ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 206

เซียวเฉวียนผงะเป็นครั้งแรก!

เขากดมือของไป๋ฉีด้วยมือข้างเดียว แทบจะกดไม่อยู่!

เขาสร้างความหวาดกลัวให้กับขุนนางน้อยจนสีหน้าซีดเผือด คนที่กำลังกินเนื้ออย่างเอร็ดอร่อยเมื่อครู่ต่างก็ยกดาบ!

ความจงรักภักดีของไป๋ฉีเป็นที่น่าชื่นชมมาก ถ้าเกิดความวุ่นวายในกองราชองครักษ์ ต่อไปเซียวเฉวียนจะเลื่อนตำแหน่งได้อย่างไร!

“คนกันเอง!คนกันเอง!”

เซียวเฉวียนกดมือของไป๋ฉีด้วยมือข้างเดียว ให้ตายเถอะ ไม่เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหลี่มู่หรืออย่างไร?

หลี่มู่เป็นเทพแห่งสงครามคนแรกในยุคโบราณฮวาเซี่ย แม้ว่าฮวาเซี่ยและต้าเว่ยจะไม่ได้ติดต่อกันเท่าไหร่ ไม่เช่นนั้นโจโฉคงไม่ตายน่าอนาถเช่นนั้น แต่ก็ต้องมีการติดต่อระหว่างเทพของฮวาเซี่ยและต้าเว่ยโดยที่ไม่มีใครรู้อย่างแน่นอน ระมัดระวังตัวหน่อยก็ดี!

ถ้าไป๋ฉีสู้กับหลี่มู่ ไป๋ฉีสู้ไม่ได้แน่นอน!

ยิ่งไปกว่านั้นทำไมต้องสู้กับกองราชองครักษ์ด้วยล่ะ!

คนกันเองทั้งนั้น!

เซียวเฉวียนเชื่อว่าคนเหล่านี้ไม่มีทางพูดตามใจชอบแน่นอน!

เซียวเฉวียนชักแม่น้ำทั้งห้า ทำให้ไป๋ฉีที่กำลังโกรธเดือดดาลสงบลง แขนของไป๋ฉีแข็งแรงและกำยำมาก เกือบจะทำให้เซียวเฉวียนลอยออกไปเลยทีเดียว

“คนของกองราชองครักษ์ต้องเก็บเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ไว้เป็นความลับ!” เซียวเฉวียนเชื่อหลี่มู่ และเชื่อใจขุนนางคนอื่น ทุกคนเป็นลูกน้องของหลี่มู่ แล้วจะไปไหนเสีย!

“ถึงอย่างไรเจ้านายของข้าก็ต้องพึ่งกองราชองครักษ์จนได้เลื่อนขั้นและร่ำรวยขึ้น วันนี้ถ้าเจ้าถล่มกองราชองครักษ์ สุนัขรับใช้ของเว่ยเจียนกั๋วเหล่านั้นจะปล่อยข้าไปเช่นนั้นหรือ?”

เซียวเฉวียนยังไม่ล้ำเส้น ไม่ว่าจวนฉินจะเกิดเรื่องวุ่นวายแค่ไหนก็ไม่เป็นไร เพราะต่อให้ร้ายแรงแค่ไหนก็เป็นเพียงเรื่องในบ้าน

สร้างความปั่นป่วนให้หอปี๋เซิ่งก็ไม่เป็นไร นั้นคือกิจการ!และเป็นอาณาเขตของเซียวเฉวียน เขาจะสั่งสอนเถ๋าเหวินลิ่วบ้างก็เป็นเรื่องที่สมควร

กองราชองครักษ์คือการทหาร!

ตราบใดอยู่ในการทหาร เซียวเฉวียนจะฆ่าโดยไม่รู้สึกละอายใจไม่ได้ คิดจะสั่งสอนใคร จะปิดปากใคร ก็ต้องแอบทำ!

เซียวเฉวียนกดมือของไป๋ฉีลง จากนั้นก็หันไปส่งยิ้มให้หลี่มู่ “เข้าใจผิดแล้ว ๆ”

“แต่เรื่องในวันนี้ได้โปรดใต้เท้าเก็บไว้เป็นความลับด้วย ไม่เช่นนั้นปัญญาชนอ่อนแออย่างข้าที่แม้จะขัดขวางไป๋ฉีได้ในรอบแรก แต่อาจจะขัดขวางเข้าไม่ได้ในรอบที่สองก็ได้ ท่านว่าไหม?”

ฟังดูแล้วเป็นการข่มขู่ผู้อื่น

เซียวเฉวียนกลับไม่ได้ข่มขู่หลี่มู่ หลี่มู่คือคนของเหวินเจี้ยวหยู้ เซียวเฉวียนคือผู้ใต้บังคับบัญชาของหลี่มู่ ถ้าเซียวเฉวียนมีอันเป็นไป หลี่มู่จะมีประโยชน์อะไร?

ประโยคนี้เป็นสิ่งที่ขุนนางน้อยท่านอื่นพูดออกมา

ขุนนางน้อยสี่ห้าคนเมื่อครู่ต่างกินเนื้อหมือของเซียวเฉวียน พากันพยักหน้า “ใต้เท้าเซียววางใจเถอะ !

ความรู้สึกคือเรื่องส่วนตัว เราไม่มีทางพูดมั่วซั่วแน่นอน”

“เพียงแต่ทำไมใต้เท้าเซียวต้องจับตัวองค์หญิงด้วย คุยกับเราก่อนดีไหม?”

คนของกองราชองครักษ์เป็นคนโสดทั้งนั้น หลี่มู่อายุสี่สิบกว่าปีแล้ว และอยู่เพียงลำพัง

ชนชั้นสูงผู้มีอำนาจต่างรังเกียจกองราชองครัก์กันทั้งนั้น จะเลือกลูกเขย ลูกสาวตนไม่มีทางคว้าคนของกองราชองครักษ์มาเป็นเขยเด็ดขาด

เซียวเฉวียนกลับพิเศษโดดเด่น!

มีภรรยางดงามอย่างคุณหนูใหญ่ฉิน แม้แต่องค์หญิงยังโปรดปราน

ไม่ชี้แนะได้อย่างไรเล่า?

พวกเขาค่างก็อยากแต่งงานกันทั้งนั้น

“มา ๆ ข้าจะบอกพวกเจ้า”

เซียวเฉวียนยิ้มอย่างลำพองใจ ขุนนางน้อยเหล่านั้นต่างตื่นเต้นจนหยุดกินเนื้อและพากันเดินเข้ามา

หลี่มู่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองไป๋ฉีด้วยสายตาเรียบเฉย

ไป๋ฉี...

ต่างกับผู้อารักขาคนอื่น

เมื่อครู่เซียวเฉวียนไม่ออกคำสั่ง ไป๋ฉีจึงลงมือก่อน

ในกฎของต้าเว่ย ไม่มีคำสั่งจะผู้เป็นนาย ผู้อารักขาจะไม่โจมตี

ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายและผู้อารักขามีจิตวิญญาณที่เชื่อมต่อกันแน่นหนา

เจ้านายคือฟ้า ผู้อารักขาคือดิน

กลอนระดับสูงคือหนึ่งในตัวอย่าง เจ้านายต้องอ่านกลอนระดับสูง ถึงจะทำให้ผู้อารักขาได้นับพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง

ผู้อารักขาต้องพึ่งพาเจ้านาย ดังนั้นผู้อานักขาจึงติดตามเจ้านายโดยไม่มีเงื่อนไข

แม้ว่าคนอื่นจะฆ่าผู้อารักขาตาย หากเจ้านายไม่ออกคสั่ง ผู้อารักขาก็ทำได้แค่รอความตายอยู่ตรงหน้า

แม้ว่าผู้อารักขาจะหลุดพ้นจากการเป็นทาส แต่ชีวิตก็ยังอยู่ในกำมือของผู้เป็นนาย ไม่อย่างนั้นโจโฉคงไม่ตายด้วยเงื้อมมือของซือชืออย่างง่ายดายเช่นนั้น

แต่เห็นได้ชัดว่าเซียวเฉวียนไม่ได้มองไป๋ฉีเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา

ดังนั้นเซียวเฉวียนจะทำอะไร?

เจ้านายว่าที่เซียวเฉวียนถวายฎีกาให้ฝ่าบาททำลายระบบทาสคุนหลุนอย่างเงียบ ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย