ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1953

พอได้ยิน เซียวเฉวียนก็รู้สึกว่าเธอพูดมีเหตุผล ใครให้ลูกสาวสุดที่รักของเขามีความสามารถถึงขนาดนี้ เธอยังเป็นเด็กติดพ่ออีก

มีลูกสาวอย่างเซียนชิวน้อย ไม่รู้มีคนเท่าไรอิจฉาอยู่

แรงอาฆาตที่จู่ๆ โผล่ขึ้นเมื่อเซียวเฉวียนคิดถึงเรื่องอดีตในใจ ก็เพลาลงในทันที ยังมีความอบอุ่นลอยขึ้นในใจด้วย

เขาเหลือบมองที่เซียนชิวน้อยด้วยดวงตาเป็นประกายและยิ้มเบาๆ

ทุกอย่างอยู่ในห้วงของรอยยิ้ม

มีลูกสาวแบบนี้ พ่อเฒ่ารู้สึกอุ่นใจยิ่งนัก !

ทั้งพ่อและลูกสาวคุยกันจนกระทั่งพระจันทร์ขึ้นเหนือยอดไม้ เซียนชิวน้อยจึงพูดว่า "พ่อ มันดึกแล้ว ท่านควรหลับพักผ่อนแล้ว"

ผู้บาดเจ็บต้องพักฟื้นให้มากขึ้น

นับตั้งแต่ได้รับบาดเจ็บมา เซียวเฉวียนวันๆ เอาแต่กินและถ่าย เวลานอกเหนือจากนั้นถ้าไม่นอนหลับก็คือหลับตาพักผ่อน

จนถึงวันนี้ เซียวเฉวียนก็ได้ฟื้นดีขึ้นมากแล้ว นอกจากจะไม่ง่วง ยังรู้สึกผ่อนคลายสบายดีขึ้นมาไม่น้อย

แต่เซียนชิวน้อยขอให้เขาพักผ่อน ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเป็นห่วงมาขนาดนี้ เซียวเฉวียนไม่อาจปฏิเสธความเอาใจใส่ของเซียนชิวน้อยได้ เขาจึงได้แต่ตอบตกลงว่า "ได้จา"

พูดเสร็จปั๊บเขาก็หลับตา หลังหลับตาแล้วก็ใช้สมองทบทวนบทกวีซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็คิดถึงว่าจะต้องยกระดับความแข็งแกร่งของตัวเองด้วย

ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา ถึงเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ถ้าเขาเผชิญหน้ากับยายเหยียนแบบซึ่งหน้า เขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง

ถ้าหากยายเหยียนต้องการบังคับให้เซียวเฉวียนโผล่หัวออกมา จึงไปที่เมืองหลวงโดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น ลงมือกับจวนเซียวและโรงเรียนชิงหยวน เซียวเฉวียนก็ไม่มีปัญญาคุ้มกันให้จวนเซียวและโรงเรียนชิงหยวนเลย

พอคิดถึงตรงนี้ เซียวเฉวียนก็อดไม่ได้ที่จะมีความรู้สึกถึงวิกฤตอย่างรุนแรง

นับตั้งแต่เขามายังต้าเว่ย นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกแย่ถึงขนาดนี้

ใจของเซียวเฉวียนรู้สึกเครียดขึ้นมาเล็กน้อย เขากังวลจริงๆ ว่า ถ้ายายเหยียนเลือกที่จะลงมือกับจวนเซียวหรือโรงเรียนชิงหยวน หรือแม้กระทั่งก่อความวุ่นวายขึ้นในเมืองหลวง เซียวเฉวียนก็ทำอะไรไม่ถูก

เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของยายเหยียน เขาคิดจะหยุดยั้งยายเหยียน คิดง่ายๆ มันเป็นไปไม่ได้เลย

ไม่ได้กล่าวเกินจริง ถึงแม้จะกะเกณฑ์กำลังทั้งหมดในจวนตระกูลเซียว มาสู้รบกับพวกยายเหยียน ก็ยังเป็นการกระทำที่เหมือนเอาไข่ไปกระทบหิน

เรื่องโง่ ๆ แบบนี้ เซียวเฉวียนจะไม่ทำ เขาจะไม่ยอมให้ทุกคนมาเสี่ยงชีวิตกับเขา

พอคิดถึงตรงนี้ เซียวเฉวียนก็นึกแผนขึ้นได้ เขาอาจฝึกฝนยกระดับกำลังของเขาเอง พลางค้นหาที่อยู่ของกองทัพ

กองทัพอยู่ในมือของนักปราชญ์ ก็เท่ากับอยู่ในมือของยายเหยียน เหมือนเสือติดปีกสำหรับนาง

คิดจะรับมือกับยายเหยียนเสือตัวนี้ เซียวเฉวียนต้องหักปีกของนางก่อน

เพียงแต่ว่า เสวียนจิ้งคนนั้นสมองทื่อมากจริง คิดว่าเขาไม่บอกที่อยู่ของกองทัพ เซียวเฉวียนก็จะไม่ฆ่าเขา หากว่าเขาฉลาดขึ้นสักนิด บอกที่อยู่ของกองทัพให้เสียดีๆ เซียวเฉวียนจะไม่ฆ่าเขาตอนนี้อย่างเด็ดขาด

ยิ่งกว่านั้น เห็นแก่ที่เขาบอกที่อยู่ของกองทัพให้ เซียวเฉวียนจะลดหย่อนการทารุณกรรมเสวียนจิ้งให้เบาลงด้วย

จะไม่ถึงกับต้องอดข้าวจนหูตาลาย แล้วให้เซี่ยวเฟิงฉีกกัดจนตาย

เสวียนจิ้งตายแล้ว คนที่รู้ที่อยู่ของกองทัพ ก็มีแค่นักปราชญ์แล้ว

คิดจะรู้ที่อยู่ของกองทัพจากนักปราชญ์ ก็เหมือนนิทานพันหนึ่งราตรี

ดังนั้น เซียวเฉวียนจึงได้แต่คิดหาวิธีอื่น

ในสภาพที่ไร้ต้นตอเช่นนี้ เซียวเฉวียนก็คิดถึงฉินเฟิง

แต่ฉินเฟิงอยู่ในค่ายของทัพศัตรู คิดว่าต้องอยู่อย่างระมัดระวัง คงไม่กล้าติดต่อกับบุคคลภายนอกใช่ไหมล่ะ ?

มิฉะนั้น เวลาผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ฉินเฟิงก็คงต้องเล็ดข่าวออกมาแล้ว

เซียวเฉวียนกำลังคิดว่า จะทำยังไงให้รู้ที่อยู่ของกองทัพได้โดยเร็วที่สุด ?

ไม่รู้เนื้อรู้ตัว เวลาแอบผ่านไปอย่างเงียบๆ ด้วยเช่นนี้ ค่ำดึกมากแล้ว เซียวเฉวียนเกิดง่วงนอนแล้วหลับไปอย่างสะลึมสะลือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย