ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 2002

สรุปบท บทที่ 2002 ความคิดของผีพนัน: ซูเปอร์ลูกเขย

อ่านสรุป บทที่ 2002 ความคิดของผีพนัน จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บทที่ บทที่ 2002 ความคิดของผีพนัน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ท้ายที่สุดแล้ว เหตุผลที่เซียวเฉวียนได้รับบ่อนพนันมาจากอี้กุยง่าย ๆนั้น หากใช่เพราะอี้กุยหวาดกลัวต่อเซียวเฉวียนไม่ แต่เพราะบ่อนพนันหาได้มีความสำลักสำคัญต่ออี้กุยแต่อย่างใด

เมื่อมอบบ่อนพนันให้กับเซียวเฉวียนแล้วนั้น ย่อมสามารถปรับเปลี่ยนอี้กุยให้กลับมาขาวสะอาดได้ เสมือนกับว่าเขาซื้อความขาวสะอาดของชื่อเสียงตนเองกลับมาอีกครั้ง เช่นนี้เหตุใดเขาจักมิยินยอมเล่า?

เช่นนี้ บ่อนพนันจึงได้ตกไปอยู่ในกำมือของเซียวเฉวียนในทันที

หลังจากที่เซียวเฉวียนเข้ามารับช่วงต่อเพื่อดูแลบ่อนพนันนั้น ทุกอย่างในบ่อนพนันยังคงดำเนินการต่อไปเช่นเมื่อก่อนมิมีผิดเพี้ยน เสมือนกับว่าหาได้เปลี่ยนเถ้าแก่บ่อนไม่

ต่อมา จึงเป็นอี้กุยที่เข้ามาเป็นคนคอยช่วยเหลือเซียวเฉวียนดูแลสิ่งต่าง ๆ ราวกับบ่อนพนันมิได้เปลี่ยนเจ้าของใหม่ไปเลยแม้แต่น้อย

เหล่าผีพนันที่อดทนรอคอยจนกระทั่งถึงวันเปิดบ่อนพนันมาถึง พวกเขาทุกคนต่างก็อดมิได้ที่จะเริ่มเตรียมตัวขยับไม้ขยับมือ พลางพูดคุยกันด้วยท่าทีตื่นเต้น เมื่อบ่อนพนันเปิดขึ้นมาอีกเมื่อใด พวกเขาจักกวาดเงินจากบ่อนพนันออกมาจนหมดอย่างแน่นอน!

เมื่อได้ยินเหล่าผีพนันพูดเพ้อฝันใหญ่โตขึ้นมาเช่นนี้ เหล่าผู้คนที่อดเอ่ยวาจาดูถูกดูแคลนนั้น จึงกล่าวเหน็บแนมออกมาว่า "อย่าได้เอาแต่พร่ำเพ้อถึงฝันที่มิมีวันเป็นจริงเลย อย่าได้แพ้พนันเสียจนมิมีแม้แต่ผ้าผ่อนมาปกปิดเนื้อตัวเล่า เป็นผู้ใดที่จะได้เงินเป็นกอบเป็นกำนั้น พวกเจ้ายังมิรู้อีกหรือ!”

เขาที่มีชีวิตอยู่มานานหลายสิบปีเช่นนี้ นับว่าพบเจอเหล่าผีพนันที่สิ้นเนื้อประดาตัวก็มามากมายนัก ทั้งยังต้องสูญเสียลูกเมียของตนเองไป ทั้งยังต้องมามีชีวิตที่น่าโศกเศร้าเวทนา เขาหาได้เคยพบเจอผู้ที่เล่นจนร่ำรวยเดินออกมาจากบ่อนพนันไม่

ทว่า เขาเองหาได้มีอคติกับการพนันไม่ ทว่า ลงพนันเดิมพนันเล็ก ๆ น้อย ๆ พอหอมปากหอมคอก็พอแล้ว

หากแต่เหล่าผีพนันที่ลงเล่นจนเกินตัวนั้น ทั้งยังเอาแต่เฝ้าฝันความร่ำรวยจากการพนันเช่นนี้ นับว่าเป็นการผลักตนเองให้ลงไปในเหวเสียจริง!

นับว่าเป็นการกระทำที่โง่เขลายิ่งนัก!

ผู้ที่เอ่ยวาจาเช่นนี้ออกมา เป็นชายชราที่อายุอานามห้าสิบกว่าปี ถึงแม้ว่าดูจากภายนอกเขาจักมีอายุมากมายแล้วก็ตาม หากแต่เขาเป็นชายชราที่ดูมีจิตใจร่าเริง ทั้งยังเอ่ยวาจาออกมาได้ชวนเชื่อน่าฟังยิ่งนัก

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขามาที่นี่เพื่อมาเอ่ยคำเยาะเย้ยต่อเหล่าผีพนันพวกนี้ หากแต่เหล่าผีพนันที่ได้ยินนั้นหาได้กล้าโกรธเคืองชายชราผู้นี้ไม่

เห็นได้ว่าผู้คนในเมืองหลวงให้ความเคารพชายชราผู้นี้เป็นอย่างมาก

ความหัวโบราณของคนในยุคโบราณนั้น มีทั้งข้อดีและข้อเสีย

ข้อเสียคือมันล้าสมัยเกินไป เอะอะก็มักจะนำปัญหาขึ้นมาถกมาเถียงเสียจนจนกว่าจะแก้ปัญหานั้นขึ้นมาได้

ในยุคปัจจุบันนั้นกล่าวเอาไว้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมักจะมีสองด้านอยู่เสมอ ซึ่งผู้คนในยุคปัจจุบันกล่าวว่ามันเป็นดาบสองคม

การนำปัญหามากมายขึ้นมาถกมาเถียงนั้น ยังสามารถทำให้คนโบราณเหล่านี้ไม่กล้าหยิ่งผยองอีกด้วย

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ แม้ว่าตัวเองจักเป็นพวกโง่เง่า นอกเสียจากเหล่าคนชั่วร้ายคนอื่น ๆ แล้ว ทุกคนต่างก็ต้องให้เคารพแก่ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีสถานะบางอย่างนั่นเอง

อีกทั้งชายชราที่เอ่ยหัวเราะเยาะเย้ยพวกเขาเมื่อครู่นั้น เคยเป็นปรมาจารย์มาก่อนเช่นกัน

ถึงแม้ว่าสถานะของปรมาจารย์จักมิได้สูงส่งมากนัก หากแต่เมื่อเทียบกับเหล่าชาวบ้านธรรมดาแล้ว เขาก็มีฐานะมิน้อยเลย ด้วยสถานะของปรมาจารย์เช่นนี้ ผู้คนในยุคโบราณจึงนับถือคนเหล่านี่เป็นอย่างมาก

อาจารย์เปรียบดั่งบิดา!

ถึงแม้ว่าปรมาจารย์ท่านนี้จักมิได้สอนสั่งเหล่าผู้คนที่นั่งอยู่เลยสักคนเดียว ทว่า ในฐานะที่ตนเองเคยเป็นหนึ่งในปรมาจารย์มาก่อนนั้น เขาย่อมมีความสามารถที่มากกว่าคนทั่วไป

หากว่าปรมาจารย์เอ่ยคำพูดที่ไม่ถูกหูขึ้นมาแล้วไซร้ แล้วเขาเรียกตัวลูกศิษย์ตนเองที่เป็นบุคคลที่เหล่าชาวบ้านให้ความเคารพก็ดี หรือรับราชการในรั้ววังก็ดี หากมีคนไปทำให้เหล่าปรมาจารย์มิพอใจขึ้นมาละก็ คนอื่น ๆ จะยอมปล่อยพวกเขาที่มิคิดฟังคำสอนของปรมาจารย์ไปได้อย่างง่ายดายหรือ?

หรืออีกอย่างหนึ่งก็คือ มิควรทำให้เหล่าปรมาจารย์พวกนี้โมโหเป็นอันขาด

อย่าทำให้พวกเขาโมโหต่อหน้าสาธารณชน!

เหล่าผีพนันได้แต่สะกดกลั้นความโกรธเอาไว้ภายในใจ ถึงแม้ว่าใบหน้าจักเต็มไปด้วยรอยยิ้มกล่าวออกมาว่า "เป็นดั่งที่ท่านอาจารย์เอ่ยขอรับ!"

ชายชราพลางเอ่ยตะคอกออกมาด้วยท่าทีเย็นชาว่า "อย่าคิดว่าผู้เฒ่าเช่นข้า มิรู้ว่าภายในใจของพวกเจ้าคิดสิ่งใดอยู่"

พวกเขาหาได้มีความกล้าที่จะเอ่ยโต้ตอบชายชราผู้นี้ไม่ ทั้งยังมิกล้าทำให้เขาโกรธเคืองอีกด้วย ไม่ว่าชายชราจักเอ่ยสิ่งใดออกมา เขาก็ได้แต่ต้องเออออห่อหมกตามไปเท่านั้น

พวกเขาเพียงแค่ทำท่าเห็นด้วย หาได้คิดที่จะเปลี่ยนแปลงนิสัยของตนไม่ เพียงหันกายกลับหลัง ก็พร้อมมุ่งหน้าเข้าสู่บ่อนพนันไปด้วยความตื่นเต้นในทันที

"พวกเจ้า ทางที่ดีควรละทิ้งความฝันที่จะรวยเสีย"

“บุรุษผู้รักในโชคลาภ ย่อมสมควรเดินไปในเส้นทางที่ถูกต้อง”

“การคิดหาเงินผ่านการเล่นพนันนั้น เป็นเพียงความฝันที่ลอยลม”

ผีพนันคนหนึ่งพลางเอยสมทบขึ้นมา "ขอรับ เป็นดั่งที่ท่านผู้เฒ่าเอ่ยเอาไว้มิมีผิดขอรับ พวกเราจักเปลี่ยนเอง"

เขาคร้านที่จะสนใจฟังคำสอนของชายชราผู้นี้แล้ว มีคนบางคนค่อย ๆ ลอบออกไปจากวงสนทนานี้เช่นกัน

ในยามที่ชายชราเอ่ยขึ้นมาในคราแรกนั้น นับว่ายังมีผู้คนเข้ามารายล้อมฟังอยู่เป็นจำนวนมาก ทว่าในยามนี้หลงเหลืออยู่เพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น

นั่นเป็นเพราะ พวกคนเหล่านี้อยู่ใกล้ชายชราเกินไป พวกเขาอยากจะหนีก็มิอาจหนีออกไปได้ง่ายดายนัก

ปากมิเป็นมงคล!

พบเจอเขาช่างเป็นเรื่องอัปมงคลเสียจริง!

ทุกคนต่างก็เห็นพ้องต้องกันในทันที “ใช่ ใช่ หากมิใช่เห็นว่าเขาเองก็เป็นปรมาจารย์ละก็ วาจาที่เขาเอ่ยออกมานั้นคงมิแคล้วถูกผู้คนทุบตีไปไม่รู้กี่รอบแล้ว”

“พูดดี ๆ มิเป็นหรือ!”

"ดวงซวยจริง ๆ เลย!"

“ใช่ ๆ เขามิพูดคงมิมีผู้ใดกล่าวหาว่าเขาเป็นใบ้หรอก”

บางคนถึงกับเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเหยียดหยามว่า "ข้าว่า เขาคงเสพติดการสอนลูกศิษย์มากไปหน่อย ไม่ว่าพบเจอผู้ใดก็คงคิดว่าเป็นศิษย์ของตนเองไปเสียหมดกระมัง ถึงได้เรียกมาสอนสั่งอบรมเช่นนี้ "

ยิ่งทุกคนพูดขึ้นมา ต่างก็ยิ่งรู้สึกโมโหมากขึ้นเท่านั้น อารมณ์ดี ๆ เมื่อครู่กลับต้องมาถูกชายชราผู้นั้นทำลายเสียหมด

พลันมีคนพยายามเอ่ยเกลี้ยกล่อมขึ้นมาว่า “พอเหอะ ลืมมันเสีย พวกเราอย่าได้ไปเจ้าคิดเจ้าแค้นกับคนประเภทนี้เลย”

“เดิมทีเขาก็เป็นคนที่น่าเบื่ออยู่แล้ว คิดเสียว่าคำพูดเขาเป็นวาจาที่ผายลมออกมาเท่านั้น”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น พลันมีคนเอ่ยสมทบขึ้นมาในทันที "ใช่ ใช่ มันไม่คุ้มค่าที่จะโกรธคนแบบนี้"

หลังจากปลอบใจตนเองอยู่ครู่หนึ่ง เหล่าผีพนันพลันรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาแล้ว พลางรู้สึกว่าบ่อนพนันนั้นคือแดนสวรรค์ของพวกเขา หลังจากนี้ไป พวกเขาจักได้มีชีวิตเช่นคนรวยเสียที

พวกเขาหาได้คิดไม่ว่า หลังจากวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป พวกเขามีแต่จะยิ่งจนลงเท่านั้น!

ความคิดของเหล่าผีพนันพวกนี้นับว่าแปลกประหลาดมากนัก พวกเขามิเคยคิดว่าตนเองจักพ่ายแพ้มาก่อน ในหัวสมองกลับคิดแต่ว่าตนเองจักชนะ จักร่ำรวยเท่านั้น

ถึงแม้ว่าพวกเขาจักพ่ายแพ้จนนัยน์ตาแดงก่ำ แต่พวกเขากลับคิดเพียงแค่ว่าตนเองเพียงโชคไม่ดีเท่านั้น ตราต่อไปดวงของพวกเขาย่อมมาอย่างแน่นอน พวกเขาจักต้องพลิกกลับมาชนะให้ได้ จักต้องเอาเงินที่พ่ายแพ้ไปเมื่อครู่ถอนทุนคืนกลับมาให้หมด

ยิ่งพ่ายแพ้มากเท่าใด ความคิดอยากจะเอาชนะยิ่งมีมากเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงมีแต่ต้องถลำลึกเข้าไป ยิ่งพนันยิ่งพ่ายแพ้ ยิ่งพนันยิ่งจนลง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย