องค์หญิงต้าถงอุ้มท้องเซียวหมิงชิวด้วยความยากลำบากมาเป็นเวลา 10 เดือน ถึงได้ออกมาจากครรภ์มารดา นางน่าทึ่งเสียยิ่งกว่าเสี่ยวเซียนชิว เซียวเฉวียนไม่กล้าจินตนาการเลยว่า หากเขากับองค์หญิงมีลูกคนที่สอง ลูกคนที่สองของพวกเขาจะเป็นอย่างไร
เช่นนั้นคงน่าทึ่งเสียยิ่งกว่าเซียวหมิงชิว ไม่ได้เชื่อฟังเหมือนกับนาง นั่นก็หมายความว่าไม่มีใครสามารถต้านทานได้ใช่หรือไม่?
แค่คิดเซียวเฉวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดหัว
หากลูกคนที่สองเชื่อฟังเหมือนกับเซียวหมิงชิว แบบนั้นก็คงไม่เลว
ได้ยินเสียงหัวใจของเซียวเฉวียน เซียวหมิงชิวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
เสียงหัวเราะของนางเป็นการเตือนสติของเซียวเฉวียน ว่าข้างกายของเขายังมีตุ๊กตาน้อยที่สามารถอ่านเสียงหัวใจของเขาได้อยู่ เขาหยุดความคิดอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พูดอย่างจริงจังว่า “ในเมื่อเจ้ารู้แล้วว่าย่าเหยียนแข็งแกร่งเพียงใด เช่นนั้นเจ้าก็น่าจะรู้แล้วใช่หรือไม่ว่าเหตุใดพ่อจึงอยากให้เจ้ากลับไปยังพระราชวัง”
เซียวหมิงชิวกะพริบตา กล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “ท่านพ่อไม่จำเป็นต้องไล่หมิงชิวกลับไป หมิงชิวไม่เพียงแค่สามารถดูแลตัวเองได้เท่านั้น แต่ยังสามารถปกป้องท่านพ่อและท่านแม่ได้อีกด้วย”
มันเป็นคำพูดที่ไม่อาจหักล้างได้จริงๆ แม้ว่านางจะแข็งแกร่งกว่าเสี่ยวเซียนชิวและเซียวเฉวียน แต่เซียวเฉวียนก็ไม่คิดว่านางจะสามารถสู้กับย่าเหยียนได้ เขาจึงแนะนำออกไปว่า “หมิงชิวฟังพ่อ รีบกลับไปอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่ของเจ้าเถิด”
เซียวหมิงชิวยิ้มออกมาพร้อมกล่าวว่า “เกรงว่าท่านพ่อคงไม่เชื่อว่าหมิงชิวมีความแข็งแกร่งเช่นนั้นอยู่”
ในเมื่อพูดออกไปแล้วเซียวเฉวียนไม่เชื่อ ไม่ยอมให้นางไปสู้กับย่าเหยียน เซียวหมิงชิวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ไพ่ตายของนาง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หมิงชิวจะไปตามหาย่าเหยียนด้วยตัวเองเพื่อพิสูจน์ให้ท่านพ่อได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของหมิงชิว”
แบบนี้ล่ะเป็นไง?
รู้อยู่แล้วว่าเซียวเฉวียนจะต้องปฏิเสธอย่างแน่นอน ประกอบกับก่อนหน้านี้เซียวเฉวียนก็ไม่มีทางขวางเซียวหมิงชิวได้อยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
แน่นอนว่าเซียวเฉวียนไม่มีทางปล่อยให้เซียวหมิงชิวไปหาย่าเหยียนเพียงลำพัง เซียวหมิงชิวจึงจงใจใช้สิ่งนี้เป็น “ข้อต่อรอง” เซียวเฉวียนเพื่อให้ตนเองได้อยู่ที่นี่ต่อไป
ก็แค่ให้คนอื่นได้รู้ว่าข้างหายของเซียวเฉวียนยังมีเด็กที่น่าทึ่งอย่างตุ๊กตาน้อยอยู่ด้วยเท่านั้นเองไม่ใช่หรือ?
ด้วยการมีอยู่ของเสี่ยวเซียนชิว การปรากฏตัวของเซียวหมิงชิวจึงไม่น่าแปลกใจ
ยิ่งไปกว่านั้น ขอแค่เซียวเฉวียนไม่พูด คนในจวนเซียวไม่พูด ใครจะไปรู้ว่านางที่เป็นลูกสาวของเซียวเฉวียนและองค์หญิงนั้นโกหกหรือขายผ้าเอาหน้ารอด
แบบนี้จะไม่เป็นการเปิดเผยความจริงว่าองค์หญิงต้าถงยังมีชีวิตอยู่อย่างนั้นหรือ!
ถูกเซียวหมิงชิวบงการจนพูดอะไรไม่ออก แถมทุกอย่างนางก็จัดเตรียมไว้อย่างชัดเจนหมดแล้ว เซียวเฉวียนยังมีเหตุผลอะไรต้องปฏิเสธ?
ยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็กังวลว่าตุ๊กตาน้อยจะไปท้าทายย่าเหยียนเพียงลำพัง เขาจึงกล่าวออกมาว่า “ตกลง รอให้พ่อหายบาดเจ็บและแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ พ่อจะพาเจ้าไปสู้กับย่าเหยียนด้วยกัน เจ้าว่าอย่างไร?”
ความหมายของมันก็คือ เจ้ากลับไปอยู่เป็นเพื่อนแม่ของเจ้าในพระราชวังเสียก่อน เมื่อพร้อมแล้วข้าจะไปบอกเจ้าเอง
เซียวหมิงชิวไม่ได้ตอบรับ และไม่ได้ปฏิเสธ แววตาอันกลมโตคู่นั้นของนางจับจ้องมาที่เซียวเฉวียนอย่างเป็นประกาย
กลัวว่านางจะไม่เชื่อที่เซียวเฉวียนพูด เซียวเฉวียนจึงกล่าวเสริมออกมาว่า “พ่อรับปากเจ้า ถึงเวลาพ่อจะไปเรียกเจ้าเป็นแน่”
นางและเซียวเฉวียนมีความสามารถในการสัมผัสซึ่งกันและกัน ต่อให้เซียวเฉวียนไม่คิดจะเรียกนาง เขาก็หลบซ่อนนางไม่พ้นอยู่ดี อย่างไงเขาก็ไม่สามารถแอบหนีออกไปโดยที่นางไม่รู้ได้?
นางยังต้องกังวลอะไรอีก?
ที่จริงเซียวหมิงชิวไม่ได้กลัวเซียวเฉวียนจะไม่รักษาคำพูด ตอนนี้นางแค่อยากอยู่ที่นี่ อยู่เป็นเพื่อนเซียวเฉวียน
แทนที่จะปล่อยให้ผนึกจูเสินช่วงเพิ่มพลังจิตให้กับเขา เซียวหมิงชิวคิดว่าให้นางเป็นคนช่วยยังดีกว่า
นางมั่นใจว่านางสามารถทำได้ดีกว่าผนึกจูเสิน
ดังนั้นนางจึงกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านพ่อ ข้าว่าให้ข้าอยู่ที่นี่จะดีกว่า ข้าสามารถทำให้พลังจิตของท่านแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างรวดเร็ว”
เซียวเฉวียนปฏิเสธออกไป “ไม่ได้ หากเจ้าอยู่ที่นี่ เช่นนั้นท่านแม่ของเจ้าจะทำอย่างไร?”
เซียวหมิงชิวพึมพำออกมา “มีท่านป้าเสวี่ยเยี่ยนคอยอยู่เป็นเพื่อนแล้วไม่ใช่หรือ ไม่เป็นไรหรอก”
ในพระราชวังก็ยังมีเม่ยซีอยู่ด้วย เมื่อรู้ว่าพวกนางอยู่ในพระราชวัง คนจำนวนมากมายขนาดนั้น มีเรื่องอะไรจะต้องกังวล?
ตามที่เซียวหมิงชิวพูด เซียวเฉวียนพยายามทุกวิถีทางเพื่อส่งนางกลับไปยังพระราชวัง
นางรู้ว่าเซียวเฉวียนทำเพื่อความปลอดภัยของนาง แต่นางมีพลังที่แข็งแกร่งอยู่จริงๆ เซียวเฉวียนไม่จำเป็นต้องกังวล
เซียวหมิงชิวยังคงแน่วแน่ “ได้ หมิงชิวจะกลับไปทักทายท่านแม่ที่พระราชวัง จากนั้นจะบอกท่านแม่ว่าท่านพ่อบาดเจ็บและกำลังพักฟื้นอยู่ที่ศาลาคุนหวู่”
ข้าอยากจะรู้เหลือเกินว่า หากท่านแม่รู้เรื่องนี้แล้ว นางจะยังสงบสติอารมณ์อยู่ได้หรือไม่?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...