เห็นได้ชัดว่าเซียวหมิงชิวยังชอบมู่เวยอยู่มาก
เซียวเฉวียนไม่อยากให้เซียวหมิงชิวตามพวกเขาไปที่ทะเลทราย เซียวเฉวียนจึงได้พูดว่า “หมิงชิวอยู่กับพี่มู่เวยก่อน เสร็จธุระแล้วพ่อจะกลับมารับ เป็นไง?”
เราต้องคุยเรื่องนี้กันไหม?
เขาก็หวังว่าหมิงชิวจะตอบรับ เขายังได้พูดอีกด้วยว่า “พ่ออยู่กับลุงชิงหลง ยังมีกิเลนอีก ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่”
ด้วยพละกำลังของเซียวเฉวียนในตอนนี้ ค้นหากองทัพนักปราชญ์และจัดการกับเขา ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรอยู่แล้ว แต่เซียวเฉวียนจะใช้ข้ออ้างพวกนี้ เพื่อไม่ให้เซียวหมิงชิวตามไปไม่ได้
ยังไงซะ หลักการของเซียวหมิงชิวก็คือ เซียวเฉวียนไปไหน เธอก็จะตามไปด้วยทุกที่
คิดจะทิ้งเธอไว้กลางทางงั้นหรือ ไม่มีทางซะหรอก
เซียวหมิงชิวยิ้ม "ไม่ หมิงชิวจะอยู่กับพ่อ"
จากคำพูดของคนโบราณที่ว่าไว้ การเรียนรู้จากตำราก็ต้องควบคู่กับประสบการณ์จริง
โอกาสที่ดีขนาดนี้ จะพลาดได้ยังไงกัน?
ก็ได้ ในเมื่อเซียวหมิงชิวไม่ยอม เซียวเฉวียนก็ทำอะไรไม่ได้ เขาพูดเบา ๆ ว่า “ไปกันเถอะ”
พูดจบ ทั้งสามก็เดินออกไปจากห้อง
มู่เวยเดินอยู่ข้างหลังพวกเขาและส่งพวกเขาออกเดินทาง
ทางออกอยู่ข้าง ๆ ต้นฮาโลไซลอนดำมู่เวยเลือกได้ดีมาก ทางออกทั้งหมด หากไม่ได้เข้ามาใกล้ ๆ ก็จะไม่รู้เลยว่ามีช่องอยู่ที่นี่
บวกกับการที่ทะเลทรายมีผู้คนอาศัยอยู่น้อยมาก มีมู่เวยคอยปกป้องคุ้มครองอยู่ที่นี่ สามารถพูดได้เลยว่าปลอดภัยมาก ๆ
เพราะแบบนี้ เซียวเฉวียนถึงได้โล่งใจ
ในเวลานี้ ดวงอาทิตย์เอียงไปทางทิศตะวันตกแล้ว มู่เวยพูดอีกครั้งว่า "พี่เซียว องค์ชายชิงหลง พวกคุณพักที่นี่อีกคืนหนึ่งดีกว่า?"
เซียวเฉวียนพูดอย่างอ่อนโยนว่า "ขอบคุณสําหรับความกรุณา"
หมายความว่าเรายังคงยืนยันที่จะไป
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ มู่เวยก็ไม่รั้งพวกเขาอีก เธอพูดว่า "งั้นพวกท่านระมัดระวังด้วย เดินทางปลอดภัย"
เซียวเฉวียนกล่าว "เจ้าเองก็เช่นกัน"
หลังจากที่ได้บอกลามู่เวยแล้ว เซียวเฉวียนก็ออกเดินทางต่อ
ณ ภูเขาคุนหลุน
หลังจากที่เหล่าผู้อาวุโสได้รู้ว่าองค์ชายชิงหลงได้หนีไปแล้ว พวกเขาก็กระวนกระวาย
ผู้อาวุโสนั่งอยู่ในบ้านที่ชิงหลงถูกกักบริเวณด้วยสีหน้าโกรธ
องครักษ์เงาคุกเข่าลงกับพื้นด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว
เมื่อพบว่าชิงหลงหายตัวไปแล้ว บรรดาผุ้อาวุโสยังทำธุระอยู่ องครักษ์เงาไม่กล้าไปรบกวนและไม่กล้าบอกพวกเขา
ดังนั้นองครักษ์เงาจึงได้เริ่มออกตามหาชิงหลงด้วยตัวเอง
พวกเขายังได้ไปที่เมืองหลวงอีกด้วย แต่ก็ไม่พบร่องรอยของชิงหลง
พวกองครักษ์เงายังคิดว่าจะรับผิดชอบร่วมกับผู้อาวุโส อีกด้านก็กลัวความโกรธของผู้อาวุโส จึงได้ใช้เวลานี้รีบตามหาชิงหลงให้เจอซะก่อน
ใครจะไปรู้ล่ะว่า ตามหามาตั้งหลายวันกลับไม่เจอเลย ผู้อาวุโสก็ได้กลับมาแล้ว
สิ่งแรกที่ทำหลังจากที่กลับมาถึงก็คือ มาดูชิงหลงก่อน
เพราะฉะนั้น การหายตัวไปของชองหลงจึงไม่อาจปกปิดได้อีกต่อไป
แม้ว่าผู้อาวุโสจะยังไม่ได้แสดงความโกรธออกมามากนัก แต่ท่าทางของเขาก็น่ากลัวไม่แพ้กัน ไม่อาจห้ามตัวไม่ให้สั่นเทาได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...