ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 2005

สรุปบท บทที่ 2005 ห้ามเสี่ยงอันตราย: ซูเปอร์ลูกเขย

ตอน บทที่ 2005 ห้ามเสี่ยงอันตราย จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 2005 ห้ามเสี่ยงอันตราย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เป็นไปได้หรือไม่ว่า ในใต้หล้านี้ยังมีคนที่แข็งแกร่งมากกว่าย่าเหยียนอยู่ ทั้งยังคอยแอบช่วยเหลือเซียวเฉวียนด้วย?

ทว่า เมื่อย่าเหยียนคิด ๆ ดูแล้วนั้น หากว่าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เซียวเฉวียนคงจักขอให้บุคคลนั้นช่วยจัดการนางไปแล้วกระมัง เหตุใดเขาต้องเอาตัวเองมาบาดเจ็บสาหัสเช่นนั้น จนตัวเองต้องไปหลบซ่อนตัวเช่นนี้ด้วยเล่า?

เมื่อคิดได้เช่นนั้น ย่าเหยียนพลันรู้สึกว่าเป็นนางที่คิดมากเกินไปเอง

ทว่า ม่านหลังที่นางมิอาจทำลายได้นั้น นางจักหาสิ่งใดมาอธิบายเกี่ยวกับมันดี?

หลังจากที่คิด ๆ ดูแล้วนั้น ปัญหาทั้งสองข้อนี้ทำให้ย่าเหยียนตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิดของตัวเองไปในทันที

หรือว่า ที่นางรั้งรอมานานเช่นนี้แต่มิมีผู้ใดออกมา เป็นเพราะว่าเซียวเฉวียนอยู่ในจวนตระกูลเซียวจริงๆ?

เมื่อเห็นว่าย่าเหยียนมิสามารถเข้าไปในจวนตระกูลเซียวได้นั้น อาจั้นก็อดที่จะคาดเดาไปต่าง ๆ นานามิได้ว่า เซียวเฉวียนน่าจะอยู่ในจวนตระกูลเซียว

หากแต่เซียวเฉวียนมีความสามารถมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน? แม้แต่ย่าเหยียนก็ยังถูกผลักให้อยู่ด้านนอกม่านพลังเช่นนี้ได้?

อาจั้นพลางมองไปที่ย่าเหยียนด้วยสีหน้างุนงง ทว่า ย่าเหยียนที่มีสภาพเหนื่อยหอมกลับมีท่าทีหมดสภาพจนแทบจะหลั่งน้ำออกมา นางหาได้หันไปมองอาจั้นไม่

นางพยายามตั้งจิตใจจดใจจ่อกับการเคลื่อนไหวที่อยู่รอบตัวนาง ทันใดนั้นนางก็สังเกตเห็นร่างหนึ่งผ่านไปมาอยู่ใกล้ ๆ

เมื่อย่าเหยียนเพ่งมองดูอีกครั้ง ที่ตรงนั้นกลับเงียบสงบหาได้มีสิ่งใด

เป็นไปได้ไหมว่านางกำลังเกิดอาหารหลอนขึ้นมา?

แท้จริงแล้ว ย่าเหยียนหาได้คิดไปเองไม่ แต่มีคนที่คอยจับจ้องมองย่าเหยียนและอาจั้นอยู่จริง ๆ

คนผู้นั้นคือเซียวหมิงชิว

ไม่เพียงแต่เซียวหมิงชิวจักสามารถสัมผัสตำแหน่งของเซียวเฉวียนได้นั้น นางยังสัมผัสได้ถึงผู้ที่มีพละกำลังแข็งแกร่งอีกด้วย

เดิมที เซียวหมิงชิวแอบย่องออกจากพระราชวังอย่างเงียบ ๆ เพื่ออยากจะรู้ว่าย่าเหยียนจักลอบเข้ามาในเมืองหลวงหรือไม่ หรือมีผู้ใดที่น่าสงสัยเข้ามาในเมืองหรือไม่

ทว่า ในยามที่นางมาถึงประตูเมืองนั้น เซียวหมิงชิวบังเอิญพบกับย่าเหยียนและอาจั้นเสียก่อน ดังนั้นนางจึงได้ลอบติดตามพวกเขาไปจนมาถึงจวนตระกูลเซียวแห่งนี้แทน

นั่นก็หมายความว่า ตั้งแต่วินาทีที่ทั้งสองเดินเข้ามาในประตูเมืองนั้น พวกเขาก็ตกเป็นเป้าหมายของเซียวหมิงชิวเสียแล้ว

นี่เป็นเรื่องจริงที่ย่าเหยียนรู้สึกตัวอยู่เสมอว่ามีคนสอดแนมพวกเขาอยู่

อย่างไรก็ตามเซียวหมิงชิวมีการตอบสนองตัวเร็วกว่าย่าเหยียนมานัก ดังนั้นย่าเหยียนจึงมิทันได้รู้ตัวว่าเซียวหมิงชิวกำลังติดตามนางอยู่

ใช่แล้ว ความจริงที่ว่าม่านพลังของจวนตระกูลเซียวแข็งแกร่งมากนั้น ก็เป็นเพราะเซียวหมิงชิวเช่นกัน เป็นนางที่เป็นผู้เสริมความแข็งแกร่งให้กับม่านพลังนั่นเอง

มิฉะนั้น หากเป็นม่านพลังอันเดิมละก็ พวกมันคงไม่สามารถต้านทานพละกำลังของย่าเหยียนได้เลยแม้แต่น้อย

หลังจากมั่นใจว่าว่าย่าเหยียนจักไม่มีทางทะลุแหวกม่านพลังเข้ามาในจวนตระกูลเซียวได้นั้น เซียวหมิงชิวจึงรีบออกมาในทันที ก่อนจะพุ่งตัวยังศาลาคุนหวู่ เพื่อรายงานสถานการณ์ให้เซียวเฉวียนได้ทราบ

หลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหมด เซียวเฉวียนพลันรู้สึกว่าเขาเดาความคิดของย่าเหยียนมิผิดไปเลยจริง ๆ แต่เนื่องด้วยการกระทำที่เอาแต่ใจของอาจั้นนั้น กลับค่อย ๆ ทำลายความคิดของย่าเหยียนเสียได้

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ อาจั้นเป็นอุปสรรคสำหรับแผนการในครานี้

เมื่อคิดเช่นนั้น เซียวเฉวียนพลันรู้สึกว่าตัวเองต้องหาโอกาสในยามที่อาจ้านอยู่คนเดียวเพื่อกำจัดอาจั้นเสีย!

เดิมทีเซียวเฉวียนต้องการจะจับตัวอาจั้นมา แต่เมื่อเห็นว่าเขามีความจงรักภักดีต่อย่าเหยียนมากเพียงใดนั้น เขาทุ่มเทมากเพียงใดในการทำตามแผนของนางให้สำเร็จ ฉะนั้นแล้วคนเช่นอาจั้นคงมิคิดทรยศต่อย่าเหยียนอย่างง่าย ๆ แน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น อาจั้นยังรู้ดีด้วยว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเซียวเฉวียนนั้น หาได้เทียบเท่ากับย่าเหยียนไม่ บางทีเขาอาจจะรู้สึกว่า หากว่าตนเองทรยศต่อย่าเหยียนแล้วไซร้ ย่อมมีความเป็นไปได้สูงที่ย่าเหยียนจะทำการสังหารเขา

หากว่ากันตามจริงแล้ว ถ้าอาจั้นแปรพรรค์มาอยู่กับเซียวเฉวียนนั้น คงเป็นเพราะเขาใช้ชีวิตจนเบื่อหน่ายแล้วกระมัง!

ในเมื่อมิอาจได้คนเช่นนี้มาครอบครอง ไว้ชีวิตเขาไป อาจจะเป็นตัวขัดขวางเซียวเฉวียนในอนาคตก็เป็นได้ เช่นนั้นก็รีบกำจัดเขาไปตั้วแต่ตอนนี้จักดีกว่า!

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซียวหมิงชิวพลันมีท่าทีกระตือรือร้นขึ้นมาในทันที ก่อนจะกล่าวว่า "ท่านพ่อ เหตุใดท่านมิลองให้หมิงชิวไปสังหารเขาดูเล่า?"

ด้วยความแข็งแกร่งของนาง รวมไปถึงการซ่อนตัวอยู่ในความมืดนั้น อาจกล่าวได้ว่าหมิงชิวสามารถหลบหลีกและปกป้องตัวเองได้เป็นอย่างดี หากว่าเซียวหมิงชิวไปลักพาตัวอาจั้นมาละก็ อาจั้นคงมิทันได้รู้สึกตัวกระมัง

เซียวเฉวียนรู้ดีว่าเซียวหมิงชิวมีความแข็งแกร่ง หากว่าทำเช่นนี้ อาจจักเป็นการทำให้ย่าเหยียนตกใจได้ง่าย ๆ

เซียวเฉวียนพลางเอ่ยออกมาอย่างเด็ดขาดว่า"ไม่ เจ้าสามารถสังหารอาจั้นได้ ทว่า มิใช่สังหารเขาในระยะใกล้"

แม้ว่าเซียวหมิงชิวจักมิได้รับความยินยอมจากเซียวเฉวียน ทว่า ขอเพียงแค่เซียวหมิงชิวได้สังหารอาจั้น นางก็มีความสุขมากแล้วพลางแย้มยิ้มกล่าวออกมาว่า "เจ้าค่ะ ท่านพ่อ!"

พูดจบ เซียวหมิงชิวก็วางแผนที่จะเดินทางไปยังจวนตระกูลเซียวทันทีเพื่อสังหารคนในทันที

ยามที่จักเดินออกไปนั้น เซียวเฉวียนจึงเอ่ยขึ้นมาอีกว่า "เอาอย่างนี้ เจ้าให้เซียวซานแสร้งออกจากจวนไปเสีย เพื่อดึงดูดความสนใจของย่าเหยียนเอาไว้ จากนั้นเจ้าก็ฉวยโอกาสนี้สังหารอาจั้นเสีย"

แผนการนี้นับว่าเป็นแผนการที่ดีและรอบคอบที่สุดแล้ว

ไม่เพียงแต่จะทำให้ย่าเหยียนรู้ว่าเซียวเฉวียนมิได้อยู่ในจวนตระกูลเซียวเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เซียวหมิงชิวสังหารอาจั้นได้โดยมิต้องมีแรงกดดันใด ๆ อีกด้วย

เซียวหมิงชิวยิ้มรับในทันที "เจ้าค่ะ ท่านพ่อ!"

เซียวเฉวียนกล่าวว่า"เอาล่ะ ระวังตัวเองด้วยเล่า!"

หลังจากทำท่าทางโอเคกับเซียวเฉวียนแล้วนั้น เซียวหมิงชิวก็หายตัวไปต่อหน้าเซียวเฉวียนในทันที

เซียวเฉวียนมิได้คิดเลยว่า เซียวหมิงชิวจะแข็งแกร่งมากเพียงนี้ ไม่เพียงแต่นางสามารถเสริมความแข็งแกร่งของม่านพลังได้โดยมิได้มีผู้ใดสังเกตเห็นนั้น แต่นางยังสามารถไล่ย่าเหยียนให้อยู่นอกม่านพลังได้สำเร็จอีกด้วย

นับว่าเกินความคาดหมายของเซียวเฉวียนไปแล้วจริงๆ

อย่างไรก็ตาม เซียวเฉวียนก็ยังไม่สามารถปล่อยให้นางไปต่อสู้กับย่าเหยียนได้อยู่ดี เขามิอาจปล่อยให้นางเสี่ยงอันตรายไปได้

ท้ายที่สุดแล้วยังเป็นย่าเหยียนที่มีประสบการณ์มากกว่านาง ไม่ว่าจักเป็นด้านการต่อสู้หรือแผนการต่าง ๆ

พูดตรงๆ ว่า การที่เซียวหมิงชิวสามารถเคลื่อนไหวภายใต้สายตาของย่าเหยียนโดยที่มิให้นางรู้ตัวได้นั้น นับว่านี่เป็นเรื่องที่ดีมากพอแล้ว

อย่าริต่อสู้กับการต่อสู้ที่มิอาจมั่นใจได้ว่าตนเองจักมีชัย เซียวเฉวียนย่อมมาอาจปล่อยให้เซียวหมิงชิวต่อสู้กับย่าเหยียนได้เพียงลำพัง

หากนางต้องการจะทำเช่นนั้น ย่อมเป็นเซียวเฉวียนที่จะต้องต่อสู้กับย่าเหยียนแทน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย