ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1979

เห็นได้ชัดว่าอี้กุยยังไม่หายจากความตื่นตระหนก

ไม่เช่นนั้น ด้วยสติปัญญาและการกระทำที่ผ่านมาของเขา เขาไม่มีทางตอบเซียวเฉวียนกลับไปเช่นนั้น

มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ภายใต้ความตื่นตระหนก ความสามารถในการไตร่ตรองของมนุษย์จะลดลง

ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับเรื่องต่างๆ การควบคุมสติอารมณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ

มีเพียงความสงบเท่านั้นที่สามารถทำให้คงสติและความคิดเอาไว้ได้

เมื่อได้รับการแจ้งเตือนจากเซียวเฉวียน สมองของอี้กุยก็กลับมาทำงานเป็นปกติ เขานั่งลง แววตาของเขาจับจ้องไปยังเซียวเฉวียน “ท่านปู่น้อย ข้าได้ไปสอบถามใต้เท้าสวีมาแล้ว เขาบอกว่าอีกสองวันจะสามารถเปิดกิจการได้ ส่วนอีกวันหนึ่งก็คือครึ่งเดือนหลังจากนี้”

ดังนั้นเซียวเฉวียนต้องการจะเลือกวันไหน?

ที่อี้กุยเร่งรีบเดินทางกลับมา ทั้งหมดก็เพราะเรื่องนี้งั้นหรือ?

หลานรักของข้า คุณชายอี้ผู้ควบคุมกิจการทางด้านการค้ามานานหลายปี ความฉลาดคิดและวางแผนของเขาเหมือนกับที่ผ่านมาหายไปไหนหมด?

เซียวเฉวียนบอกเกี่ยวกับเรื่องการเปิดกิจการไปแล้วไม่ใช่หรือ ว่ายิ่งเปิดเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

ใครบ้างไม่อยากได้เงิน

เซียวเฉวียนให้คำตอบด้วยความมั่นใจ “แน่นอนว่าต้องเป็นวันมะรืน”

เป็นอย่างที่อี้กุยคาดการไว้ เซียวเฉวียนเลือกวันมะรืนจริงๆ อี้กุยจึงกล่าวออกมาว่า “ท่านปู่น้อย ท่านไม่อยากเลื่อนไปเปิดในวันครึ่งเดือนให้หลังงั้นหรือ ในวันนั้นท่านจะได้ออกไปเปิดกิจการด้วยตัวเอง?”

เซียวเฉวียนกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “มันก็แค่การเปิดกิจการเท่านั้น ขอแค่มีเจ้าเป็นคนคอยดูแลก็เพียงพอ มันไม่สำคัญว่าข้าจะปรากฏตัวออกไปหรือไม่”

คำพูดนี้อาจจะดูไม่น่าฟัง ในวันนั้นไม่แน่ว่าอาจจะมีคนวางแผนร้ายต่อหอปี๋เซิ่งและบ่อนพนันก็ได้ หากความวุ่นวายเกิดขึ้นจะทำให้เกิดความเสียหาย หอปี๋เซิ่งและบ่อนพนันจะต้องทำการปรับปรุงใหม่อีกครั้งถึงจะสามารถเปิดกิจการได้

ถึงเวลานั้น ต่อให้เซียวเฉวียนเป็นประธานมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกัน

หอปี๋เซิ่งและบ่อนพนันยังไม่ทันเปิดกิจการ หากเซียวเฉวียนพูดเช่นนี้ออกไป มันคงเป็นคำพูดที่อัปมงคลยิ่งนัก

แต่เซียวเฉวียนเป็นผู้อาวุโส ในฐานะผู้อาวุโส อี้กุยไม่สามารถตำหนิผู้อาวุโสของเขาได้

อี้กุยตกตะลึงกับคำพูดของเซียวเฉวียนอยู่ครู่หนึ่ง เขาถึงกับพูดไม่ออก

พูดตามตรง อี้กุยรู้สึกอิจฉาความคิดที่แน่วแน่เช่นนี้ของเซียวเฉวียนเป็นอย่างมาก

เมื่อเห็นว่าอี้กุยพูดไม่ออก เซียวเฉวียนจึงกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มว่า “อี้น้อย ข้าก็แค่ล้อเล่นเท่านั้น เจ้าอย่าได้คิดมาก”

จะไม่ให้คิดมากได้อย่างไร?

มันเหมือนกับสุภาษิตที่ว่า เรื่องดีมันจะไม่จริงจัง แต่พอเป็นเรื่องร้ายแล้วมักจะเป็นจริงเสมอ

กลัวว่าสิ่งที่เซียวเฉวียนพูดนั้นจะเป็นความจริง หากวันใดวันหนึ่งหอปี๋เซิ่งและบ่อนพนันถูกไฟไหม้ขึ้นมาอีกครั้งจะเป็นอย่างไร

แม้ว่าอี้กุยจะมีเงินในการสร้างมันขึ้นมาใหม่

แม้ว่าเขาจะไม่กังวลเรื่องเงิน แต่ไม่จำเป็นต้องรบกวนให้เซียวเฉวียนมารับผิดชอบในเรื่องนี้

แต่การที่หอปี๋เซิ่งและบ่อนพนันถูกคนวางเพลิงบ่อยๆ เช่นนี้มันอาจกลายเป็นเรื่องตลกขบขันในฝูงชนก็เป็นได้

คนที่ต้องเสียหน้ากับเรื่องนี้ก็คือเซียวเฉวียน

ใครบ้างในเมืองหลวงที่ไม่รู้ว่าหอปี๋เซิ่งและบ่อนพนันเป็นธุรกิจของเซียวเฉวียน แถมยังเป็นแหล่งผลิตเงินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเซียวเฉวียนด้วย และเป็นที่ซึ่งเซียวเฉวียนให้ค่ามากที่สุด

สามารถกล่าวได้ว่า สถานที่สองแห่งนี้คือหน้าตาของเซียวเฉวียนเลยก็ว่าได้

ราชครูผู้สง่างาม ประมุขแห่งชิงหยวนผู้เลิศล้ำ ความสามารถก็ไม่เท่าไหร่ เป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างยิ่งหากธุรกิจของเขาถูกคนวางเพลิงครั้งแล้วครั้งเล่า

ขายหน้า?

ราคาของการขายหน้านั้นมันมีค่าเท่าไหร่?

เซียวเฉวียนกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “อี้น้อยเอ๊ย บนโลกใบนี้ การขายหน้าเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับเงิน มันเป็นสิ่งที่ไร้ค่ามากที่สุด”

มนุษย์หนึ่งคน ขอแค่มีสิ่งที่อยู่ข้างใน คำว่าใบหน้าจะสำคัญอะไร?

สาเหตุที่บางคนใช้ชีวิตลำบากและเหนื่อยล้าก็เพราะว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของคนอื่นมากเกินไป

พูดตรงๆ ก็คือ สนใจลมปากของคนอื่นมากเกินไป

บทที่ 1979 เพื่อให้ตนเองมีชีวิตอยู่ต่อไป 1

บทที่ 1979 เพื่อให้ตนเองมีชีวิตอยู่ต่อไป 2

บทที่ 1979 เพื่อให้ตนเองมีชีวิตอยู่ต่อไป 3

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย