อาจั้นหวังว่าย่าเหยียนจะช่วยเขาได้ แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่การพูดเพื่อช่วยระงับความวุ่นวายของชาวบ้านเหล่านี้ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ย่าเหยียนมองทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเย็นชา ราวกับไม่เห็นสัญญาณการขอความช่วยเหลือจากอาจั้น ไม่แม้แต่จะมองมาที่อาจั้นด้วยซ้ำ
ไม่รู้ว่านางไม่ได้ยินจริงๆหรือแกล้งทำเป็นหูหนวกเป็นใบ้ และไม่ต้องการช่วยเหลืออาจั้น
เนื่องจากไม่มีใครให้ความช่วยเหลือ อาจั้นจึงทำได้เพียงพึ่งพาตัวเองเท่านั้น
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาทำได้เพียงกัดฟันเผชิญหน้ากับมัน เขากระแอมออกมาหนึ่งครั้ง กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ทุกคนเงียบ”
แต่กลับไม่มีใครฟังที่เขาพูดเลย เจ้าก็พูดของเจ้า ข้าก็พูดของข้า
มันเป็นฉากที่ควบคุมไม่ได้
ตอนนี้อาจั้นเองก็เพิ่งจะรู้ว่า เขานั้นไม่มีความสามารถในการควบคุมสถานการณ์เอาเสียเลย การที่ย่าเหยียนให้เขาเป็นตัวแทน นี่คือสิ่งที่ผิดพลาด
ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะกล่าวว่า บังคับให้คนอื่นทำอะไรที่เกินความสามารถของตัวเอง
แต่ย่าเหยียนก็เป็นคนสร้างเขาขึ้นมาเอง และเป็นคนที่เลือกเขามาด้วยตัวเอง ดังนั้นอาจั้นจึงไม่กล้าที่จะถอยหลัง
เขาอดไม่ได้ที่จะขึ้นเสียงแล้วตะโกนว่า “ทุกคนเงียบ!”
เมื่อเสียงดังกล่าวสิ้นสุดลง สถานการณ์ก็เงียบขึ้นมาในทันที
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที สถานการณ์ก็รุนแรงยิ่งกว่าเดิม
ชายผู้มีเครายาวมองมาที่อาจั้นด้วยสายตาอันเยือกเย็น เขาพูดออกมาว่า “พวกเจ้าคิดที่จะยึดสถานที่แห่งนี้เป็นของตัวเอง เรื่องนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ แต่หากพวกเจ้ามอบเงื่อนไขบางอย่างให้พวกข้าก็อาจจะเป็นไปได้บ้างไม่ใช่หรือ?”
เช่นเดียวกับชาวบ้านคนเมื่อครู่พูด ชายผู้มีเครายาวเองก็รู้สึกว่าพวกของย่าเหยียนนั้นจะต้องทำอะไรกับช่องทางลับของพวกเขาเป็นแน่
เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ถูกกำจับจ้องไว้แล้ว หากชาวบ้านอาศัยอยู่ที่นี่ต่อไป สุดท้ายก็ไม่มีทางได้ข้อเสนอที่ดี
และสามคนนี้ก็มีท่าทางที่ไม่เป็นมิตร เมื่อเทียบกับการสู้กับพวกเขาจนตัวตาย ไม่สู้ต่างฝ่ายต่างถอยคนละก้าว ชายผู้มีเครายาวหรี่ตาลงพร้อมกล่าวว่า “พวกเจ้าไม่อยากให้ใครรู้จักที่นี่ หลังจากพวกข้าออกไปจากที่แห่งนี้แล้ว พวกข้าจะไม่เอ่ยถึงมันแม้แต่ครึ่งคำ”
พูดมาถึงตรงนี้ หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ เช่นนั้นก็เท่ากับว่าต่างฝ่ายต่างฉีกหน้ากันและกัน
สุดท้ายก็มีแต่ต้องตายกันไปข้างหนึ่งเท่านั้น
ชีวิตเป็นสิ่งล้ำค่า เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น ชายผู้มีเครายาวหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้
ชาวบ้านทุกคนอพยพออกจากใต้หน้าผาได้อย่างปลอดภัย พวกของย่าเหยียนทั้งสามคนก็ยึดสถานที่แห่งนี้เพื่อสร้างดินแดนใหม่
ในตอนที่ย่าเหยียนที่เอาแต่เฝ้ามองสถานการณ์ด้วยแววตาอันเยือกเย็นก็จ้องมองไปยังชาวบ้านด้วยสายตาที่เฉียบคมพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็นว่า “ข้าอยากจะบอกกับพวกเจ้าว่า เวลานี้พวกเจ้ามีอยู่สองทางเลือก”
ชาวบ้านไม่เคยได้ยินเสียงของย่าเหยียนมาก่อน เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงของนางก็รู้สึกตกใจอย่างไม่ทันตั้งตัว
ต่อให้พวกเขาฝันก็คงคิดไม่ถึงว่าเสียงของผู้หญิงคนนี้เลวร้ายเป็นอย่างมาก
มันฟังอยากเสียยิ่งกว่าเป็ด
ชาวบ้านอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา มองมาที่ย่าเหยียนด้วยความรังเกียจ แต่ในตอนที่สายตาของพวกเขาเผชิญหน้ากับสายตาของย่าเหยียน พวกเขาก็หดตัวลงโดยไม่ตั้งใจและรีบเก็บสายตาของพวกเขาในทันที
แต่พวกเขาก็ไม่ได้เกรงกลัวย่าเหยียนด้วยเรื่องเพียงแค่นี้ ชายผู้มีเครายาวกล่าวออกมาอย่างเยือกเย็นว่า “เอ๊ะ? สองทางเลือกอะไร?”
ย่าเหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นอย่างสุดขีด “ทางเลือกแรก พวกเจ้าทั้งหมดเข้ามาอยู่ในสำนักหมิงเซียนของข้า เป็นลูกศิษย์แห่งสำนักหมิงเซียน?”
ชายผู้มีเครายาวมองมาที่ย่าเหยียนอย่างมีความหมาย เมื่อทั้งคู่สบตากัน เขาก็ไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด เผชิญหน้ากับย่าเหยียนอย่างไม่หลบสายตา
ในวินาทีที่สายตาทั้งสองคู่ปะทะกัน มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดประกายไฟสายฟ้า
ชายผู้มีเครายาวกล่าวอย่างเย็นชา “แล้วหากพวกข้าไม่เข้าร่วมเล่า?”
ย่าเหยียนตอบอย่างเยือกเย็น “เช่นนั้นก็คงเป็นทางเลือกที่สองของพวกเจ้า นั่นก็คือตาย”
เป้าหมายของพวกย่าเหยียนนั้นชัดเจนตั้งแต่แรก พวกเขาถูกใจใต้หน้าผาแห่งนี้ ถูกใจในความโดดเดี่ยวและสันโดษของมัน
เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะปล่อยชาวบ้านให้ออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร?
มอบทางเลือกให้กับชาวบ้านสองทาง นี่ก็คือเป็นคุณธรรมอันยิ่งใหญ่สำหรับย่าเหยียนแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...