ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 2003

กระทั่งพวกเขาแพ้พนันจนสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้วนั้น ภายในใจของเขายังคงเก็บความโชคดีเหล่านั้นเอาไว้ พลางบอกกับตนเองว่าพนันตราหน้าพวกเขาจักต้องชนะกลับมาอย่างแน่นอน

พร้อมทั้งหลงมัวเมาอยู่แต่ในบ่อนพนันจนมิอาจเอาตัวเองออกมาได้!

เมื่อบ่อนพนันจักกลับมาเปิดใหม่เช่นนี้ เหล่าผีพนันที่ไปพ่ายแพ้จากบ่อนอื่นจนสงสัยในโชคชะตาของตนเอง ไม่เพียงแต่เขารู้สึกว่าโชคด้านพนันในครานี้จักขึ้นมือ ทั้งยังคิดไปเองว่าโชคแห่งโชคลาภมาสิงสถิตอยู่ในร่างกายของเขาอีก พวกเขาจักต้องกอบโกยเงินออกจากบ่อนพนันมาได้เป็นกอบเป็นกำอย่างแน่นอน

ในยามที่เหล่าผีพนันกำลังตื่นเต้นอยู่นั้น ทางฝั่งของเหล่าแขกเรือที่เป็นนักกินเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน

เพื่อยืนยันว่าหอปี๋เซิ่งจักเปิดขึ้นจริง ๆ ในวันพรุ่งนี้นั้น เหล่าราษฎรที่คิดถึงรสชาติอาหารอันโอชะของหอปี๋เซิ่ง ต่างก็พากันมาสอดส่องดูลาดเลาการเคลื่อนไหวของหอปี๋เซิ่งในทันที

ทันใดนั้น พวกเขาก็พบว่าพลันมีป้ายอันใหม่ติดอยู่ด้านหน้าหอปี๋เซิ่ง พร้อมทั้งมีแถบผ้าสีแดงปิดแผ่นป้ายเอาไว้

ไม่เพียงเท่านั้น ด้านหน้าของประตูหน้าหอปี๋เซิ่งยังมีโคมไฟสีแดงแขวนอยู่อีกด้วย พร้อมทั้งแผ่นป้ายคู่มงคลที่ติดอยู่ด้านหน้าประตูเป็นสัญญาณของการเปิดร้านอย่างแน่นอน

ดูเหมือนว่า ร้านย่อมเปิดพรุ่งนี้มิมีผิดแน่

พลันมีบางคนเอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทีตื่นเต้นว่า "เยี่ยมมาก! ข้ารอวันนี้มานานมากจริง ๆ "

หลังจากที่ได้กินอาหารจากหอปี๋เซิ่งไปนั้น เมื่อไปกินอาหารที่อื่น หรือแม้แต่อาหารในบ้านของตนเองกลับรู้สึกว่าธรรมดาไปในทันที

ถึงแม้ว่า พวกเขาจักมิอาจกินอาหารจากหอปี๋เซิ่งทุกวันได้ ทว่า เมื่อห่างหายไปนานเช่นนี้ ก็ย่อมทำให้พวกเขาหวนนึกถึงรสชาติอันโอชะเช่นกัน

พลันมีคนกล่าวว่า "พวกเจ้าไม่รู้อะไร บุตรชายของข้ายังคงร้องอยากจะกินอาหารจากหอปี๋เซิ่งอยู่ทุกวัน"

“หอปี๋เซิ่งปิดทำการไปนานเท่าใด เขาก็เอ่ยร้องโอดครวญอยู่ข้างหูข้านานเท่านั้น เมื่อหอปี๋เซิ่งเปิดแล้วเช่นนี้ ในที่สุดหูของข้าก็จักได้กลับมาสงบสุขสักที”

คนอื่นพลางกล่าวสมทบขึ้นมาในทันทีว่า "หาใช่ไม่ เด็ก ๆ ที่บ้านของข้าก็เป็นเช่นกัน"

ถึงกับมีคนกล่าวออกมาว่า "สรุปว่า การที่หอปี๋เซิ่งกลับมาเปิดอีกครั้งนับว่าเป็นเรื่องที่ดีจริง ๆ "

ทุกคนต่างก็มีความสุขกันถ้วนหน้า!

ก่อนหน้านั้นหอปี๋เซิ่งได้ถูกซ่อมแซมและถูกสร้างขึ้นมาใหม่ พวกเขาก็มิมิสิ่งใดจักเอ่ยออกมา

ทว่า หลังจากที่ซ่อมแซมปรับปรุงหอปี๋เซิ่งจนเสร็จแล้วนั้น ก็ยังไม่มีข่าวคราวจักกลับมาเปิดร้านอีก นั่นจึงทำให้พวกเขาร้อนใจและตั้งตารอคอยให้หอปี๋เซิ่งกลับมาเปิดอีกครั้ง

หากแต่พวกเขาหาได้เห็นเซียวเฉวียนและอี้กุยไม่

อีกทั้ง อี้กุยมักจะสร้างท่าทีเย็นชาให้ผู้คนภายนอกได้พบเห็นอยู่เสมอ นั่นจึงทำให้ผู้คนมากมายไม่กล้าเข้าไปทักทายเขา

กลับกันหากเป็นเซียวเฉวียนแล้วละก็ ถึงแม้ว่าท่าทีของเขาจักดูเป็นคนโมโหร้าย พวกเขาแองก็นึกเกรงกลัวเซียวเฉวียนเช่นกัน ทว่า เซียวเฉวียนทำเพื่อพวกเขามามากมายนัก

ดังนั้น เหล่าราษฎรย่อมรู้ว่าพวกเขาอยู่ภายในใจของเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนหาได้คิดร้ายอันใดต่อพวกเขาไม่

เมื่อเปรียบเทียบทั้งสองคนแล้วนั้น เหล่าราษฎรเต็มใจที่จักเข้าไปทักทายกับเซียวเฉวียนเสียมากกว่า

เหตุผลที่อีกอย่างหนึ่งก็คือ เดิมทีเซียวเฉวียนมาจากตระกูลบัณฑิตที่ยากจน นั่นจึงทำให้เหล่าราษฎรรู้สึกสะดวกใจที่จะพูดเป็นกันเองกับเซียวเฉวียนเสียมากกว่า

หากแต่พวกเขาไม่อาจรอให้เซียวเฉวียนปรากฏตัวขึ้นมาได้ ทั้งยังไม่รู้ด้วยว่าหอปี๋เซิ่งจักเปิดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อใด

เมื่อรู้ข่าวว่าหอปี๋เซิ่งจักเปิดขึ้นมาครั้ง ช่างเป็นเรื่องที่ดียิ่ง

บางคนเอ่ยขึ้นมาอย่างตื่นเต้นว่า "เช่นนี้ ใต้เท้าเซียวกลับมาแล้วหรือ?"

เขาเป็นถึงเถ้าแก่ของเหลาอาหาร วันงานเปิดร้านที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ เถ้าแก่ย่อมต้องมาจัดการด้วยตัวเองใช่หรือไม่

พลันมีผู้คนที่อยู่ในกลุ่มกล่าวว่า "ข้าไม่คิดเช่นนั้น ในยามนี้ยังมิได้ยินข่าวใต้เท้าเซียวกลับเมืองหลวงมาเลย ทั้งยังมิเห็นเขาอีกด้วย"

แต่ก่อนนั้น หากว่าเซียวเฉวียนกลับมาเมืองหลวงเมื่อใด เขามักจะมาปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนอยู่เสมอ

เมื่อเอ่ยขึ้นมาเช่นนี้ ทุกคนพลันรู้สึกว่าดูสมเหตุสมผลยิ่งนัก

ในขณะเดียวกัน พลันมีคนเอ่ยอธิบายเพื่อคลี่คลายความสงสัยของทุกคนออกมาว่า "ข้าได้ยินมาว่า ใต้เท้าเซียวมิได้กลับมา แต่งานเปิดร้านในวันพรุ่งนี้นั้นเป็นคุณชายอี้ที่จัดการแทน"

ทุกคนในเมืองหลวงต่างก็รู้ดีว่า เซียวเฉวียนได้มอบหอปี๋เซิ่งและบ่อนพนันให้อี้กุยเป็นคนบริหารไปหมดแล้ว

เดิมทีอี้กุยที่เป็นพ่อค้าอยู่แล้วนั้น ทั้งยังมีศักดิ์เป็นหลายชายของเซียวเฉวียนอีก เขาเองก็เป็นแฟนตัวยงของเซียวเฉวียนเช่นกัน อีกทั้งเซียวเฉวียนเองก็ไว้วางใจในตัวเขาเป็นอย่างมาก

บทที่ 2003 เดินไปในทิศตรงกันข้าม 1

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย