เซียวเฉวียนปฏิเสธอย่างเด็ดขาดโดยไม่ต้องคิด “ท่านใต้เท้าชิงหลง อย่าคิดริษยาเด็กสาวของข้าเลย”
ถ้าอยากได้ลูกสาวก็ไปมีเอง อย่ามาคิดกับลูกสาวของ เซียวเฉวียน
ถ้าไม่ใช่เพราะเซียวหมิงชิวดื้อรั้นจะตาม เซียวเฉวียนออกมา เซียวเฉวียนอยากจะเก็บ เซียวหมิงชิวไว้ให้ปลอดภัย
ส่วน ภูเขาคุนหลุนนั้น เมื่อ ชิงหลง กลับไปแล้ว เขาอยากออกมา เซียวเฉวียนก็ต้องส่งคนไปช่วยเขาหนี
แม้ว่า เซียวหมิงชิวจะมีพลังในการปกป้องตัวเอง แต่เซียวเฉวียนก็ไม่อยากให้เธอเสี่ยงแม้แต่น้อย
ชิงหลง ไม่ยอมแพ้ เขาอธิบายว่า “ท่านใต้เท้าเซียว อย่าใจแคบเลย ข้าแค่เชิญเธอไปเยี่ยม ภูเขาคุนหลุนแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ข้าจะส่งเธอกลับมาหาท่านอย่างปลอดภัย”
ไม่แม้แต่เส้นผมจะหายไป
เซียวเฉวียนตอบอย่างเฉียบขาด “ไม่ได้”
ไม่ใช่แค่ช่วงเวลาสั้นๆ แม้แต่ชั่วโมงเดียวก็ไม่ได้
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชิงหลง รู้ว่าเรื่องนี้ไม่มีทางต่อรองกับ เซียวเฉวียนได้ แต่เขายังไม่ละความพยายาม เขาหันไปหาเซียวหมิงชิวพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “หมิงชิว อาขอเชิญเธอไปเยี่ยมภูเขาคุนหลุนหน่อย เจ้าอยากไปไหม?”
ด้วยความกลัวว่า เซียวหมิงชิวจะปฏิเสธ ชิงหลงจึงยื่นข้อเสนอ “ภูเขาคุนหลุน อาจจะไม่เจริญเท่าเมืองหลวง แต่ก็มีอะไรสนุกๆ มากมาย เธอสามารถเดินเล่นได้ตามใจชอบ”
ชิงหลง รู้ว่าเพื่อปกปิดตัวตนและหลีกเลี่ยงการเปิดเผยร่องรอย เซียวหมิงชิวมักจะถูกเก็บซ่อนไว้ ไม่ค่อยได้ออกหน้า
แต่เด็กก็คือเด็ก แม้จะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ยังมีความอยากรู้อยากเห็น
ชิงหลงคิดว่าการใช้ข้อเสนอเกี่ยวกับความสนุกสนานและอิสรภาพ จะทำให้ เซียวหมิงชิวตอบตกลง
ข้อเสนอของ ชิงหลงน่าสนใจสำหรับ เซียวหมิงชิวจริงๆ แต่เธออยากอยู่กับ เซียวเฉวียนและองค์หญิงมากกว่า
หลังจากพิจารณาแล้ว เซียวหมิงชิวก็ปฏิเสธคำเชิญของ ชิงหลง เธอพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อาชิงหลงหมิงชิว ไม่ไปภูเขาคุนหลุนกับอาหรอก เซียวหมิงชิว อยากอยู่กับพ่อมากกว่า”
คำตอบนี้ทำให้ ชิงหลง ประหลาดใจอีกครั้ง เขาคิดในใจ "เด็กคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ อายุยังน้อยแต่มีสติปัญญาหลักแหลม"
ไม่หลงกลคำล่อลวง
น่าทึ่งจริงๆ
เซียวเฉวียนมองชิงหลงด้วยความพอใจ รอยยิ้มของเขาแทบจะเขียนว่า “นั่นสิ ดูสิว่าลูกสาวของข้าเป็นใคร”
พอใจสุดๆ
เมื่อวิธีล่อลวงล้มเหลว ชิงหลงก็ไม่มีทางเลือกอื่น เขาจึงต้องยอมแพ้
ชิงหลง พูดอย่างขำๆ ว่า "ไม่เป็นไร ไว้มีโอกาสค่อยไปกับพ่อของเธอทีหลัง"
เซียวหมิงชิวพูดว่า “ได้”
แต่ว่า พูดถึงเรื่องความสามารถของ เซียวหมิงชิวนั้นลำบากใจจริง น่าตกใจมาก ถ้าคนนอกรู้เรื่องนี้ เซียวหมิงชิวคงถูกมองว่าเป็นตัวประหลาด
ชิงหลง มอง เซียวเฉวียนด้วยสีหน้าจริงจังและพูดว่า “ท่านใต้เท้าเซียว เรื่องของหมิงชิว รู้น้อยคนยิ่งดี”
เซียวเฉวียนพยักหน้าและพูดว่า "ข้าก็คิดเช่นกัน"
นี่ถ้าไม่ใช่เพราะสนิทกับข้า คงไม่บอกความลับนี้ให้รู้หรอก
ดังนั้น เรื่องการเก็บความลับ คงไม่ต้องพูดอะไรมาก
ชิงหลงเข้าใจ ตบหน้าอกและพูดว่า “ท่านใต้เท้าเซียว วางใจได้ ข้าจะไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้แม้แต่คำเดียว”
เซียวเฉวียนเชื่อใจในตัวเขา เซียวเฉวียนยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “ดี ข้าขอขอบคุณท่านใต้เท้าชิงหลง ล่วงหน้า”
เรื่องอื่นๆ ค่อยคุยกันไปพลางๆ
หัวข้อนี้ออกทะเลไปไกลแล้วชิงหลง กลับมาที่ประเด็นหลักและพูดว่า “ย่าเหยียน ก่ออาชญากรรมร้ายแรงเช่นนี้ สมควรตาย!”
เพราะควาคุนหลุนที่รอดชีวิต ก็เพราะเธอ ทำให้พวกเขาต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากบน ภูเขาคุนหลุนที่กันดาร รุ่นต่อรุ่น
คนคนนี้ช่างโหดร้าย จริงๆ!
ถ้าไม่ใช่เพราะเจี้ยนจง ยอมสละชีพ แยกตัวออก ปกป้องผู้รอดชีวิตคุนหลุน เผ่า คุนหลุน คงถูกเธอฆ่าตายหมดแล้ว
ตอนนี้บนโลกคงไม่มีคนคุนหลุน
ช่างเป็นเรื่องตลกร้าย ผู้เฒ่าที่พวกเขาสนิทสนมสำนักหมิงเซียนกลับซ่อนศัตรูที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของพวกเขา
มันช่างเป็นเรื่องเหลือเชื่อ บรรดาผู้นำที่เข้าสัมพันธ์ดีกับผู้ในสำนักหมิงเซียน แต่ภายในกลับซ่อนอริผู้ต้องการทำลายพวกเขา
และสิ่งที่คนคุนหลุนเกลียดชังที่สุด คือ ผนึกจูเสินที่แท้กลับเป็นสิ่งที่พวกเขาในเจี้ยนจงได้จัดหามาเพื่อปกป้องพวกเขา
ผนึกจูเสินถูกคนคุนหลุนเข้าใจผิดมานานกว่าพันปี!
ถ้าไม่ใช่เจี้ยนจงที่ตื่นขึ้นและเปิดเผยความจริง ผนึกจูเสินก็คงยังคงถูกเข้าใจผิดต่อไป
ดังนั้น คนโลกมักพูดว่า “การเห็นด้วยตาตัวเองเป็นจริง” แต่ในความจริง สิ่งที่เห็นก็อาจไม่จริงเสมอไป
เช่นเดียวกับผู้มีคุณธรรมและย่าเหยียน ภายนอกดูดี แต่ภายใต้กลับทำหลายสิ่งที่ไม่ควรเห็น
และผนึกจูเสินที่คนคุนหลุนเกลียดชังมาตลอด แท้จริงแล้วกลับเป็นผู้พิทักษ์ของพวกเขา
หมายความว่า นานพันปี หากไม่มีผนึกจูเสินคอยกดดันคนคุนหลุน ทำให้พวกเขาไม่กล้ากระทำอย่างมักง่าย และต้องอยู่อย่างตรงไปตรงมาในภูเขาคุนหลุน เกรงว่าพวกเขาคงต้องเผชิญหน้ากับภัยพินาศเช่นเดียวกับพันปีก่อน
ผนึกจูเสินเป็นพระเจ้าที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกเหมือนมนุษย์ ชิงหลงไม่ต้องพูดถึง ถ้ามันเป็นคน ถูกคนคุนหลุนเข้าใจผิดมานานเช่นนี้ ใจของมันคงเจ็บปวดไม่รู้จักจบสิ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...