ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 2001

เซียวเฉวียนย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่า คราต่อไปหมายความว่าเช่นไร เขาจึงเอ่ยคำมั่นสัญญากลับไปว่า "ขอรับ ท่านบรรพชน"

หากมาพบเจอองค์หญิงในคราหน้านั้น มิควรรั้งอยู่จนดึกดื่นเช่นนี้อีก

มิรู้ว่าเป็นเพราะร่างกายของเซียวเฉวียนที่บาดเจ็บอยู่แล้ว หรือเป็นเพราะสภาพอากาศโดยรอบในยามนี้ที่สูงเสียจนทำเอารู้สึกหนาวสั่น ทำเอาเซียวเฉวียนรู้สึกว่าอากาศในยามค่ำคืนนี้หนาวเย็นกว่าวันก่อน ๆ ยิ่งนัก

แต่ด้วยไออุ่นจากผนึกจูเสินที่แผ่กระจายออกมานั้น ทำให้เซียวเฉวียนรู้สึกอบอุ่นขึ้นมามาก

ทว่า ความเร็วในการบินของกินเลนนั้นก็รวดเร็วเช่นกัน ผ่านไปเพียงจิบน้ำชาเดียว พวกเขาก็กลับมาถึงศาลาคุนหวู่ในทันที

ยามราตรีที่เงียบสงัดเช่นนี้ ทั่วทั้งศาลาคุนหวู่ต่างก็ตกอยู่ในความเงียบงัน มีเพียงเสียงแมลงร้องเรียกดังออกมาเท่านั้น

ไฟในตามทางเดินยังคงเปิดเอาไว้สว่างไสว เกรงว่าจะเป็นอี้กุยกระมังที่สั่งให้ข้ารับใช้จุดไฟรั้งรอให้กับเซียวเฉวียนเป็นพิเศษ

หลังจากกลับมายังศาลาคุนหวู่แล้วนั้น เซียวเฉวียนเพียงแค่อาบน้ำชำระกายของตนเองอย่างง่าย ๆ ก่อนจะล้มตัวนอนลงบนเตียงไปในทันที

ค่ำคืนที่ไร้ความฝัน เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง กลับพบว่าแสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาเสียแล้ว ด้านนอกประตูพลันมีเสียงเคาะประตูของอี้กุยดังขึ้นมาว่า "ท่านลุง ท่านตื่นแล้วหรือ?"

นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่อี้กุยวิ่งมาที่นี่ สองครั้งแรกยามที่เขามาถึงนั้น ยังคงเห็นประตูห้องเซียวเฉวียนปิดเงียบอยู่ อี้กุยจึงเข้าใจว่า เซียวเฉวียนยังคงไม่ตื่น ดังนั้นเขาจึงมิคิดเคาะเรียกเพื่อรบกวนเวลาพักผ่อนของเซียวเฉวียน

ทว่า แม้ยามที่ฟ้าสว่างจ้าเช่นนี้ เซียวเฉวียนกลับยังมิเปิดประตูห้องออกมาอีก นับว่าผิดแปลกยิ่งนัก

เนื่องจากเซียวเฉวียนมักจะเป็นคนที่ตื่นตรงเวลาอยู่เสมอ

ดังนั้น อี้กุยจึงคิดว่าเซียวเฉวียนเปลี่ยนใจที่จะค้างอยู่กับองค์หญิงเมื่อคืนนี้ จึงมิได้กลับมาพักที่ศาลาคุนหวู่ หรือว่าอาจมีเรื่องอันใดเกิดขึ้นกับเซียวเฉวียนหรือไม่

ไม่ว่าจักเป็นเช่นไร อี้กุยคิดว่าตนเองควรจักต้องเปิดประตูเข้าไปให้รู้แจ้งเสียก่อน

ในยามที่อี้กุยคิดร้อนใจนั้น พลันมีเสียงประตูเปิดออกมาในทันที พร้อมทั้งเซียวเฉวียนที่เหลือบมองอี้กุยด้วยท่าทีเฉยเมยว่า "สวัสดีตอนเช้า อี้น้อย"

หลังจากที่เห็นว่าเซียวเฉวียนสบายดีแล้วนั้น อี้กุยก็อดมิได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก พลางกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มว่า "อรุณสวัสดิ์ท่านลุง เร็วเข้า ท่านรีบมาทานอาหารเช้าเสีย"

เพื่อให้เซียวเฉวียนได้รับสำรับเช้าได้ทันท่วงทีนั้น ทุกครั้งที่อี้กุยเดินมา เขามักจะถือสำรับอาหารเช้ามาด้วยเสมอ ไม่เพียงเท่านั้น ทุกครั้งที่เขาเดินมาเขายังอุ่นสำรับอาหารให้อุ่นพร้อมสำรับกินอีกด้วย

เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาสงสัยของเหล่าข้ารับใช้มากมาย อี้กุยจึงได้แต่อธิบายออกมาว่า "มื้อเช้าพวกนี้ เอาไว้ข้าจะกลับมารับทีหลัง"

ทว่า ทุกครั้งที่อี้กุยถือสำรับออกไปนั้น เขาก็จักต้องนำมันกลับมาด้วยอยู่เสมอ เหตุผลนี้ดูมิค่อยฟังเข้าเค้าเท่าไหร่นัก

นับว่าโชคดี หลังจากที่ศาลาคุนหวู่มิคิดติดต่อกับผู้คนภายนอก อี้กุยจึงได้ทำการลดจำนวนข้ารับใช้ภายในจวนลง ดังนั้น ข้ารับใช้ที่ยังรั้งอยู่ภายในจวนในตอนนี้จึงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

ศาลาคุนหวู่กว้างใหญ่ขนาดนี้ หากจัดให้คนมาคอยดูแลเพียงไม่กี่คนหาใช่เรื่องง่ายดายไม่

ดังนั้น เหล่าข้ารับใช้ทั้งหลายจึงเอาแต่วิ่งวุ่นตั้งแต่เช้ายันค่ำ ทั้งยังมิมีเวลามาสนใจอี้กุยอีก

หากว่าอี้กุยเรียกหาพวกเขานั้น พวกเขาจึงจักเข้ามาหาอี้กุยพร้อมทำตามคำสั่งในทันที

หากมิเรียกหาละก็ มิเช่นนั้นเหล่าข้ารับใช้ทุกคนต่างก็ยุ่งอยู่กับหน้าที่ของตนเอง

นั่นหมายความว่า ย่อมมิมีเหล่าข้ารับใช้คนใดรู้เรื่องที่อี้กุยเดินถือสำรับอาหารไปยังเรือนทางตะวันตกมาหลายครั้งหลายครา

อี้กุยรักและเคารพเซียวเฉวียนยิ่งนัก

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ แม้แต่ปู่ของเขาอี้อู๋หลี่ หาเคยได้รับการดูแลที่เป็นห่วงเป็นใยเช่นนี้จากอี้กุยไม่

มันสอดคล้องกับคำกล่าวที่ว่า บรรพบุรุษปลูกต้นไม้ ลูกหลานได้ใช้ร่มเงาเสียจริง

อี้อู๋หลี่ปลูกต้นไม้ เซียวเฉวียนได้ใช้ร่มเงาและอี้กุยคือต้นไม้ต้นนั้น

บรรพบุรุษเช่นเขาและต้นไม้เช่นอี้กุย ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!

แม้แต่อ่างน้ำสำหรับล้างหน้าของเซียวเฉวียนก็ยังถูกเตรียมเอาไว้โดยอี้กุยเช่นกัน ก่อนจะวางเอสไว้บนราวบันไดทางเดินหน้าประตูเรือน

เซียวเฉวียนพลันหยิบอ่างล้างหน้าขึ้นมา ก่อนหันหลังกลับเข้าไปในห้อง พลางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเฉยเมยว่า "อี้น้อย มานั่งกินข้าวกับลุงเร็ว?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย