ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1982

สรุปบท บทที่ 1982 มอบทางเลือก: ซูเปอร์ลูกเขย

บทที่ 1982 มอบทางเลือก – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย

ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1982 มอบทางเลือก จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

อาจั้นหวังว่าย่าเหยียนจะช่วยเขาได้ แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่การพูดเพื่อช่วยระงับความวุ่นวายของชาวบ้านเหล่านี้ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ย่าเหยียนมองทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเย็นชา ราวกับไม่เห็นสัญญาณการขอความช่วยเหลือจากอาจั้น ไม่แม้แต่จะมองมาที่อาจั้นด้วยซ้ำ

ไม่รู้ว่านางไม่ได้ยินจริงๆหรือแกล้งทำเป็นหูหนวกเป็นใบ้ และไม่ต้องการช่วยเหลืออาจั้น

เนื่องจากไม่มีใครให้ความช่วยเหลือ อาจั้นจึงทำได้เพียงพึ่งพาตัวเองเท่านั้น

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาทำได้เพียงกัดฟันเผชิญหน้ากับมัน เขากระแอมออกมาหนึ่งครั้ง กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ทุกคนเงียบ”

แต่กลับไม่มีใครฟังที่เขาพูดเลย เจ้าก็พูดของเจ้า ข้าก็พูดของข้า

มันเป็นฉากที่ควบคุมไม่ได้

ตอนนี้อาจั้นเองก็เพิ่งจะรู้ว่า เขานั้นไม่มีความสามารถในการควบคุมสถานการณ์เอาเสียเลย การที่ย่าเหยียนให้เขาเป็นตัวแทน นี่คือสิ่งที่ผิดพลาด

ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะกล่าวว่า บังคับให้คนอื่นทำอะไรที่เกินความสามารถของตัวเอง

แต่ย่าเหยียนก็เป็นคนสร้างเขาขึ้นมาเอง และเป็นคนที่เลือกเขามาด้วยตัวเอง ดังนั้นอาจั้นจึงไม่กล้าที่จะถอยหลัง

เขาอดไม่ได้ที่จะขึ้นเสียงแล้วตะโกนว่า “ทุกคนเงียบ!”

เมื่อเสียงดังกล่าวสิ้นสุดลง สถานการณ์ก็เงียบขึ้นมาในทันที

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที สถานการณ์ก็รุนแรงยิ่งกว่าเดิม

ชายผู้มีเครายาวมองมาที่อาจั้นด้วยสายตาอันเยือกเย็น เขาพูดออกมาว่า “พวกเจ้าคิดที่จะยึดสถานที่แห่งนี้เป็นของตัวเอง เรื่องนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ แต่หากพวกเจ้ามอบเงื่อนไขบางอย่างให้พวกข้าก็อาจจะเป็นไปได้บ้างไม่ใช่หรือ?”

เช่นเดียวกับชาวบ้านคนเมื่อครู่พูด ชายผู้มีเครายาวเองก็รู้สึกว่าพวกของย่าเหยียนนั้นจะต้องทำอะไรกับช่องทางลับของพวกเขาเป็นแน่

เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ถูกกำจับจ้องไว้แล้ว หากชาวบ้านอาศัยอยู่ที่นี่ต่อไป สุดท้ายก็ไม่มีทางได้ข้อเสนอที่ดี

และสามคนนี้ก็มีท่าทางที่ไม่เป็นมิตร เมื่อเทียบกับการสู้กับพวกเขาจนตัวตาย ไม่สู้ต่างฝ่ายต่างถอยคนละก้าว ชายผู้มีเครายาวหรี่ตาลงพร้อมกล่าวว่า “พวกเจ้าไม่อยากให้ใครรู้จักที่นี่ หลังจากพวกข้าออกไปจากที่แห่งนี้แล้ว พวกข้าจะไม่เอ่ยถึงมันแม้แต่ครึ่งคำ”

พูดมาถึงตรงนี้ หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ เช่นนั้นก็เท่ากับว่าต่างฝ่ายต่างฉีกหน้ากันและกัน

สุดท้ายก็มีแต่ต้องตายกันไปข้างหนึ่งเท่านั้น

ชีวิตเป็นสิ่งล้ำค่า เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น ชายผู้มีเครายาวหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้

ชาวบ้านทุกคนอพยพออกจากใต้หน้าผาได้อย่างปลอดภัย พวกของย่าเหยียนทั้งสามคนก็ยึดสถานที่แห่งนี้เพื่อสร้างดินแดนใหม่

ในตอนที่ย่าเหยียนที่เอาแต่เฝ้ามองสถานการณ์ด้วยแววตาอันเยือกเย็นก็จ้องมองไปยังชาวบ้านด้วยสายตาที่เฉียบคมพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็นว่า “ข้าอยากจะบอกกับพวกเจ้าว่า เวลานี้พวกเจ้ามีอยู่สองทางเลือก”

ชาวบ้านไม่เคยได้ยินเสียงของย่าเหยียนมาก่อน เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงของนางก็รู้สึกตกใจอย่างไม่ทันตั้งตัว

ต่อให้พวกเขาฝันก็คงคิดไม่ถึงว่าเสียงของผู้หญิงคนนี้เลวร้ายเป็นอย่างมาก

มันฟังอยากเสียยิ่งกว่าเป็ด

ชาวบ้านอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา มองมาที่ย่าเหยียนด้วยความรังเกียจ แต่ในตอนที่สายตาของพวกเขาเผชิญหน้ากับสายตาของย่าเหยียน พวกเขาก็หดตัวลงโดยไม่ตั้งใจและรีบเก็บสายตาของพวกเขาในทันที

แต่พวกเขาก็ไม่ได้เกรงกลัวย่าเหยียนด้วยเรื่องเพียงแค่นี้ ชายผู้มีเครายาวกล่าวออกมาอย่างเยือกเย็นว่า “เอ๊ะ? สองทางเลือกอะไร?”

ย่าเหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นอย่างสุดขีด “ทางเลือกแรก พวกเจ้าทั้งหมดเข้ามาอยู่ในสำนักหมิงเซียนของข้า เป็นลูกศิษย์แห่งสำนักหมิงเซียน?”

ชายผู้มีเครายาวมองมาที่ย่าเหยียนอย่างมีความหมาย เมื่อทั้งคู่สบตากัน เขาก็ไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด เผชิญหน้ากับย่าเหยียนอย่างไม่หลบสายตา

ในวินาทีที่สายตาทั้งสองคู่ปะทะกัน มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดประกายไฟสายฟ้า

ชายผู้มีเครายาวกล่าวอย่างเย็นชา “แล้วหากพวกข้าไม่เข้าร่วมเล่า?”

ย่าเหยียนตอบอย่างเยือกเย็น “เช่นนั้นก็คงเป็นทางเลือกที่สองของพวกเจ้า นั่นก็คือตาย”

เป้าหมายของพวกย่าเหยียนนั้นชัดเจนตั้งแต่แรก พวกเขาถูกใจใต้หน้าผาแห่งนี้ ถูกใจในความโดดเดี่ยวและสันโดษของมัน

เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะปล่อยชาวบ้านให้ออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร?

มอบทางเลือกให้กับชาวบ้านสองทาง นี่ก็คือเป็นคุณธรรมอันยิ่งใหญ่สำหรับย่าเหยียนแล้ว

ดังนั้นเมื่อศัตรูที่แข็งแกร่งอยู่ตรงหน้า หากชาวบ้านยังไม่เชื่อฟังย่าเหยียน สิ่งที่รอเขาอยู่ก็คงมีแค่ความตายอย่างแท้จริง

ชายผู้มีเครายาวสูญเสียความเย่อหยิ่งก่อนหน้านี้ไปโดยสิ้นเชิง เขาพูดด้วยน้ำเสียงของผู้ต้องการพูดคุย “ผู้นำเหยียน พวกข้าสาบานว่า หลังจากพวกเขาออกไปจากที่นี่ พวกข้าจะไม่มีวันเอ่ยถึงสถานที่แห่งนี้กับคนภายนอกเป็นอันขาด”

“ท่านลองไตร่ตรองดูว่าจะสามารถปล่อยพวกเราไปจากที่แห่งนี้ได้หรือไม่?”

ไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขารู้หรือไม่ว่าสำนักหมิงเซียนนั้นเป็นสำนักแบบไหน ต่อให้พวกเขารู้ พวกของชายผู้มีเครายาวก็ไม่คิดที่จะเข้าร่วมกับสำนักนี้

พวกเขามาที่นี่ก็เพราะต้องการปลีกตัวออกจากโลกภายนอก พวกเขาเบื่อกับชีวิตที่มีแต่ปัญหา พวกเขาแค่อยากใช้ชีวิตเหมือนกับคนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น

จึงไม่ต้องพูดถึงเรื่องการเข้าร่วมกับสำนักหรือกลุ่มใดๆ

ยิ่งไปกว่านั้น ย่าเหยียนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ นางใช้พลังของนางในการข่มขู่พวกเขาให้เข้าร่วมสำนักของนาง

หลังจากนี้ พวกเขาก็ต้องปฏิบัติตัวตามคำสั่งของย่าเหยียน ไม่มีอิสระเป็นของตัวเอง ชีวิตของพวกเขาต้องแขวนอยู่บนเส้นด้ายทุกวัน

หากวันใดวันหนึ่งพวกคนนี้อารมณ์เสีย เห็นพวกเขาเป็นที่ระบายอารมณ์ ลงมือสังหารพวกเขา แบบนั้นพวกเขาจะทำอย่างไร?

ความหมายของชายผู้มีเครายาวก็คือ อย่าเข้าร่วมสำนักของย่าเหยียนเป็นอันขาด

ดังนั้นเขาจึงพยายามอย่างเต็มที่

เพื่อให้ได้รับความเชื่อใจจากย่าเหยียน ชายผู้มีเครายาวยกมือของเขาขึ้นเพื่อสาบานต่อสวรรค์ “แด่สวรรค์ที่อยู่เบื้องบน ฟ้าดินเป็นพยาน ข้าจ้าวกังขอสาบานกับฟ้า หลังจากพวกข้าออกไปจากใต้หน้าผาแห่งนี้แล้ว พวกข้าจะไม่เอ่ยถึงมันแม้แต่ครึ่งคำ”

“หากมีการละเมิดใดๆ ขอให้สวรรค์ลงโทษข้าอย่างสาสม!”

เมื่อคิดว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดีเพราะคำสาบาน ชาวบ้านคนอื่นก็ทยอยกันสาบานออกมา

แต่สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขาก็คือ ย่าเหยียนไม่สนใจสิ่งที่พวกเขาทำเลยแม้แต่น้อย นางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น “พวกเจ้าสาบานไปก็ไร้ประโยชน์”

ยังคงเป็นคำพูดเดิม พวกชาวบ้านมีทางเลือกเพียงสองทางเลือก นั่นก็คือทางเลือกที่ย่าเหยียนเป็นคนเสนอออกมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย