อ่านสรุป บทที่ 208 ดวงตาบอกสวรรค์และโลก จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บทที่ บทที่ 208 ดวงตาบอกสวรรค์และโลก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ไร้การฝึกตน
แม้เซียวเฉวียนใช้ปลายเท้าคิดเขาก็ยังรู้ได้ว่าเป็นเว่ยชิงที่เข้ามายุ่งกับเขา
ทันทีที่เซียวเฉวียนถูกโยนเข้าคุก เจ้าหน้าที่สืบสวนก็มารุมประชาทัณฑ์เขา เขาทุบตีเซียวเฉวียนอย่างไม่เลือกหน้า
ในขณะที่ทุบตีเซียวเฉวียน เขาก็คำรามด้วยความโกรธ “เจ้าจะพูดหรือไม่! จะพูดไม่พูด!”
“พูดอะไร? เหตุใดเจ้าถึงถามแบบนี้!”
เซียวเฉวียนคำราม อยากจะบ้า! ใส่ร้ายเขา ยังกล้ารุมประชาทัณฑ์อีกหรือ?
“บอกมาว่าเจ้าใส่อะไรลงในชามบะหมี่!”
“ข้าไม่ได้ทำ! เจ้าอย่ากล่าวหาลอยๆ!”
เจ้าหน้าที่สืบสวนหายใจหอบ การจัดการกับเซียวเฉวียนช่างเป็นความพยายามอันแสนสาหัส!!
เซียวเฉวียนกล้าที่จะซ่อน!
กล้าตอบโต้!
กล้าดีอย่างไรมาถ่มน้ำลายใส่เขา!
ก่อนหน้านี้มีคนเคยบอกว่าเขยคนนี้เป็นคนขี้ขลาด แต่ยามนี้ดูเหมือนว่าเขาจะรับมือไม่ง่ายเลย!
“เจ้ารอข้ารอข้าก่อน! อีกเดี๋ยว เจ้าจะทำไม่ได้แม้แต่ขยับกาย!” เจ้าหน้าที่ตะโกนด้วยความโกรธ หันหลังกลับ แล้วลงกลอนประตูห้องขัง ราวกับเขาต้องการไปเอาเครื่องมือบางอย่าง
“เจ้ากล้าแตะต้องข้าหรือ! บ้าเอ๊ย! เมื่อข้าออกไป ข้าจะถลกหนังเจ้า!”
“ยังคิดออกไปอีกหรือ ฝันไปเถอะ!” เจ้าหน้าที่สืบสวนถ่มน้ำลายออกมาเต็มคำ ชีวิตของเซียวเฉวียนนั้นไร้กังวลเกินไป เขาไม่สังเกตเลยว่ายังมีคนที่เขาไม่เห็น!
ห้องขังเก่ามีกลิ่นเหม็น มีหนูและแมลงสาบอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทั้งยังไม่มีที่ให้วางเท้า
“หลอกลวงเกินไปแล้ว!”
เซียวเฉวียนถอนหายใจ ดวงตาของเขากลอกไปรอบๆ บะหมี่ของหอปี๋เซิ่งมีปัญหาได้อย่างไร!
คนธรรมดาหลายสิบคนเหล่านั้นได้รับการแนะนำจากเว่ยชิง!
ไม่คิดเลยว่าเว่ยชิงที่เคยดูไร้เดียงสาจะใช้กลอุบายสกปรกเช่นนี้!
“รอจนกว่าข้าจะออกไป! ดูสิว่าข้าจะจัดการกับเจ้าอย่างไร!”
เซียวเฉวียนคิดถึงมิตรภาพในอดีต แผนการทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับเว่ยชิง ไม่คาดคิดว่าเจ้าสารเลวตัวน้อยคนนี้จะไม่แตกต่างจากผู้มีอำนาจคนอื่นๆ!
“คนไร้รากเหง้าการฝึกตนอยากออกไปข้างนอกหรือ? ใจสูงกว่าสวรรค์[1]เสียจริง”
ในเวลานี้กลับมีเสียงคนชราลึกลับดังมาจากห้องขัง
เซียวเฉวียนหันไปมอง เพียงเพื่อพบว่ามีชายคนหนึ่งที่ดูถูกเขานั่งอยู่ในห้องขังถัดไป คนผู้นั้นมีผมหงอก หากอีกฝ่ายไม่พูด เขาก็คงเป็นเหมือนเมฆในอากาศ คนอื่นๆ คงไม่อาจพบการมีอยู่ได้
“รากเหง้าการฝึกตนอะไร”
ทันทีที่คำถามของเซียวเฉวียนออกมา ชายชราก็หัวเราะออกมาดังๆ อย่างเหน็บแนม “เจ้าไม่รู้จักรากเหง้าการฝึกตนด้วยซ้ำ ดูเหมือนเจ้าจะไม่เข้าใจการประชาทัณฑ์! ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าโง่เขลาขนาดนี้!”
อ้างอิงจากละครโทรทัศน์และฉากในภาพยนตร์คนประเภทนี้มักเป็นเซียน ต้องเป็นเพราะเหตุผลที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เท่านั้นที่ทำให้พวกเขามาถึงจุดนี้
คำพูดและการกระทำของคนผู้นี้ไม่ถูกยับยั้งและเย่อหยิ่งแม้จะอยู่ในคุก แต่เขายังเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
เซียวเฉวียนคำรามอย่างเย็นชา “เจ้ารู้แล้วอย่างไร? ไม่ใช่ว่าเจ้าก็ยังติดอยู่ในนี้หรือ? ไม่ต้องกังวล ข้าออกไปได้แน่!”
“ทุกคนที่เข้ามาล้วนพูดเช่นนี้” น้ำเสียงของชายชราเยือกเย็นอย่างยิ่ง ราวกับมองเห็นทุกสิ่งอย่าง “เจ้าต้องเป็นคนไร้พลังหรืออำนาจเช่นกัน ไม่เช่นนั้นคงไม่ได้มาอยู่ที่นี่”
เขาอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว เขาเคยพบเด็กหลายคนจากครอบครัวยากจนที่เก่งเกินไปจนทำให้ผู้มีอำนาจขุ่นเคืองที่ถูกนำมาขังไว้ที่นี่
ทุกคนคิดว่าพวกเขามีโอกาสออกไป
และทุกคนล้วนเสียชีวิตในห้องขังนี้
นี่คือการประชาทัณฑ์ของต้าเว่ย
หากผู้มีอำนาจต้องการให้ตาย เจ้าย่อมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตาย
“ว่าแต่รากเหง้าการฝึกตนคืออะไร?”
เซียวเฉวียนไม่เหน็ดเหนื่อย เขายังกระหายความรู้
ทั้งหมดต้องโทษสมองของเซียวติ้งที่ให้ข้อมูลเขาเพียงบางส่วนเท่านั้น ในต้าเว่ยจึงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขายังไม่เข้าใจ!
รากเหง้าการฝึกตนนั้นไม่อาจสัมผัส แต่รู้สึกได้
รากเหง้าการฝึกตนตั้งอยู่ที่ส่วนหลังของกระดูกสันหลัง มีลายมังกรทองและลายมังกรคือการสำแดงของรากเหง้าการฝึกตน
ยิ่งความสามารถในการเรียนรู้แข็งแกร่ง ลายมังกรก็จะยิ่งยาวและมีสีสันมากขึ้นเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ที่มีผู้สงสัยเรื่องการลอกเลียนแบบของเซียวเฉวียน นั่นก็เพราะพบว่าเขาไม่มีลวดลายมังกร นั่นเป็นเหตุผลที่ไม่เชื่อว่าเซียวเฉวียนมีความสามารถ
ต่อมาเซียวเฉวียนได้รับเงินรางวัลสามหยวนติดต่อกัน พวกเขาจึงต้องเชื่อแม้วพวกเขาจะไม่อยากเชื่อก็ตาม
พวกเขาคิดได้แค่ว่าเซียวเฉวียนเป็นข้อยกเว้น!
มีเพียงคนที่มีรากเหง้าการฝึกตนเท่านั้นที่ทำได้ เขาถึงจะเรียนรู้ได้ดีและรวบรวมทั้งพรสวรรค์และความสามารถได้ และสามารถอยู่ยงคงกระพันในสนามรบ!
หลังเข้าสู่ระดับเทพ พรสวรรค์ของปัญญาชนและผู้พิทักษ์กลายเป็นหนึ่งเดียว ผู้รู้หนังสือมีพลังแห่งถ้อยคำ!
แค่ปากเดียวก็สังหารคนได้!
ยามผู้ที่มีรากเหง้าการฝึกตนตกอยู่ในอันตราย ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเรียกผู้พิทักษ์มาช่วยเหลือได้
เซียวเฉวียนถูกทุบตีมาเป็นเวลานาน แต่กลับไม่มีการป้องกันใดๆ ชายชราย่อมคิดว่าเขาไม่มีรากเหง้าการฝึกตน
เซียวเฉวียนหายใจเข้าลึกๆ คิดว่ารากเหง้าการฝึกตนเป็นสิ่งที่หายาก “เหตุใดข้าจะไม่มีเล่า? ข้าถึงระดับเทพแล้ว! ข้ายังเชื่อมโยงกับผู้พิทักษ์ได้ถึงสองคน!”
“เป็นไปไม่ได้! ผู้ที่ไม่มีรากเหง้าการฝึกตนรับผู้พิทักษ์มาก็ไร้ค่า!”
“ผู้ไม่มีรากเหง้าการฝึกตนถูกบังคับให้รวมตัวกับผู้พิทักษ์ ย่อมต้องเกิดการต่อต้าน! ในสักวันอวัยวะภายในของเขาจะพัง!”
ไม่มีใครมาเลย
เซียวเฉวียนเกาหัว แย่แล้ว โดยปกติแล้วเมื่อเขาตะโกน ไป๋ฉี่จะปรากฏตัว
เป็นไปได้ไหมว่าสัญญาณในห้องนี้ไม่ดี?
“ไม่ใช่ทุกคนที่มีรากเหง้าการฝึกตน!”
ชายชรายิ้มอย่างมีชัยเขาก็บอกแล้วว่าตนไม่เคยมองพลาด “ไม่เพียงแต่เจ้าไม่มีรากเหง้าการฝึกตนเท่านั้น เจ้ายังมีคุณสมบัติที่แย่มากอีกด้วย! มือขวาเจ้ามีหนังด้าน เจ้ามักจะฝึกคัดลายมืออย่างขยันขันแข็ง แต่เจ้าเรียนไม่ค่อยเก่ง!”
ภายใต้ความมืดมิด ชายชราคนนี้เห็นหนังด้านหนาในมือเขาได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตาม ถ้าเขากำลังพูดถึงเซียวติ้ง นั่นย่อมไม่ผิด
“อีกอย่าง รูปร่างหน้าตาของเจ้าก็ดาษดื่น เจ้าดูไม่เหมือนคุณชายร่ำรวยที่ร่ำเรียนเป็นเลิศเลย”
ในห้องขังยังมีการเปรียบเทียบรูปลักษณ์อีกหรือ?
เห็นได้ชัดว่าเซียวเฉวียนเป็นดั่งต้นหยกเล่นลม[2] หล่ออย่างมีเอกลักษณ์ เมื่อครู่เขาคิดว่าชายชรามีสายตาดี แต่ยามนี้เซียวเฉวียนแน่ใจแล้ว เขาเป็นคนตาแก่ที่สายตาพร่ามัว!
“ข้าสอบได้เป็นถึงจอหงวน ไม่ใช่ผู้ที่มีความรู้ทั่วไปเช่นเจ้า!”
เซียวเฉวียนไม่อยากโต้เถียงกับชายชรา ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเปิดเผยตัวตนของเขาในฐานะจอหงวนเพียงเพื่อความสงบสุข
คาดถึงไม่ว่าชายชราจะเพิกเฉยและไม่เชื่อเลย “รอการลงประชาทัณฑ์ก่อน! มาดูกันว่าเจ้ามีความชอบธรรมในตนเองขนาดไหน!”
ไม่มีใครทนต่อการรุมประชาทัณฑ์ได้ ไม่ว่ากระดูกจะหยิ่งผยองแค่ไหนก็ต้องยอมจำนน!
เพื่อสู้กับการรุมประชาทัณฑ์ อดีตฮ่องเต้ถึงกับสร้างระบบคุ้มครองผู้มีพรสวรรค์! น่าเสียดายที่การรุมประชาทัณฑ์นั้นรุนแรงเกินไป!
“เจ้าบอด! เหตุใดจึงมีคำพูดมากมายเช่นนี้! หุบปาก!”
ในยามเจ้าหน้าที่สืบสวนดุด่า ม่านตาของเซียวเฉวียนก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ!
ชายชราคนนี้ตาบอดหรือ?
ไม่ ชายชราแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของเขาและรู้ด้วยซ้ำว่าเขามีหนังด้านที่มือขวา เขาจะตาบอดได้อย่างไร?
เซียวเฉวียนมองใกล้ๆ ตรวจสอบคนผู้นี้อีกครั้งด้วยความช่วยเหลือจากแสงสลัว!
บนใบหน้าแก่ชราตามการผันผวนของชีวิต ที่ซึ่งดวงตาควรอยู่นั้น มีเพียงหลุมยุบสองหลุมเท่านั้น!
ลูกตาถูกควักออกไปนานแล้ว!
……….
เชิงอรรถ
[1] ใจสูงกว่าสวรรค์ ย่อมาจาก ใจสูงกว่าสวรรค์ โชคชะตาบางกว่ากระดาษ (心比天高,命比纸薄) มีความทะเยอทะยานมากแต่ไม่มีความสามารถมากนัก
[2] ต้นหยกเล่นลม อุปมาถึงชายหนุ่มที่รูปงาม หล่อเหลา อ่อนโยนและงามสง่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...