ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1962

สรุปบท บทที่ 1962 รู้สึกตัว: ซูเปอร์ลูกเขย

บทที่ 1962 รู้สึกตัว – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย

ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1962 รู้สึกตัว จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ไม่อยู่ในรัฐมู่อวิ๋น ไม่อยู่ใต้หน้าผา เช่นนั้นก็คงต้องไปตามหาที่อื่นแล้ว

ย่าเหยียนกล่าวออกมาว่า “เลิกเสียเวลากับที่นั่นได้แล้ว พวกเจ้ารีบเดินทางไปยังหูโจว ดูว่ามีอะไรเกิดขึ้น มีอะไรที่สามารถช่วยได้อยู่บ้างหรือไม่”

พี่น้องเว่ยหงเดินทางไปยังหูโจว แต่พวกเขาไม่สามารถติดต่อมายังย่าเหยียนและพวกของอาจั้นได้โดยตรง ย่าเหยียนกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกพี่น้องเว่ยหง กลัวว่าจะพลาดโอกาสสำคัญไปเนื่องจากแจ้งให้นางรับรู้ได้ไม่ทันเวลา

หลายวันที่ผ่านมา นางเอาแต่วิ่งไปวิ่งมา รู้ว่าราวกับว่าตนเองเป็นคนโง่เขลา เป็นของเล่นของเซียวเฉวียน หากบอกว่าไม่โกรธก็คงเป็นเรื่องโกหก

แต่นางรู้ว่าความโกรธหรือการที่อารมณ์เสียนั้นมันไม่ได้ช่วยอะไร นางจึงสงบสติอารมณ์และเงียบไป

จนกระทั่งถึงตอนนี้ ความอดทนของนางใกล้จะหมดลงแล้ว

ต้องรีบตามหาที่อยู่ของเซียวเฉวียนให้เจอเร็วที่สุด ถึงเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง

แม้ว่านางจะฉลาดเพียงใด แต่ก็เห็นแก่นแท้ของเรื่องนี้มานานแล้ว ซินเจียงล่มสลาย สำนักหมิงเซียนเองก็ไร้ซึ่งที่ตั้ง แม้ว่านางจะรู้จักสถานที่อันโดดเดี่ยว แต่สถานที่แห่งนี้เซียวเฉวียนเองก็รู้จักมันเช่นกัน

หากต้องการสร้างสำนักหมิงเซียนขึ้นมาอีกครั้ง เช่นนั้นก็จำเป็นต้องกำจัดสิ่งที่ขวางอยู่บนถนนออกไปเสียก่อน

และเซียวเฉวียนก็เป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในถนนสายนี้!

ตราบใดที่เซียวเฉวียนยังมีชีวิตอยู่ การฟื้นฟูสำนักหมิงเซียนขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นเรื่องยาก

หากต้องการสร้างงานที่ดี เช่นนั้นก็ต้องเตรียมอาวุธให้พร้อมเสียก่อน

นั่นก็คือการกำจัดเซียวเฉวียน!

แต่อาจั้นก็บอกนางมาโดยตลอดว่า บางทีเซียวเฉวียนอาจจะยังอยู่ในรัฐมู่อวิ๋น แต่เขาซ่อนตัวได้เป็นอย่างดี จึงยังไม่ถูกใครจับได้

ด้วยเหตุนี้เขาจึงแนะนำออกมาว่า “ท่านผู้นำเหยียน ทิ้งคนไว้ที่นี่คนหนึ่งเพื่อทำการตามหาต่อไป ท่านว่าอย่างไร?”

ย่าเหยียนเงียบไปครู่หนึ่งแล้วตอบกลับมาว่า “ก็ได้”

แต่ผู้ที่อยู่ก็ต้องระมัดระวังตัวให้ดี

อาจั้นตอบกลับมาว่า “ขอรับ”

ไม่มีใครกล้าที่จะทำอะไรอย่างละเลยเมื่อได้รับคำสั่งจากย่าเหยียน!

หลังจากมอบหน้าที่เรียบร้อยแล้ว ย่าเหยียนถึงจะจบการสนทนาที่อยู่ห่างเป็นพันลี้กับอาจั้นลง

อาจั้นหยุดฝีเท้าของเขา หันมามองอาเผิงพร้อมกล่าวว่า “ท่านผู้นำเหยียนกล่าวว่า หนึ่งในพวกเราจะเดินทางไปยังหูโจว เจ้าจะไปหรือให้ข้าไป?”

อาเผิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นตอบกลับมาว่า “ข้าไปเองแล้วกัน”

เรื่องราวถูกกำหนดไว้เช่นนี้ ทั้งสองคนแยกทางกันทันที

และย่าเหยียนก็กลับมาที่ใต้หน้าผาอีกครั้ง ตามหาร่องรอยของเซียวเฉวียนต่อไป ครั้งนี้นางตามหาอย่างละเอียด ไม่ปล่อยให้ผ่านไปแม้แต่จุดเดียว

ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านที่ว่างเปล่าหรือกองหญ้าที่รกร้าง นางก็ไม่ปล่อยผ่านไปทั้งสิ้น

สรุปก็คือ ยังคงเป็นคำพูดเดิม นางตามหาทุกที่ที่สามารถตามหาได้ นางแทบจะพลิกแผ่นดินอยู่แล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของนางนั้นเงียบมาก ทั้งนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใต้หน้าผาตกใจ จนคิดที่จะอพยพออกไปจากที่นี่อีกครั้ง

ในความเป็นจริง ชาวบ้านที่อยู่ใต้หน้าผาถูกรบกวนตั้งแต่ย่าเหยียนและนักปราชญ์ปรากฏตัวออกมาแล้ว

สิ่งที่เลวร้ายไปมากกว่านั้นก็คือ ทางออกลับที่เชื่อมต่อกับโลกภายนอกที่มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้ เวลานี้พวกเขากลับหามันไม่พบ

พูดให้ถูกก็คือ เส้นทางลับออกไปสู่โลกภายนอกดังกล่าว ตอนนี้เหมือนกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังขวางกั้นมันอยู่

พวกเขาพยายามอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ไม่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคนี้ได้

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน

พวกเขาอยากจะออกไปจากใต้หน้าผาแห่งนี้ มันก็มีเส้นทางเพียงเส้นทางเดียวเท่านั้น แต่มันกลับถูกปิดกั้น ต่อให้พวกเขาอยากออกไปมากแค่ไหนก็ออกไปไม่ได้

ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นี่ตื่นตระหนกมาโดยตลอด พวกเขากลัวว่าวันหนึ่งตนเองจะถูกทำลายล้าง

ผู้ใหญ่บ้านและผู้อาวุโสที่คอยดูแลหมู่บ้านจึงต้องมานั่งพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ทุกวัน แต่ไม่ว่าพวกเขาจะพูดคุยกันมากแค่ไหน สุดท้ายก็หาทางออกไปไม่พบอยู่ดี

ย่าเหยียนรีบติดต่ออาจั้นในทันใด “อาจั้น! เจ้ากับอาเผิงตามหาเซียวเฉวียนในรัฐมู่อวิ๋นต่อไป ขยายขอบเขตในการค้นหาให้กว้างขึ้น”

“เรื่องนี้จะต้องเก็บไว้เป็นความลับ จะแหวกหญ้าให้งูตื่นไม่ได้เด็ดขาด”

ก้าวเข้าสู่ยุทธภพ อาจั้นพอจะมีสามัญสำนึกเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่บ้าง แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องให้ย่าเหยียนเน้นย้ำ

อาจั้นตอบกลับไปว่า “ขอรับ!”

แม้อาจั้นไม่เข้าใจว่าเหตุใดย่าเหยียนถึงเปลี่ยนแผนการอย่างกะทันหัน แต่เนื่องจากนี่เป็นคำสั่งของนาง อาจั้นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปฏิบัติตามอย่างเชื่อฟัง

ย่าเหยียนกล่าวออกมาว่า “พวกเจ้าค้นหาไปก่อน อีกไม่นานข้าจะไปถึงที่นั่น”

พูดอย่างนี่ นั่นแสดงว่าใต้หน้าผานั้นไม่มีอะไรอยู่แล้ว และนางก็มุ่งความสนใจไปยังรัฐมู่อวิ๋นอีกครั้ง?

ช่างน่าหงุดหงิดยิ่งนัก

อาจั้นตอบกลับไปว่า “ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!”

ความหมายของคำพูดนี้ก็คือ เมื่อเจ้ามาถึงก็ติดต่อข้ามา มันก็แค่เท่านั้น

หลังจากพูดคุยเรื่องนี้เสร็จ เจ้านายและลูกน้องก็สิ้นสุดการสนทนา

อาจั้นรีบติดต่ออาเผิงผ่านวิชาส่งเสียงไกลพันลี้ “แผนการมีการเปลี่ยนแปลง เจ้าจงรีบกลับมาที่นี่”

อาเผิงผู้นี้เป็นคนที่ชอบถามทุกอย่างเพื่อความเข้าใจ แต่เพื่อประหยัดเวลา อาจั้นจึงเอ่ยปากขึ้นมาก่อนว่า “อย่าเพิ่งถามอะไร เจ้ากลับมาก่อนก็พอ”

อาจั้นไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน คำพูดนี้แค่ฟังดูก็รู้แล้วว่ามันจริงจังมากเพียงใด อาเผิงจึงไม่ได้ถามอะไรมาก แค่ตอบกลับไปว่า “ได้ ข้าจะกลับไปเดี๋ยวนี้”

โชคดีที่เขายังไปได้ไม่ไกล ใช้ระยะเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งก้านธูปก็กลับมาถึงแล้ว

หลังจากที่อาเผิงมาถึง อาจั้นก็บอกทุกสิ่งทุกอย่างที่ย่าเหยียนสั่งไว้ให้เขาได้รับรู้ หลังจากทั้งสองคนแบ่งหน้าที่กันเรียบร้อย พวกเขาก็แยกย้ายกันออกไปตามหาเซียวเฉวียนในพื้นที่ที่ขยายเป็นวงกว้างขึ้น

และเสี่ยวเซียนชิวที่บังเอิญออกมาหาข่าวพอดีก็ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนพูดคุยกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย