ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 2086

สรุปบท บทที่ 2086 ความสับสนของชิงหลง: ซูเปอร์ลูกเขย

สรุปเนื้อหา บทที่ 2086 ความสับสนของชิงหลง – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บท บทที่ 2086 ความสับสนของชิงหลง ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตามคำพูดของชิงหลง เพราะป่านี้คือป่าผีสิง นั้นทำให้สัตว์ป่าในนี้เกือบจะสูญพันธุ์ไปจนหมด เหลือไว้เพียงแค่ค้างคาวที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้นหรือ

หรือเป็นเพราะสัตว์ทั้งหลายในป่าได้กลายเป็นแหล่งเพาะพันธ์ค้างคาวไปกันหมดเสียแล้ว

ชิงหลงพยักหน้าและพูดว่า "ก็ ก็ประมาณนั้น"

และนี้ก็สร้างความอันตรายให้แก่เหล่าทหารที่จัดค่ายอยู่ในป่า

แล้วยิ่งค้างคาวพวกนี้หิวมากเท่าไหร่ พวกมันก็ยิ่งโจมตีหนักมากขึ้นเท่านั้น

ตัวข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะมีใครสามารถจะจัดการเรื่องนี้ได้อย่างเหมาะสม

เมื่อก่อน ตอนที่มีข่าวลือที่เกี่ยวข้องกับป่า ชิงหลงก็แค่ฟังงั้นๆ เพราะในตอนนั้น เทือกเขาคุนหลุนยังมีผนึกจูเสินคอยควบคุมอยู่ และพวก้ขาเองเองก็เข้าไปยุ่งของเรื่องทางโลกมากเกินไปไม่ได้เช่นกัน

และเรื่องของป่าแห่งนี้ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับเทือกเขาคุนหลุนของพวกเขาอีกด้วย ยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับเขา ชิงหลงก็ยิ่งไม่คิดที่จะเข้าไปยุ่งด้วย

จากที่ดูในตอนนี้ ทั่วพื้นที่ป่าแห่งนี้ได้ถูกวางรูปแบบกลไกเอาไว้มากมาย และมีโอกาศถึง 90% ที่จะมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ในป่าแห่งนี้

ขณะที่เดิน จู่ๆ เซียวเฉวียนก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้ เขาจึงถามว่า "เจ้าได้กลิ่นอะไรบ้างหรือไม่"

เมื่อได้ยิน ชิงหลงและเซียวหมิงชิวก็ลองดมกลิ่นดู และทั้งคู่ก็พูดพร้อมกันว่า "กลิ่นไหม้"

พอได้ยินดังนั้น กิเลนก็แสดงปฏิกิริยามากที่สุดและรีบวิ่งออกไปทันที

สีหน้าของทั้งสามนั้นแสดงถึงความสับสนงงงวย กิเลนนั้นกำลังทำอะไรอยู่กัน

ใช้เวลาไม่นาน เซียวหมิงชิวก็รู้สึกตัว ดวงตาของเธอเปล่งประกายและพูดออกมาว่า "มันน่าจะวิ่งไปดูสัตว์ประหลาดตัวนั้น"

“สัตว์ประหลาดไม่ได้ถูกฆ่าแล้วหรือ มีอะไรให้ดูอีก?” เซียวเฉวียนสับสน

ตอนนั้นเอง เซียวหมิงชิวจึงบอกกับเซียวเฉวียนว่ากิเลนให้ความสําคัญกับสิงโตตัวนั้นแค่ไหน

หลังจากฟังแล้ว เซียวเฉวียนก็คาดเดาความตั้งใจของกิเลนได้ว่าอาจจะต้องการเก็บร่างของสิงโตตัวนั้นไว้ย่างให้กับเซียวเฉวียน

เพราะกิเลนเป็นนักชิม

อย่างไรก็ตาม คนงี่เง่าคนนี้ได้สร้างกำแพงไฟไว้รอบ ๆ ตัวสิงโตเพื่อปกป้องมัน นั้นมันไม่เหมือนกับการนำสิงโตเข้าวางไว้ในเตาไฟงั้นหรือ

แถมเซียวหมิงชิวก็บอกว่า กำแพงไฟของกิเลนนั้นอยู่ใกล้สิงโตมากๆ ไม่แปลกที่สิงโตจะย่างจนไม่เหลือแม้แต่ขน

กลิ่นเหม็นไหม้ในอากาศเริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เซียวเฉวียนรับรู้ได้ว่าซากสิงโตคงจะไหม้ไปจนหมดแล้ว

แต่เขาอยากเห็นว่ากิเลนจะทำเช่นไรกับเรื่องนี้ เพราะความผิดพลาดของเขาทำให้ทุกสิ่งที่เขาทำกลายเป็นความว่างเปล่า ดังนั้น กลุ่มของเซียวเฉวียนทั้งสามคนจึงรีบเร่งความเร็วตามเขาไป

เมื่อพวกเขามาถึง กิเลนก็ได้หยุดใช้กําแพงไฟแล้ว และที่พื้นก็มีซากสีดํามะเมื่อมวางอยู่ ตัวกิเลนมองไปที่ซากสีดำนั้นโดยไม่กะพริบตา ไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันกําลังคิดอะไรอยู่

จนกระทั่งเซียวเฉวียนได้มาอยู่ตรงหน้า มันถึงมีสติกลับมาอีกครั้ง และมองไปที่เซียวเฉวียนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเสียใจ

แทนที่จะบ้าคลั่งเพราะเหตุการณ์นี้ กิเลนกลับค่อนข้างสงบ

อย่างไรก็ตาม ศพไม่ได้ถูกเผาจนจำไม่ได้ อย่างน้อยเซียวเฉวียนก็ยังบอกได้ว่าเคยเป็นร่างของสิงโตมาก่อน

เซียวเฉวียนจึงได้กล่าวเบา ๆว่า “อยากกินเนื้อย่างหรือไม่”

จากที่มองจากภายนอก เป็นไปได้ว่าถึงสิงโตจะถูกเผาจนน่าเกลียดแต่เนื้อในนั้นอาจจะยังไม่สุก

หากพวกเขาอยากกินก็สามารถผ่าและเฉือนด้านนอกของสิงโตออก เพราะด้านในคงจะมีเนื้อเหลืออีกมากที่ยังสามารถนำมาย่างทานได้

อยากสิ ต้องอยากอยู่แล้ว

หากไม่อยากกินเนื้อ กิเลนก็คงไม่งปกป้องซากสิงโตอย่างยากลําบากขนาดนี้แล้ว แม้ว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะแตกต่างจากสิ่งที่มันคิดไปมากก็ตาม

กิเลนพยักหน้า แสดงถึงความอยากของมันว่าอยากกินมากแค่ไหน

ในกรณีนี้ เซียวเฉวียนจึงได้ตอบสนองความต้องการของกิเลน

และเพราะตัวเซียวเฉวียนก็คาดเดาไว้เช่นกันว่าคงจะไม่สามารถออกจากป่านี้ไปได้อีกระยะหนึ่ง และสัตว์ป่าก็หายาก ตอนนี้มีเพียงสิงโตตัวนี้เท่านั้นที่สามารถกินได้

อย่าทำให้เสียของ

เมื่อว่าอากาศดีขึ้นจึงได้บอกให้หยุด เพราะอย่างไรก็เสียชิงหลงก็เป็นศาลองค์ชายแห่งคุนหลุน การที่ใช้เขาได้แบบนี้ทำให้เซียวเฉวียนรู้สึกผิดในใจเล็กน้อย แต่แน่นอนว่า ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องโกหก

เหตุผลที่แท้จริงก็คือเซียวเฉวียนรู้สึกว่าอากาศในตอนนี้ถึงขั้นที่พอยอมรับได้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาและพลังงานของชิงหลงอีกต่อไป

แล้วก็คงจะดีถ้าเขารีบเข้ามาช่วยหั่นเนื้อเร็วๆ

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชิงหลงก็หยุดและกลับไปหั่นเนื้อสิงโตกับเซียวเฉวียนต่อ

การที่ต้องติดอยู่ในป่านี้ที่มีกับดักมากมาย และไม่รู้ว่าจะออกไปได้อย่างไร แต่เซียวเฉวียนกลับยังมีสีหน้าที่สงบ และยังคงแยกตัวออกไปหั่นเนื้อสิงโต

ถ้าไม่ใช่เพราะบาดแผลบนร่างกายและคราบเลือดบนเสื้อผ้าของเขา คนที่เห็นคงจะคิดว่าเซียวเฉวียนมาที่นี่เพื่อพักผ่อน

ในเวลาที่ยากลําบากเช่นนี้ เซียวเฉวียนยังมีกะจิตกะใจตอบสนองคําขอของสัตว์ที่ต้องการกินทําเนื้อย่างอีกงั้นหรือ

ไม่รู้จริง ๆ ว่าเซียวเฉวียนนั้นคิดอะไรอยู่

เมื่อเห็นชิงหลงมองตัวเองด้วยสีหน้าสงสัย เซียวเฉวียนอดไม่ได้ที่จะถามว่า "ท่างชิงหลง มีอะไรหรือ"

แน่นอนว่าเซียวเฉวียนรู้ว่าชิงหลงต้องสงสัยว่าทําไมเซียวเฉวียนยังคงสงบเช่นนี้แทนที่จะรีบหาวิธีออกจากที่นี่

และตามที่คาดไว้ ชิงหลงก็ได้ถามว่า "ท่านเซียว เราควรหาทางออกจากที่นี่ก่อนมิใช่หรือ"

ที่นี่ถูกวางกลไกได้ไม่เลว และตัวชิงหลงเองก็ว่ามีความเชี่ยวชาญในการวางกลไก แต่ถ้าคิดว่าเซียวเฉวียนจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ชิงหลง เขาคิดผิดแล้ว

เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้วางกลไกแห่งนี้ และชิงหลงเองก็ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้

ไม่อย่างนั้น เขาคงจะทำลายกลไกพวกทิ้งนี้ไปนานแล้ว และคงไม่ติดอยู่ที่นี่นานขนาดนี้

แม้ว่าชิงหลงจะไม่ได้พูด แต่เซียวเฉวียนก็รู้

เขาพูดอย่างใจเย็น "นั่นคือเหตุผลที่เราต้องกินให้อิ่ม"

เมื่ออิ่มแล้วเท่านั้นจึงจะมีพลังรับมือกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย