ในเมื่อเซี่ยวเฟิงไปปรากฎตัวที่ตีนผา ย่าเหยียนคิดว่ามีความเป็นได้มากว่าเซียวเฉียนจะอยู่ที่ด้านล่างตีนผา
แต่ว่า สถานที่อื่น ๆ ก็ไม่ปล่อยไป แต่การค้นหาในสถานที่อื่น ๆ อาจจะไม่ต้องเข้มงวดมากขนาดนั้น
สำหรับเรื่องแบ่งคนสี่คนนี้อย่างไร นั่นเป็นหน้าที่ของเว่ยหง
เมื่อมอบหมายงานเรียบร้อยแล้ว ย่าเหยียนก็รีบไปที่ตีนผาทันที
เหตุผลที่เธอไม่ได้บอกรายละเอียดว่าเธอไปที่ไหน นั่นเพราะย่าเหยียนยังไม่อยากให้พี่น้องเว่ยหงรู้เกี่ยวกับตีนผาสถานที่แห่งนี้
มันคือสถานที่ที่ย่าเหยียนปรารถนาและโปรดปราน มันจะมีประโยชน์ในการใช้สอยอย่างมากในอนาคต ก่อนที่ทุกอย่างจะจัดการเรียบร้อยแล้ว และก่อนที่เจตนาของพี่น้องเว่ยหงจะชัดเจน ย่าเหยียนก็ยังมองพวกเขาเป็นคนนอกต้องคอยระมัดระวังพวกเขา
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในสายตาของย่าเหยียน ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเธอและพี่น้องเว่ยหงเป็นเพียงพันธมิตรที่ร่วมมือกันเท่านั้น
ที่เธอเต็มใจช่วยเหลือพวกเขา นั่นก็เพราะว่าพวกเขายังมีประโยชน์กับเธออยู่ในตอนนี้ และพวกเขายังคงต้องพึ่งพาเธอด้วยเช่นกัน
เมื่อเป็นเช่นนี้ ในอนาคตย่าเหยียนอาจจะทำให้พวกเขาเป็นสมาชิกของสำนักหมิงเซียนก็อาจเป็นไปได้
อย่างไรก็ตามพี่น้องเว่ยหงถือเป็นคนมีพรสวรรค์ที่หาได้ยาก
ใครก็ตามที่มีความสามารถก็จะถูกมองแตกต่างจากผู้อื่น
เมื่อเห็นย่าเหยียนจากไปอย่างเร่งรีบ พี่น้องเว่ยหงก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าสงสัยบนใบหน้าของพวกเขา
ทั้ง ๆ ที่พบเบาะแสของเซี่ยวเฟิงและเสี่ยวเซียนชิวปรากฏตัวที่ถนนชางเฉิงและหูโจว พวกเขาควรจะมุ่งเน้นไปสืบหาสถานที่ทั้งสองแห่งนี้สิ
แต่ย่าเหยียนกลับไม่ทำเช่นนั้น เป็นไปได้ไหมที่เธอจะค้นพบเบาะแสอื่น ?
หากเป็นเช่นนั้น มันย่อมหมายความว่าสถานที่ที่ย่าเหยียนไปจะต้องเป็นที่ที่ซ่อนตัวของเซียวเฉวียนแน่ ๆ
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง พี่น้องเว่ยหงก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน เว่ยหงกล่าวว่า "อย่างงี้ดีไหม ข้ากับเว่ยหยานจะไปที่หูโจว ส่วนทั้งสองคนอยู่ที่นี่ค้นหาต่อไป ดีไหม?"
อาจั้นตอบ “ได้”
สำหรับอาจั้นและอาเผิงแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหนก็ไม่แตกต่าง
หลังตากตกลงกันแล้ว ทั้งสี่คนก็แยกย้ายออกไปค้นหา
ก่อนออกเดินทาง อาจั้นได้มอบนกพิราบสื่อสารให้พี่น้องเว่ยหงหนึ่งตัวแล้วพูดว่า "ถ้ามีข่าว พวกเจ้าก็ใช้มันเพื่อติดต่อสื่อสารกับพวกเรา"
นอกจากนกพิราบสื่อสารแล้ว อาจั้นยังให้สัญญาณไฟให้แก่พี่น้องเว่ยหงอีกด้วย
การปล่อยสัญญาณไฟมันย่อมเร็วกว่าส่งนกพิราบสื่อสาร หากสถานการณ์คับขันก็สามารถจุดสัญญาณไฟเพื่อติดต่อพวกเขาได้ทันที
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เมื่อพี่น้องเว่ยหงค้นพบที่อยู่ของเซียวเฉวียน พวกเขาจะได้ส่งข่าวให้อาจั่นและอาเผิงได้ในทันที
เว่ยหงพกอุปกรณ์ที่อาจั่นมอบให้และออกเดินทางไปพร้อมกับเว่ยหยานทันที
ระหว่างทาง เว่ยหยานมีความสงสัยถึงถามว่า “พี่ชาย ทำไมพวกเราถึงเดินทางไปที่หูโจว แต่ไม่ใช่อยู่ที่รัฐมู่อวิ๋นต่อ? ”
ในตอนที่พวกเขายังเป็นเจ้าผู้ครองรัฐ พวกเขาก็มักจะปรากฏตัวที่หูโจวบ่อยครั้ง ดังนั้นจึงมีคนรู้จักพวกเขามากกว่าในรัฐมู่อวิ๋น
อยู่ที่รัฐมู่อวิ๋นน่าจะปลอดภัยกว่าการไปที่หูโจวอย่างแน่นอน
อีกอย่าง หากอยู่ที่รัฐมู่อวิ๋นก็ไม่ต้องลำบากเดินทางตะลอนๆแบบนี้ สามารถไปหาเซียวเฉวีนได้โดยตรงเลยไม่ต้องเดินทางหลายพันไมล์เช่นนี้
เว่ยหงพูดว่า “เซี่ยวเฟิงและเสี่ยวเซียนชิวเคยปรากฎตัวที่ถนนชางเฉิง แต่หูโจวมีแต่เซี่ยวเฟิงที่ปรากฎตัว เจ้าคิดว่าที่ไหนจะเป็นที่ที่เซียวเฉวียนอยู่มากกว่ากัน”
เว่ยหยานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "แน่นอน มันต้องอยู่ที่รัฐมู่อวิ๋น"
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ในที่สุดเว่ยหยานก็เข้าใจว่า เพราะอะไรทำไมเว่ยหงถึงได้ตัดสินใจทำแบบนี้
เว่ยหงรู้ว่าสองพี่น้องไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์สงครามทั้งสอง ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะอยู่ห่างๆ เพื่อความปลอดภัยของพวกเขา
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าทำไม่ได้แล้วยังจะฝืนทำ นั้นไม่ใช่การกระทำที่ฉลาดเลย
การค้นหาที่ซ่อนตัวของเซียวเฉวียนนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือการรักษาชีวิตของพวกเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...