญเสียญาติพี่น้องที่แสนเจ็บปวด เซียวเฉวียนเคยผ่านประสบการณ์เช่นนั้นมาแล้วครั้งหนึ่ง เขาไม่อยากให้มีครั้งที่สองเกิดขึ้น และไม่มีทางปล่อยให้มันเกิดขึ้นเป็นอันขาด

เซียวจิงเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลเซียว เซียวเฉวียนจะปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับนางไม่ได้

คำพูดนี้เซียวเฉวียนไม่อาจบอกใครได้ เขาทำได้เพียงเก็บมันไว้ในใจ

ลูกผู้ชายอกสามศอกที่สง่างาม ในฐานะที่เป็นคนตระกูลเซียว เขาแบกรับภาระอันหนักหน่วงของตระกูลเซียวเอาไว้เพียงลำพัง ปกป้องทุกคนที่เหลืออยู่ในตระกูลเซียวจนกว่าชีวิตของเขาจะหาไม่

เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง เซียวเฉวียนจะปล่อยให้เซียวจิงออกไปปรากฏตัวต่อสายตาของผู้คนและปล่อยให้นางตกอยู่ในอันตรายไม่ได้

คิดจะปกป้องชีวิตของนาง วิธีที่ดีที่สุดคือการทำให้นางอยู่ไกลจากฝูงชน

เซียวเฉวียนรู้ดี บนโลกใบนี้เขาคือที่พึ่งเพียงคนเดียวของเซียวจิง ทิ้งนางไว้เพียงลำพังบนเกาะนกกระสา ให้นางอยู่ห่างจากเซียวเฉวียน สำหรับเด็กผู้หญิงที่อายุได้เพียงสิบขวบ เซียวเฉวียนรู้ดีว่ามันเหงามากเพียงใด

แต่เซียวจิงก็เข้าใจเรื่องราวเป็นอย่างมาก นางไม่เคยแสดงอาการอะไรออกมาให้เซียวเฉวียนเห็นแม้แต่น้อย

ด้วยเหตุนี้เอง เซียวเฉวียนจึงต้องขอให้เสี่ยวเซียนชิวอยู่ข้างกายของนางเพื่อเป็นเพื่อนเล่นกับนาง

ประการแรก เซียวเฉวียนกลัวว่าเซียวจิงจะคิดมากเกินไป รู้สึกว่าตนเองเป็นภาระของเซียวเฉวียน ทำให้จิตใจของนางยิ่งจมลงไปอีก

สิ่งนี้เป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตของเซียวจิง

นางอายุได้เพียงเท่านี้ ทางที่ดีไม่ควรปล่อยให้นางได้รับรู้ถึงความกังวลใดๆ

ประการที่สอง เซียวเฉวียนไม่มีเหตุผลที่จะทิ้งเสี่ยวเซียนชิวไว้ข้างกายของเซียวจิง

เนื่องจากเสี่ยวเซียนชิวคือดาบวิญญาณ ให้นางอยู่เป็นเพื่อนกับเซียวจิง สำหรับเสี่ยวเซียนชิวแล้วมันคือการลดทอนประโยชน์ของตัวเอง

เสี่ยวเซียนชิวอาจจะไม่ยินยอมที่จะทำสิ่งนี้จากใจจริง

หรือพูดอีกอย่างก็คือ ให้เสี่ยวเซียนชิวอยู่เป็นเพื่อนข้างกายของเซียวจิงเฉยๆ แม้ว่าเสี่ยวเซียนชิวจะตอบรับเพราะเห็นแก่หน้าของเซียวเฉวียน แต่นั่นก็เป็นการตอบรับเซียวเฉวียนในฐานะที่เป็นพ่อของนางเท่านั้น

มันไม่ได้หมายความว่านางเต็มใจที่จะอยู่ข้างกายของเซียวจิงจริงๆ

สุดท้ายเซียวจิงก็เอ่ยปากออกมาว่านางต้องการฝึกฝนกังฟู ทำให้เซียวเฉวียนมีเหตุผลที่จะหาเพื่อนให้กับเซียวจิง และยังทำให้เสี่ยวเซียนชิวยอมอยู่เคียงข้างเซียวจิงอย่างเต็มใจอีกด้วย

เซียวเฉวียนถอนหายใจแบบไม่ส่งเสียง บนโลกนี้ คนที่เขาเป็นหนี้มากที่สุดก็คือเซียวจิง

หากไม่ใช่เพราะเขา ต่อให้แม่เซียวและเซียวจิงจะต้องมีชีวิตอย่างทุกข์ทรมานสักแค่ไหน แม่และลูกสาวก็คงไม่ถูกแยกออกจากกัน เซียวจิงคงไม่ต้องอยู่ห่างบ้านเกิดตั้งแต่อายุยังน้อยและอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเช่นนี้

โชคดีที่ยังมีเสี่ยวเซียนชิวคอยเป็นเพื่อน ทำให้เซียวจิงยังพอยิ้มออกมาได้บ้าง

แววตาของเซียวเฉวียนจับจ้องไปที่เสี่ยวเซียนชิว เขากล่าวออกมาว่า “ดีมาก พ่อขอบคุณเจ้ามากนะ”

คำขอบคุณนี้ของเซียวเฉวียน ทำให้เสี่ยวเซียนชิวตะลึงงัน

ขณะเดียวกัน นางก็สามารถเข้าใจความคิดของเซียวเฉวียนได้

บทที่ 1952 ไม่ต้องรีบร้อน 1

บทที่ 1952 ไม่ต้องรีบร้อน 2

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย