บทที่ 207 โฉมใหม่ – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 207 โฉมใหม่ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บ่อนพนันและโรงเหล้าเปิดบริการอย่างราบรื่น เงินทองลอยเข้ากระเป่าเซียวเฉวียนราวกับเกล็ดหิมะ
เซียวเฉวียนอยู่อย่างอิสระ หลังจากดื่มยาพิษของโย่วควนไป เขามักจะเจ็บหน้าอกเสมอ
แต่เป็นแค่ความเจ็บปวดเล็กน้อย ไม่ใช่อุปสรรค ถึงอย่างไรเป็นยาพิษ ไม่ใช่ช็อกโกแลค เมื่อพิษในร่างกายระบายออกมา เขาก็ดีขึ้นแล้ว
ผู้มีอำนาจในต้าเว่ยต่างลืมสิ้นซึ่งการตายของฉินปาฟาง ซือชือและคนอื่น จิตใจพะว้าพะวงแต่เรื่องการจัดหาพระราชบุตรเขยขององค์หญิง
ข้อมูลที่ทุกคนได้รับนั้นต่างกัน สำหรับการสอบบัณฑิตจิ้นชื่อติดหนึ่งในสามอันดับแรกของคุณสมบัติการได้เป็นพระราชบุตรเขยขององค์หญิง
หยางเจาบัณฑิตทั่นฮวาเสียชีวิตแล้ว เซียวเฉวียนบัณฑิตจอหงวนก็แต่งงานแล้ว เหลือเพียงเหลียงไหวโหรวที่ยังเป็นตัวเลือกได้ ส่วนบัณฑิตคนอื่นแม้จะอยากเป็นแต่ก็ไม่กล้าคิดเรื่องนี้
สำหรับผู้มีอำนาจบารมีคนอื่น พวกเขาเคยได้ยิน แต่ลูกหลานผู้สูงศักดิ์ที่ยังไม่แต่งงานล้วนได้รับคัดเลือกเป็นพระราชบุตรเขยได้ทั้งนั้น
ดังนั้นการเข้าร่วมประลองยุทธแต่งเขนเข้าบ้าน เหล่าผู้มีอำนาจและบารมีพากันหัวปั่น ค่างก็เพื่อจะได้ครองหัวใจขององค์หญิง และกลายเป็นราชนิกุลในราชวงศ์ของซินเจียง
มีเพียงเซียวเฉวียนที่จมอยู่กับความมั่งคั่ง
เงิน!
เงิน!
เงิน!
เศรษฐีเพียงข้ามคืน!
เศรษฐีในทุกคืน!
เซียวเฉวียนเปลี่ยนเครื่องแต่งกายตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า เสื้อผ้าไหนที่มีราคาแพงเขาก็ใส่ตัวนั้น!
เครื่องประดับใหม่ ๆ ที่เพิ่งมาถึงหออู๋เตี่ยน เขาจะตรงเข้ามาซื้อเป็นคนแรก โดยไม่เสียดายเงิน!
เสื้อผ้าที่แพงที่สุดในเกียวโต! อาหารที่มีราคาสูงที่สุด!ม้าที่เพงที่สุด!รองเท้าหนังหุ้มข้อเท้าที่แพงที่สุด!
เซียวเฉวียนซื้อ !ซื้อ!ซื้อ!
ไม่เพียงแต่ซื้อให้ตัวเอง ยังซื้อให้ครอบครัว! ซื้อให้ไป๋ฉีและเหมิงเอ้าอีกด้วย!
แถมยังซื้อให้เหล่าสาวใช้ในบ้าน!
เพราะความใจกว้างและกล้าได้กล้าเสียของเซียวเฉวียน มีหลายคนปรารถนาจะเข้าไปเป็นเด็กรับใช้ในจวนเซียว เป็นทาสในจวนเซียว แม้ว่าจะต้องทำงานหนัก แต่เสื้อผ้าที่สวมใส่คล้ายกับของคุณหนูคุณชายไม่มีผิด ได้ยินว่าแม่เซียวยังใจดีอีกด้วย ไม่ค่าดุด่าว่ากล่าวคนเบื้องล่าง ทาสในจวนอื่นต่างพากันอิจฉาไม่น้อย
แม้แต่ทาสในจวนฉินต่างก็อิจฉาตาร้อนกันทั้งนั้น เพียงแต่พวกเขาไม่รู้ว่าจวนเซียวอยู่ที่ไหน หรือแม่แต่ที่ตั้งของตระกูลเซียว เรื่องที่น่าทึ่งคือไม่มีใครบอกที่อยู่กับคนตระกูลฉิน
เหล่าผู้มีอำนาจกลับพากันดูถูก เซียวเฉวียนกลัวความยากจน พอมีเงินจึงรีบขจัดกลิ่นอายความจนออกจากเนื้อตัวทันที!
คางคกชุบทอง แต่มันก็คือคางคก คงเปลี่ยนมาเป็นคุนเผิง*ไม่ได้
ลูกหลานตระกูลสูงศักดิ์ต่างวุ่นกับการฝึกวิทยายุทธิ์ เพื่อจะได้เป็นตัวเลือกอันดับแรกขององค์หญิง ส่วนเซียวเฉวียนก็เอาแต่ผลาญเงินราวกับผลาญดิน ฟุ่มเฟือยทุกวัน พวกเขาได้แต่ฟังเรื่องตลกแล้วก็ผ่านไป
คนจนพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้มีชีวิตที่ดี พวกเขาเกิดมาพร้อมทุกอย่าง ไม่เคยขาดแคลน
เรื่องเดียวที่ทำให้ลูกหลานตระกูลสูงศักดิ์หวาดกลัวคือ เซียวเฉวียนขุนนางน้อยขั้นเจ็ดที่ไร้อนาคตผู้นี้มีสนมแล้ว!
แถมยังมีถึงสี่คน!
ความเป็นเขยมาส่งถึงหน้าบ้าน เขารับเด็กสาวที่งามหยดย้อยเข้ามาเป็นสนมถึงสี่คน เพื่อง่ายต่อการจดจำ เขาจึงตั้งชื่อว่า ชุนเซียง เซี่ยเซียง ชิวเซียงและตงเซียง
ทั้งสี่คนจะช่วยแม่เซียวดูกแลจัดการโรงเหล้า และทำอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ภรรยาและสนมของเขาต่างไม่เคยปรากฏตัว
เซียวเฉวียนมักจะทิ้งให้เหล่าสนมของตัวเองทำงานหาเงิน!
ตระกูงเซียวจะไม่เลี้ยงดูคนขี้เกียจ
ให้ตายเถอะ!
เซียวเฉวียนโลภแค่ไหน?
ได้ยินมาว่าทั้งสี่คนไม่เคยเจอแม้แต่สามีของตัวเอง เพราะเซียวเฉวียนอยู่ในจวนฉินตลอด พูดได้ว่าเซียวเฉวียนซื้อเด็กสาวทั้งสี่คนในราคาถูกมาทำงานให้กับครอบครัวของตน
ขี้งก!
ขี้งกมาก!
ชื่อเสียงของทั้งสี่สาวมากขึ้นพอ ๆ กับกิจการของหอปี๋เซิ่ง
แม้ว่าฉินหนานจะปกปิดแทนเซียวเฉวียน แต่ฉินซูโหรวก็ยังรู้อยู่ดี
ปากของพวกคุณหญิงคุณนายไม่เคยปิดสนิท ฉินซูโหรวได้ยินว่าเซียวเฉวียนรับสนมเข้ามา จึงลากตัวฉินหนานไปคิดบัญชีกับฉินเฟิงทันที
ผลปรากฏว่าเซียวเฉวียนไม่อยู่ในลานเล็กของตระกูลฉิน
พอสอบถามทาสในลานเล็ก ก็รู้ว่าเซียวเฉวียนไม่กลับมาหลายวันแล้ว
คราที่แล้วเป็นเพราะเซียวเฉวียนไม่พอใจอาหาร หลังจากเผาครัวจนวอดวายก็ไม่กลับมาอีกเลย!
ไม่กลับมา?
“ท่านพี่? เขาต้องไปกกตัวอยู่ในหมู่บ้านเวินโหรวแน่นอน!”ฉินซูโหรวกระทืบเท้าอย่างขุ่นเคือง ใบหน้าของนางอาบน้ำตาดั่งดอกสาลี่ต้องหยาดฝน ในท้องของนางคือลูกของเซียวเฉวียนอยู่นะ!แต่เขาเอาแต่เตร็ดเตร่อยู่ข้างนอก!
เป็นอย่างที่คาดไว้ ผู้ชายมักจะเปลี่ยนเพราะเงิน!
ชายที่แต่งงานแล้วมีสิทธิ์อะไรมีสนม
ได้คุณหนูผู้ร่ำรวยอย่างนางมาเป็นภรรยานับว่าโชคดีมากแล้ว
เขาต้องบำเพ็ญเพียรหลายชาติถึงจะได้รับความโชคดีเช่นนี้!
เขาไม่พอใจนางตรงไหน ถึงได้รับสนมเข้ามาเร็วเช่นนี้!
แถมยังรับเข้ามาถึงสี่คน!
ช่วยไม่ได้เหล่าหลี่เป็นคนหัวโบราณที่ขี้อายมาก เย้าแหย่สาว ๆ ไม่เคยสำเร็จ พูดได้ว่าเป็นปัญญาชนที่ทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้
ไม่ว่าจะชวนคุย เริ่มชวนมากินข้าว คุยความในใจยามค่ำคืน กระทั่งจะจับมือ เหล่าหลี่ก็มักจะตื่นตระหนกเสมอ นี่ไม่ใช่สิ่งที่บุรุษพึงกระทำ!
การแต่งงานขึ้นอยู่กับพ่อแม่ คำชักชวนของแม่สื่อ ถึงจะจริงจัง !ชอบธรรม!
เซียวเฉวียนพูดอะไรไม่ได้ ได้แต่สงบเสงี่ยม ดังนั้นเขาจึงเลือกจะทำธุรกิจกับเหล่าหลี่ และทำงานอย่างขยันขันแข็งพากันเลื่อนขั้นไปด้วยกัน !
เซียวเฉวียนเหมือนคลั่งในทุกวัน ทำงานทุกอย่างในกองราชองครักษ์
ที่พูดเช่นนี้เพราะชีวิต...ไม่ได้ยาวนานนัก
หลี่มู่และเหล่าหลี่เห็นเซียวเฉวียนยุ่งตัวเป็นเกลียวทุกวัน วิ่งไปวิ่งมา
งานเพียงเล้กน้อย เซียวเฉวียนก็ทำอย่างขยันขันแข็ง จนคนอื่นไม่มีงานทำ
มันก็แค่งานเอกสารรายวัน เก็บกวาดเอกสารที่รกบนโต๊ะ คนอื่นทำจนเบื่อแล้ว และมักจะบ่นอยู่เสมอ มีแค่เซียวเฉวียนคนเดียวที่ยังทำอย่างขะมักเขม้น
ยิ่งใกล้ปีใหม่ เซียวเฉวียนได้แปะกลอนคู่ที่มีราคาสูงลิ่วซึ่งเขียนโดยนักเขียนที่มีชื่อเสียงไว้บนกองราชองครักษ์และแขวนโคมไฟที่มีราคาแพงอีกไม่น้อย
ประเด็นคือ แพง
เซียวเฉวียนทุ่มเงินซื้อสิ่งล้ำค่าทั้งสี่ในห้องหนังสือที่เก่ามากแล้วมาเปลี่ยน ก่อนหน้านั้นพู่กันของเหลี่หลี่มันฉีกหมดแล้ว เซียวเฉวียนทนดูไม่ได้ จึงซื้อภาพวาดและอุปกรณ์จำพวกพู่กันมาเปลี่ยนให้พวกเขา
ไม่เพียงเท่านี้ ในช่วงฤดูฝนกองราชองครักษ์มีฝนรั่วลงมา กระเบื้องหลังคามีแตกหักไปบ้าง เซียวเฉวียนก็ทำการซ่อมบำรุงให้กับกองราชองครักษ์ทันที
แวบเดียวกองราชองครักษ์ดูใหม่ขึ้นทันตา หรูหรามากอีกด้วย
เซียวเฉวียนใช้เงินราวกับน้ำหลากไม่ก็น้ำท่วม ในที่สุดกองราชองครักษ์ก็ถูกเปลี่ยนให้เหมือนกับจวนขุนนาง ไม่ใช่สลัมโกโรโกโสอีกแล้ว
พอเลิกงานไป๋ฉีจะรอยู่นอกกองราชองครักษ์
วันนี้กลับไม่เห็น
อาสือรีบเข้ามารายงาน “พี่ใหญ่!เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! โรงเหล้าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว! พี่รีบไปเร็วเข้า! เหล่าองครักษ์ถูกขุนนางคุมตัว! รู้ว่าพี่มาที่นี่!”
“เกิดอะไรขึ้น?” เซียวเฉวียนไม่เข้าใจ เพิ่งเปิดโรงเหล้าไม่ได้เท่าไหร่ หายนะมาถึงเร็วเช่นนี้เลยเหรอ?
“หมี่ หมี่!” อาสือนับนิ้ว “มีสิบคน กินหมี่ของเราแล้วอาเจียน!”
ในยุคปัจจุบัน เรื่องอาหารล้วนเกี่ยวกับความปลอดภัย ถ้าไม่ถูกต้อง ก็แค่แก้ไข
แต่สมัยโบราณกลับมีโทษประหารชีวิต !ราชวงศ์ซ่งและราชวงศ์ถังของฮวาเซี่ย ถ้าคนที่กินอาหารป่วยหรือเสียชีวิต เถ้าแก่จะถูกจับเข้าคุกไม่ก็ถูกแขวนคอตาย!
เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว คนในจวนว่าการชั้นในพากันข่มขู่
ขุนนางโจวแกล้งทำว่าทักทาย “ใต้เท้าเซียว ได้โปรดกลับกับข้า ปีนี้เกรงว่าเจ้าต้องนอนในคุกแล้ว”
*คุนเผิง คือปลาที่กลายเป็นนกในปรัชญาของจวงจื่อ หมายถึงสามัญชนย่อมไม่เข้าใจความคิดของผู้ยิ่งใหญ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...