อ่านสรุป บทที่ 2082 ซวยซ้ำซวยซ้อน จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บทที่ บทที่ 2082 ซวยซ้ำซวยซ้อน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งนั้น เซียวเฉวียนพลันถอนตัวออกจากฝนลูกศรที่พุ่งยิงมาในทันที พร้อมกับหมุนกายออกไปตามเสียงร้องของกิเลนในทันใด
ทว่า ฝนลูกธนูที่ยิงมารุนแรงยิ่งนัก การที่เซียวเฉวียนจักฉวยโอกาสหลบหนีออกมาหาได้ง่ายดายไม่
ในยามที่มิทันได้ตั้งตัว พลันมีลูกธนูลูกหนึ่งเฉียดผ่านใบหูของเขาไปในทันที
นับว่าโชคดีที่มิได้มีอันตรายใด ๆ
ในขณะเดียวกัน เซียวเฉวียนพันได้ยินเสียงเรียกของเซียวหมิงชิวดังขึ้น "ท่านพ่อ!"
อั๊ยหยา เจ้าบรรพบุรุษตัวน้อย เขามิได้บอกให้นางรออยู่ข้างนอกหรือ?
ทั้งยังวิ่งเข้ามาอีกด้วย
เขารู้ดีว่าชิงหลงมิอาจขัดขวางนางได้ แต่มินึกเลยว่าจะเป็นเรื่องจริง
แม้แต่ชิงหลงก็ถูกเซียวหมิงชิวลากเข้ามาในนี้
ในยามนี้ พวกเขาทั้งสามคนต่างก็เข้ามารวมตัวกันที่นี่แล้ว
เซียวเฉวียนพลางเอ่ยออกมาว่า “ระวังตัวด้วย”
เมื่อเห็นว่าเซียวเฉวียนปลอดภัยดีนั้น เซียวหมิงชิวก็มีท่าทีสงบลง พลางเอ่ยออกมาว่า "เจ้าค่ะ ท่านพ่อระวังตัวด้วย"
พูดจบ เซียวหมิงชิวพลางคว้าดาบจิงหุนขึ้นมาเพื่อสกัดกั้นลูกธนูที่พุ่งเข้ามาหานางในทันที
ชิงหลงมาหยุดที่ข้างกายเซียวเฉวียน ก่อนจะหยิบดาบออกมาจากอากาศหนึ่งเล่ม พร้อมยื่นให้เซียวเฉวียน "ใต้เท้าเซียว รับไป"
ในเมื่ออาวุธของเซียวเฉวียนมอบให้กับเซียวหมิงชิวแล้ว ในยามนี้เซียวเฉวียนเพียงใช้กิ่งไม้ที่หักออกมาจากต้นเป็นอาวุธแทน เช่นนี้จักไปใช้การได้อย่างไร?
เซียวเฉวียนมินึกเกรงใจเลยแม้แต่น้อย พร้อมกับรับดาบที่ชิงหลงยื่นให้มาแต่โดยดี พลางเอ่ยชมเชยออกมาว่า "ดาบดี!"
แน่นอนว่าต้องเป็นของดี อาวุธจากคุนหลุนนั้นจักมีแย่ได้อย่างไรกัน
เมื่อได้ยินคำชมของเซียวเฉวียนแล้วนั้น ชิงหลงจึงเอ่ยออกมาว่า "หากใต้เท้าเซียวชอบ เช่นนั้นข้าจักมอบให้ท่าน"
ชอบ ชอบมันมาก
ของที่อยู่ในมือขององค์รัชทายาทแห่งคุนหลุน จักมีแต่ของแย่ ๆ ไปได้หรือ
ให้ของฟรีอย่างไรย่อมดีกว่าไม่รับของฟรี
เซียวเฉวียนที่กำลังปัดป้องลูกธนูที่ถูกยิงเข้ามา พลางเอ่ยขึ้นมาว่า "ถ้าอย่างนั้น ข้าขอรับมันเอาไว้แล้วกันนะชิงหลง "
ชิงหลงสะบัดพัดในมือของตนเองเบา ๆ พลันกวาดลูกธนูที่กำลังยิงเข้ามาออกไปจนหมด พลางหันมาเอ่ยด้วยท่าทีเฉยเมยว่า "มิจำเป็นต้องเกรงใจ"
ดาบที่สามารถติดตามเซียวเฉวียนได้นั้น ย่อมเป็นเกียรติสำหรับดาบเล่มนั้นเสียแล้ว
เมื่อมีชิงหลงและเซียวหมิงชิวเข้าร่วมด้วยนั้น เซียวเฉวียนจึงรู้สึกสบายมากขึ้น
เซียวเฉวียนพลันเอ่ยขึ้นมาว่า "หมิงชิว เจ้าไปตามหากิเลนเถิด"
เขาเรียกมันมานานแล้ว แต่เต้ากิเลนยังไม่มาหาเช่นนี้ ย่อมมีเรื่องอันใดเกิดขึ้นกับมันอย่างแน่นอนเลย
เซียวหมิงชิวรับคำพร้อมจากไป
ยามที่เซียวหมิงชิวเจอกับกิเลนนั้น นางพลันเห็นว่ากิเลนกำลังเข้าห้ำหั่นต่อสู้กับราชสีห์อย่างดุเดือด นางจึงไม่ได้วิ่งเข้าไปช่วยแต่อย่างใด
ถึงอย่างไรดูจากสถานการณ์ตรงหน้าแล้ว กิเลนต้องชนะอย่างแน่นอน เซียวหมิงชิวหาได้จำเป็นต้องเข้าไปช่วยมันไม่
ยิ่งไปกว่านั้น หากนางยื่นมือเข้าไปช่วยในตอนที่กิเลนกำลังได้ชัย อาจจะทำให้กิเลนไม่พอใจนางได้
เซียวหมิงชิวจึงได้แต่ยืนสังเกตสถานการณ์อยู่ด้านข้าง พร้อมกับกวาดสายตามองดูโดยรอบว่า มีอันตรายใด ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่
เมื่อตรวจดูอย่างระมัดระวังแล้ว จนเห็นว่ามิเจอสิ่งแปลก ๆ แล้วนั้น ทว่า การอยู่ในป่าทึบนานเกินไป ทำเอาเซียวหมิงชิวรู้สึกร้อนและหายใจไม่ออกเล็กน้อย
ไฟที่โหมรุนแรงมาก จนทำเอาอุณหภูมิในบรรยากาศขึ้นสูง ออกซิเจนด้านล่างค่อย ๆ เบาบางลง
เซียวหมิงชิวที่ต้องการหาที่หายใจให้โล่งคอนั้น จึงรีบตามหาที่ที่ไฟมิอาจลามไปถึงในทันที
นางเดินไป พลางหันไปกล่าวกับกิเลนว่า "กิเลนเจ้าระวังตัวด้วย หากเจ้าต้องการความช่วยเหลือละก็เรียกข้าได้เสมอ "
กิเลนที่กำลังต่อสู้กับราชสีห์ หาได้มีเวลามาสนใจเซียวหมิงชิวไม่ ดังนั้นมันจึงไม่ตอบรับคำของนาง
ทว่า เซียวหมิงชิวคิดว่ามันได้ยินแล้ว จึงเดินไปอีกฟากหนึ่งในทันที
ทางฝั่งของเซียวเฉวียนนั้น พลันรู้สึกว่าตนเองมิอาจมาเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกต่อไป ดังนั้นเขาและชิงหลงจึงรวมตัวถอยออกมา
ไปในที่ที่มิมีลูกศร
เมื่อเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเช่นนี้ พวกเขาย่อมอยากรู้ยิ่งนักว่าเป็นผู้ใดที่ลงมือ
หากแต่พวกเขามิเคยคิดเลยว่าจะเป็นเสวียนอวี๋
เนื่องจากพวกเขาก่อเรื่องในหอปี๋เซิ่งไปเมื่อคืนนั้น เหล่าคนในหอปี๋เซิ่งหาได้มีผู้ใดกล้าทำอันใดพวกเขาไม่ ไม่มีทางที่คนของหอปี๋เซิ่งจะพากันมาคิดบัญชีกับพวกเขาในยามนี้
ฉะนั้นแล้ว พวกเขาจึงสงสัยว่าเป็นบุรุษที่สวมใส่หน้ากากชุดดำที่เป็นคนลงมือหรือเปล่า?
ทว่า ก็ดูไม่น่าใช่
พวกเขาอยู่ในกลุ่มเดียวกับบุรุษที่สวมใส่หน้ากากชุดดำ อีกทั้งวันนี้ที่พวกเขามาที่หอปี๋เซิ่งก็เป็นเพราะมาตามคำสั่งของคนผู้นั้น ในเมื่อพวกเราทุกคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว บุรุษที่สวมใส่หน้ากากชุดดำมิจำเป็นต้องทำเช่นนี้กับพวกเขา
เมื่อครุ่นคิดดูแล้วนั้น คนพวกนี้ก็ไม่รู้เช่นกัน ว่าเป็นผู้ใดที่ลงมือทำร้ายพวกเขา
เมื่อเหล่าราษฎรที่มารอรับชมเรื่องราวสนุก ๆ เห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ต่างพากันหนีหายแตกกระจายไปคนละทิศคนละทางในทันที พร้อมกับถอยห่างออกจากคนพวกนั้น เนื่องจากกลัวตัวเองจะโดนหางเลขไปด้วย
มีบางคนที่จำพวกเขาได้ว่า กลุ่มคนพวกนี้เป็นพวกที่มากินอาหารและก่อความวุ่นวายหอปี๋เซิ่งเมื่อคืน
หากเอ่ยว่าอาหารในหอปี๋เซิ่งมีบางจานที่สกปรกนั้น เหล่าราษฎรยังพอเชื่ออยู่บ้าง
แต่เมื่อคืน กลับมีผู้คนเจอมากถึงยี่สิบกว่าโต๊ะ ผู้ที่ได้ยินต่างย่อมรู้สึกได้ถึงเรื่องราวแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นในทันที
ฉะนั้นแล้ว เหล่าชาวบ้านต่างก็รู้สึกว่า คนพวกนี้สมควรแล้วที่ต้องมาพบเจอเรื่องเช่นนี้ ทำสิ่งใดย่อมได้สิ่งนั้น!
ใครอนุญาตให้พวกเขาก่อเรื่องในถิ่นของเซียวเฉวียนกัน!
มีเพียงข่าวลือว่าเซียวเฉวียนเสียชีวิตแล้วเท่านั้น ทางราชสำนักหาได้ประกาศข่าวอันใดออกมาไม่ พวกเขาก็กล้ามาก่อเรื่องในถิ่นของเซียวเฉวียนเช่นนี้ และพวกเขามิกลัวว่าเซียวเฉวียนจะกลับมาฆ่าพวกเขาหรือ!
ถึงแม้เซียวเฉวียนจักตายแล้วอย่างไร ทว่า หอปี๋เซิ่งก็ยังมีอี้กุยคอยบริหารจัดการอยู่ อี้กุยก็หาใช่คนที่จะจัดการได้ง่าย ๆ ไม่ ในเมื่อเขามีตระกูลเซียวให้การสนับสนุนอยู่เช่นนั้น คนเหล่านี้ยังกล้าพุ่งเข้าไปทำร้ายอีกหรือ?
ต้องไปกินดีหมีหัวใจเสือมาจากที่ใดกัน!
เหล่าราษฎรบางคนจึงเริ่มถ่มน้ำลายใส่พวกเขา "พุ้ย! เจ้าพวกสุนัขไม่มีสมองเช่นพวกเจ้า สมควรโดนแล้ว!"
เมื่อมีคนเริ่มนั้น ย่อมมีคนคิดตาม พวกเขาต่างพากันก่นด่าคนพวกนี้ออกมาอย่างรุนแรง
สำหรับกลุ่มคนที่ก่อเรื่องขึ้นมานั้น ช่างเป็นเหตุการณ์ที่ซวยซ้ำซวยซ้อนเสียจริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...