เห็นได้ชัดว่าอี้กุยยังไม่หายจากความตื่นตระหนก
ไม่เช่นนั้น ด้วยสติปัญญาและการกระทำที่ผ่านมาของเขา เขาไม่มีทางตอบเซียวเฉวียนกลับไปเช่นนั้น
มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ภายใต้ความตื่นตระหนก ความสามารถในการไตร่ตรองของมนุษย์จะลดลง
ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับเรื่องต่างๆ การควบคุมสติอารมณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ
มีเพียงความสงบเท่านั้นที่สามารถทำให้คงสติและความคิดเอาไว้ได้
เมื่อได้รับการแจ้งเตือนจากเซียวเฉวียน สมองของอี้กุยก็กลับมาทำงานเป็นปกติ เขานั่งลง แววตาของเขาจับจ้องไปยังเซียวเฉวียน “ท่านปู่น้อย ข้าได้ไปสอบถามใต้เท้าสวีมาแล้ว เขาบอกว่าอีกสองวันจะสามารถเปิดกิจการได้ ส่วนอีกวันหนึ่งก็คือครึ่งเดือนหลังจากนี้”
ดังนั้นเซียวเฉวียนต้องการจะเลือกวันไหน?
ที่อี้กุยเร่งรีบเดินทางกลับมา ทั้งหมดก็เพราะเรื่องนี้งั้นหรือ?
หลานรักของข้า คุณชายอี้ผู้ควบคุมกิจการทางด้านการค้ามานานหลายปี ความฉลาดคิดและวางแผนของเขาเหมือนกับที่ผ่านมาหายไปไหนหมด?
เซียวเฉวียนบอกเกี่ยวกับเรื่องการเปิดกิจการไปแล้วไม่ใช่หรือ ว่ายิ่งเปิดเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
ใครบ้างไม่อยากได้เงิน
เซียวเฉวียนให้คำตอบด้วยความมั่นใจ “แน่นอนว่าต้องเป็นวันมะรืน”
เป็นอย่างที่อี้กุยคาดการไว้ เซียวเฉวียนเลือกวันมะรืนจริงๆ อี้กุยจึงกล่าวออกมาว่า “ท่านปู่น้อย ท่านไม่อยากเลื่อนไปเปิดในวันครึ่งเดือนให้หลังงั้นหรือ ในวันนั้นท่านจะได้ออกไปเปิดกิจการด้วยตัวเอง?”
เซียวเฉวียนกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “มันก็แค่การเปิดกิจการเท่านั้น ขอแค่มีเจ้าเป็นคนคอยดูแลก็เพียงพอ มันไม่สำคัญว่าข้าจะปรากฏตัวออกไปหรือไม่”
คำพูดนี้อาจจะดูไม่น่าฟัง ในวันนั้นไม่แน่ว่าอาจจะมีคนวางแผนร้ายต่อหอปี๋เซิ่งและบ่อนพนันก็ได้ หากความวุ่นวายเกิดขึ้นจะทำให้เกิดความเสียหาย หอปี๋เซิ่งและบ่อนพนันจะต้องทำการปรับปรุงใหม่อีกครั้งถึงจะสามารถเปิดกิจการได้
ถึงเวลานั้น ต่อให้เซียวเฉวียนเป็นประธานมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกัน
หอปี๋เซิ่งและบ่อนพนันยังไม่ทันเปิดกิจการ หากเซียวเฉวียนพูดเช่นนี้ออกไป มันคงเป็นคำพูดที่อัปมงคลยิ่งนัก
แต่เซียวเฉวียนเป็นผู้อาวุโส ในฐานะผู้อาวุโส อี้กุยไม่สามารถตำหนิผู้อาวุโสของเขาได้
อี้กุยตกตะลึงกับคำพูดของเซียวเฉวียนอยู่ครู่หนึ่ง เขาถึงกับพูดไม่ออก
พูดตามตรง อี้กุยรู้สึกอิจฉาความคิดที่แน่วแน่เช่นนี้ของเซียวเฉวียนเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นว่าอี้กุยพูดไม่ออก เซียวเฉวียนจึงกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มว่า “อี้น้อย ข้าก็แค่ล้อเล่นเท่านั้น เจ้าอย่าได้คิดมาก”
จะไม่ให้คิดมากได้อย่างไร?
มันเหมือนกับสุภาษิตที่ว่า เรื่องดีมันจะไม่จริงจัง แต่พอเป็นเรื่องร้ายแล้วมักจะเป็นจริงเสมอ
กลัวว่าสิ่งที่เซียวเฉวียนพูดนั้นจะเป็นความจริง หากวันใดวันหนึ่งหอปี๋เซิ่งและบ่อนพนันถูกไฟไหม้ขึ้นมาอีกครั้งจะเป็นอย่างไร
แม้ว่าอี้กุยจะมีเงินในการสร้างมันขึ้นมาใหม่
แม้ว่าเขาจะไม่กังวลเรื่องเงิน แต่ไม่จำเป็นต้องรบกวนให้เซียวเฉวียนมารับผิดชอบในเรื่องนี้
แต่การที่หอปี๋เซิ่งและบ่อนพนันถูกคนวางเพลิงบ่อยๆ เช่นนี้มันอาจกลายเป็นเรื่องตลกขบขันในฝูงชนก็เป็นได้
คนที่ต้องเสียหน้ากับเรื่องนี้ก็คือเซียวเฉวียน
ใครบ้างในเมืองหลวงที่ไม่รู้ว่าหอปี๋เซิ่งและบ่อนพนันเป็นธุรกิจของเซียวเฉวียน แถมยังเป็นแหล่งผลิตเงินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเซียวเฉวียนด้วย และเป็นที่ซึ่งเซียวเฉวียนให้ค่ามากที่สุด
สามารถกล่าวได้ว่า สถานที่สองแห่งนี้คือหน้าตาของเซียวเฉวียนเลยก็ว่าได้
ราชครูผู้สง่างาม ประมุขแห่งชิงหยวนผู้เลิศล้ำ ความสามารถก็ไม่เท่าไหร่ เป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างยิ่งหากธุรกิจของเขาถูกคนวางเพลิงครั้งแล้วครั้งเล่า
ขายหน้า?
ราคาของการขายหน้านั้นมันมีค่าเท่าไหร่?
เซียวเฉวียนกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “อี้น้อยเอ๊ย บนโลกใบนี้ การขายหน้าเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับเงิน มันเป็นสิ่งที่ไร้ค่ามากที่สุด”
มนุษย์หนึ่งคน ขอแค่มีสิ่งที่อยู่ข้างใน คำว่าใบหน้าจะสำคัญอะไร?
สาเหตุที่บางคนใช้ชีวิตลำบากและเหนื่อยล้าก็เพราะว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของคนอื่นมากเกินไป
พูดตรงๆ ก็คือ สนใจลมปากของคนอื่นมากเกินไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...