เป็นอย่างนั้นจริงๆ หากพระเจ้าไม่ช่วยเจ้า เช่นนั้นเจ้าก็คงทำอะไรมันไม่ได้
เสียงคำรามของสายลมพัดพาร่างของนักปราชญ์ไปด้านหน้าอย่างไม่สมัครใจ
เพื่อไม่ให้ถูกพัดไปตามกระแสลม นักปราชญ์ทำได้เพียงเอนตัวไปด้านหน้าชั่วคราวเพื่อเพิ่มแรงต้านทานต่อสายลม
เขาทำเช่นนี้ จริงอยู่ว่าเขาสามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกลมพัดไปด้านหน้าได้ แต่ปัญหาที่เขากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้นั้นรุนแรงกว่าการถูกพัดพาไปตามพายุทราย!
เนื่องจากเขาหรี่ตาลง การมองเห็นของเขาจึงไม่กว้างนัก ประกอบกับสายลมที่รุนแรงที่ทำให้เขาสูญเสียการรับรู้ ทำให้เขาไม่รู้ตัวเลยว่ามีทรายกำลังก่อตัวขึ้นทีละชั้นพร้อมกับสายลมอันรุนแรง
ในตอนที่เขาตอบสนอง ทรายก็ได้ปกคลุมครึ่งหนึ่งของร่างกายเขาไปแล้ว
เขาอยากจะยืนขึ้นมา แต่สายลมอันรุนแรงก็ไม่อนุญาต
ดังนั้นเขาทำได้เพียงคลานไปบนพื้นทราย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตนเองถูกฝังอยู่ในทราย
นี่มันสภาพอากาศบ้าอะไร มันเลวร้ายเสียยิ่งกว่าเห็นผีเสียอีก!
นักปราชญ์คลานไปข้างหน้าด้วยกำลังทั้งหมดของเขา แต่ความเร็วของเขาก็ยังสู้สายลมอันรุนแรงไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ทรายบนร่างกายของเขาจึงมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกได้เลยว่าร่างกายของเขาหนักขึ้น ยิ่งเขาคลานไปนานเท่าไหร่ ความยากของมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น
สายลมปะทะใบหน้าของเขา เม็ดทรายทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด
เขาอดไม่ได้ที่จะหันหลังกลับเพื่อไม่ให้ใบหน้าโดนลม จากนั้นก็เคลื่อนที่ไปด้านหน้าด้วยทั้งสองมือของเขา
แต่ด้วยวิธีนี้ เขาทำได้เพียงไม่ให้เม็ดทรายพัดเข้ามาปะทะใบหน้าของเขาโดยตรงได้เท่านั้น แต่ไม่อาจหยุดเม็ดทรายที่พัดเข้ามาปะทะใบหน้าของเขาทางอ้อมได้
การทำเช่นนี้มีแต่ทำให้ความเร็วของเขาลดลงเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าร่างของเขากำลังถูกฝังด้วยทรายจำนวนมาก สุดท้ายเขาก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที!
หรือเขาจะต้องเอาชีวิตมาทั้งไว้ที่นี่?
เขายังไม่ได้ฟื้นฟูสำนักหมิงเซียนเลย ยังไม่ได้สังหารเซียวเฉวียนในนามตัวแทนของเทียนเต๋า เขายังไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วย่าเหยียนเป็นใครกันแน่ เขาจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป!
ดังนั้นนักปราชญ์จึงไม่ยอมแพ้ แม่ว่าจะยากลำบาก แต่เขาก็ยังต่อสู้กับสายลมที่พัดเข้ามาอย่างรุนแรง พยายามอย่างเต็มที่เพื่อขยับร่างกายของเขาให้ขึ้นไปด้านบน
หากเซียวเฉวียนได้เห็นเจ้าสำนักหมิงเซียนผู้สง่างาม ตัวแทนแห่งเทียนเต๋าอันสูงส่งต้องมีสภาพที่น่าอับอายอย่างเวลานี้ เขาคงจะพูดกับนักปราชญ์ว่า “การต่อสู้กับผู้คนเป็นการต่อสู้ที่แสนสนุก แต่การต่อสู้กับโชคชะตานั้นสนุกยิ่งกว่า!”
ตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่นักปราชญ์จะได้กินอาหาร แค่ไม่ถูกฝังตายอยู่ที่นี่ เท่านี้ก็ถือว่าได้รับการช่วยเหลือจากพระเจ้าแล้ว!
ใต้หน้าผา
เหล่าชาวบ้านปรึกษากันซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายก็ตัดสินใจเข้าร่วมสำนักหมิงเซียน
หากพวกเขาอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
ผลลัพธ์ดังกล่าวทำให้ทุกคนมีความสุขที่สุดแล้ว
ย่าเหยียนที่อารมณ์เสียเพราะจับเซียวเฉวียนไม่ได้มาเป็นเวลานาน ในที่สุดนางก็ได้ทำเรื่องดีสักเรื่อง ทำให้อารมณ์ของนางดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้มาก
ในที่สุดนางก็ได้ที่ตั้งสำหรับสำนักหมิงเซียนแล้ว!
จากนั้นนางก็ตะโกนออกมาว่า “อาเล่อ!”
อาเล่อได้ยินเช่นนั้นก็ปรากฏตัวออกมาด้านหน้าของย่าเหยียน พูดด้วยความเคารพ “ท่านผู้นำเหยียน ข้าน้อยอยู่ที่แล้ว!”
อาเล่อคือคนที่อ่อนแอที่สุดในหมู่ของพวกเขาทั้งสามคน ดังนั้นย่าเหยียนจึงสั่งออกมาว่า “เจ้าอยู่ที่นี่เพื่อคอยสั่งสอนวิชาต่างๆ ให้ชาวบ้านเหล่านี้”
สั่งสอนวิชาต่างๆ ให้กับชาวบ้าน กังฟูของอาเล่อมีมากมายคงสอนไม่หมด
อาเล่อที่ไม่เข้าใจจึงมองมาที่ย่าเหยียนด้วยความงุนงง “ท่านผู้นำเหยียน เช่นนั้นใครจะเป็นผู้เฝ้าด้านบนของหน้าผา”
จะให้เพิกเฉยต่อเซียวเฉวียนและสัตว์สงครามทั้งสองอย่างนั้นหรือ?
ย่าเหยียนกล่าวออกมาว่า “เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องกังวล ข้ามีวิธีของข้า”
ความหมายของมันก็คือ ข้าบอกให้เจ้าทำอะไร เจ้าก็แค่ทำมัน
เรื่องอื่นเจ้าไม่ต้องยุ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...