ย่าเหยียนเพียงเดินเข้าประตูเมืองไปอย่างเงียบ ๆ พร้อมทั้งได้ยินผู้คนในเมืองหลวงพูดคุยกันอย่างมีความสุขเกี่ยวกับการเปิดหอปี๋เซิ่งและบ่อนพนันในวันพรุ่งนี้
เมื่อได้ยินเช่นนี้ นางอดมิได้ที่จะไปหยุดอยู่ในมุมตรอกซอกซอยที่มิผู้ใดพบเห็น อาจั้นที่สงสัยพลันอดมิได้ที่เอ่ยถามขึ้นมาว่า "เจ้าสำนักเหยียน ทำไมหยุดทำไมหรือ?"
เหลาอาหารและบ่อนพนันของเซียวเฉวียนจักเปิดขึ้นในวันพรุ่งนี้แล้ว ในฐานะเถ้าแก่ร้านเซียวเฉวียนจักต้องมาร่วมงานอย่างแน่นอน
หากทำตามคำของอาจั้นนั้น ในยามนี้พวกเราควรจักเข้าเมืองหลวงเพื่อไปหาที่พัก พร้อมทั้งวันพรุ่งรอจัดการเซียวเฉวียนที่เหลาอาหารนี้เสีย
ย่าเหยียนเพียงเหลือบตามองอาจั้นเล็กน้อย "ในเมื่อเจ้าคิดเช่นนั้น เจ้าคิดว่าเซียวเฉวียนจักไม่คิดเช่นเดียวกันหรือ?"
ในเมื่อเขารู้ดีว่าย่าเหยียนและคนอื่น ๆ กำลังไล่ตามเขาอยู่นั้น แต่เขายังเลือกที่จะปรากฏตัวต่อสาธารณชนในเวลานี้ เซียวเฉวียนจักโง่ขนาดนั้นเลยหรือ?
ไม่ เซียวเฉวียนมิมีทางเอาชีวิตของตนเองมาเล่นๆ เช่นนี้อย่างแน่นอน
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ย่าเหยียนมิรู้สึกว่าเซียวเฉวียนจักอยู่เมืองหลวงในยามนี้ไม่
นั่นเป็นเพราะเขารู้ดีว่า การเปิดเหลาอาหารและบ่อนพนันของตนเป็นเรื่องใหญ่มากเพียงใด ทั้งยังมีทางที่เรื่องนี้จักไปถึงหูของย่าเหยียนอีก
หากว่าย่าเหยียนมาที่เมืองหลวงจริง เซียวเฉวียนย่อมมิมีทางหนีพ้น!
ถึงแม้จักกล่าวออกมาเช่นนั้น หากแต่อาจั้นกลับรู้สึกว่าเซียวเฉวียนอาจจะซ่อนตัวอยู่ในเมืองหลวง
ในคราก่อน เขาจำได้ว่าเซียวเฉวียนเคยทำอะไรแบบนี้เช่นกันในยามที่เขาอยู่ที่ถนนชางเฉิงในรัฐมู่อวิ๋น
ยามที่อยู่ด้านล่างตีนผานั้น เขาเองก็เคยทำเช่นนี้เช่นกัน เอาชีวิตรอดในยามนี้พบเจออันตราย
ความกล้าหาญของเซียวเฉวียนนั้น หาได้เหมือนผู้ใดไม่ เขาทำอันใดหาได้เคยอยู่ในกรอบตามเกณฑ์เลยสักครั้ง
ไม่มีสิ่งใดมารับประกันได้ว่า วันพรุ่งเซียวเฉวียนจักมาปรากฏตัวในวันพรุ่งนี้
ดังนั้น อาจั้นจึงกล่าวว่า "เจ้าสำนักเหยียน ในเมื่อพวกเรามาถึงแล้ว เหตุใดมิลองค้างอยู่ที่นี่สักคืนหนึ่งก่อนเล่า"
อย่างน้อยพวกเรากจักได้ดูลาดเลาด้วยว่า เซียวเฉวียนจักในวันพรุ่งนี้หรือไม่
ย่าเหยียนพลางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเฉยเมย "สิ่งที่เจ้าพูดนั้นหาใช่ว่าไม่มีเหตุผลไม่ แต่เจ้าก็ต้องรู้ด้วยว่าที่นี่คือเมืองหลวง จวนตระกูลเซียวอยู่ที่นี่ ทรัพย์สินของเซียวเฉวียนอยู่ที่นี่และทุกสิ่งเกี่ยวกับเซียวเฉวียนอยู่ที่นี่ ในเมื่อเซียวเฉวียนได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ แม้แต่จะเอาตัวรอดด้วยตนเองยังยาก มิต้องพูดถึงการปกป้องผู้คนที่อยู่รอบตัวเขารวมไปถึงทรัพย์สินเขาเลย”
เขาจักกล้ากลับมาเมืองหลวงในยามนี้หรือ?
ในเมืองหลวงต่างมีหูมีตามากมาย อีกทั้งเขายังรู้ว่าย่าเหยียนมีความสามารถในการอ่านใจคนอีก เขาคิดว่าเขาจักซ่อนตัวอยู่ในเมืองหลวงได้งั้นหรือ?
ย่าเหยียนหมายความว่า ถึงแม้จักเป็นเพียงวันเปิดร้านก็ตาม นางมั่นใจถึงสิบส่วนว่า เซียวเฉวียนมิได้อยู่ในเมืองหลวงอย่างแน่นอน
หากแต่อาจั้นยังคงไม่วางใจ พลางกล่าวขึ้นมา "ถึงแม้ว่าพวกเราจักไม่ค้างคืนที่นี่ เช่นนั้นพวกเราลองไปดูลาดเลาที่จวนตระกูลเซียวหน่อยหรือไม่"
ถึงอย่างไรย่าเหยียนก็มีความสามารถมากมาย เพียงเข้าออกไปตามหาเบาะแสของเซียวเฉวียนนั้น หาได้กินแรงอันใดมากมายไม่
จวนตระกูลเซียวคือรังของเซียวเฉวียน ขอเพียงแค่เขากลับมาที่เมืองหลวงละก็ ย่อมมีความเป็นไปได้ที่เขาจักอยู่ในจวนตระกูลเซียว
ถึงแม้ว่าจักไม่อยู่ในจวนตระกูลเซียว คนในตระกูลเซียวย่อมรู้เรื่องแน่นอนว่าเซียวเฉวียนได้กลับมาหรือไม่ หรือว่าเขาอยู่ที่ใด
ในเมื่อมาแล้ว เหตุใดไม่ลองไปดูลาดเลาดูหน่อยเล่า?
อาจั้นหาได้มีความสามารถในการล่วงรู้จิตใจผู้คนไม่ มิฉะนั้น ถึงแม้ว่าย่าเหยียนจะไม่เห็นด้วย เขาย่อมหาโอกาสตามหาเบาะแสด้วยตนเองอย่างเงียบ ๆ เช่นกัน
หากมิไปจวนตระกูลเซียวละก็ เขารู้สึกมิค่อยวางใจนัก
อาจั้นหาได้รู้ไม่ว่าจวนตระกูลเซียวมีม่านพลังปกป้องเอาไว้ ว่าเขาจะมีพละกำลังมากเพียงใด ก็มิอาจบุกเข้าในม่านพลังของจวนตระกูลเซียวได้
เมื่อเห็นว่าอาจั้นตั้งใจแน่วแน่ที่จะไปจวนตระกูลเซียวนั้น ที่จริงแล้วเป้าหมายของเขาเองก็ไม่เลวเลย อีกทั้งสิ่งที่อาจั้นเอ่ยออกมาก็มีเหตุผลเช่นกัน ย่าเหยียนจึงตั้งใจฟังคำแนะนำของอาจั้นเป็นครั้งแรก "ได้ เช่นนั้นไปที่จวนตระกูลเซียว”กัน
พูดจบ ทั้งสองพลันลอบสบตากันก่อนจะหายไปในชั่วพริบตา
เพียงพริบตาเดียว พวกเขาทั้งสองก็มาถึงด้านหน้าประตูจวนตระกูลเซียวในทันที ยามที่อาจั้นต้องการเข้าไปนั้น ย่าเหยียนจึงรีบเอ่ยห้ามเอาไว้เสียก่อน "อย่าไป จวนตระกูลเซียวมีม่านพลังปกป้องเอาไว้อยู่"
ด้วยพละกำลังของอาจั้น เข้าไปไม่ได้ไม่พอ ทั้งยังจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นอีกต่างหาก
ยิ่งไปกว่านั้น ย่าเหยียนมักจะรู้สึกเหมือนมีดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองมาที่พวกเขาอยู่เสมอ
ทว่า เมื่อนางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ นั้น นางหาได้พบเจออันใดไม่
เมื่อเห็นท่าทางที่น่าสงสัยของย่าเหยียนนั้น อาจั้นอดที่จะเอ่ยออกมาด้วยความสงสัยได่ว่า "ท่านเจ้าสำนักเหยียน มีอะไรผิดปกติหรือ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...