ตามคำพูดของชิงหลง เพราะป่านี้คือป่าผีสิง นั้นทำให้สัตว์ป่าในนี้เกือบจะสูญพันธุ์ไปจนหมด เหลือไว้เพียงแค่ค้างคาวที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้นหรือ
หรือเป็นเพราะสัตว์ทั้งหลายในป่าได้กลายเป็นแหล่งเพาะพันธ์ค้างคาวไปกันหมดเสียแล้ว
ชิงหลงพยักหน้าและพูดว่า "ก็ ก็ประมาณนั้น"
และนี้ก็สร้างความอันตรายให้แก่เหล่าทหารที่จัดค่ายอยู่ในป่า
แล้วยิ่งค้างคาวพวกนี้หิวมากเท่าไหร่ พวกมันก็ยิ่งโจมตีหนักมากขึ้นเท่านั้น
ตัวข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะมีใครสามารถจะจัดการเรื่องนี้ได้อย่างเหมาะสม
เมื่อก่อน ตอนที่มีข่าวลือที่เกี่ยวข้องกับป่า ชิงหลงก็แค่ฟังงั้นๆ เพราะในตอนนั้น เทือกเขาคุนหลุนยังมีผนึกจูเสินคอยควบคุมอยู่ และพวก้ขาเองเองก็เข้าไปยุ่งของเรื่องทางโลกมากเกินไปไม่ได้เช่นกัน
และเรื่องของป่าแห่งนี้ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับเทือกเขาคุนหลุนของพวกเขาอีกด้วย ยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับเขา ชิงหลงก็ยิ่งไม่คิดที่จะเข้าไปยุ่งด้วย
จากที่ดูในตอนนี้ ทั่วพื้นที่ป่าแห่งนี้ได้ถูกวางรูปแบบกลไกเอาไว้มากมาย และมีโอกาศถึง 90% ที่จะมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ในป่าแห่งนี้
ขณะที่เดิน จู่ๆ เซียวเฉวียนก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้ เขาจึงถามว่า "เจ้าได้กลิ่นอะไรบ้างหรือไม่"
เมื่อได้ยิน ชิงหลงและเซียวหมิงชิวก็ลองดมกลิ่นดู และทั้งคู่ก็พูดพร้อมกันว่า "กลิ่นไหม้"
พอได้ยินดังนั้น กิเลนก็แสดงปฏิกิริยามากที่สุดและรีบวิ่งออกไปทันที
สีหน้าของทั้งสามนั้นแสดงถึงความสับสนงงงวย กิเลนนั้นกำลังทำอะไรอยู่กัน
ใช้เวลาไม่นาน เซียวหมิงชิวก็รู้สึกตัว ดวงตาของเธอเปล่งประกายและพูดออกมาว่า "มันน่าจะวิ่งไปดูสัตว์ประหลาดตัวนั้น"
“สัตว์ประหลาดไม่ได้ถูกฆ่าแล้วหรือ มีอะไรให้ดูอีก?” เซียวเฉวียนสับสน
ตอนนั้นเอง เซียวหมิงชิวจึงบอกกับเซียวเฉวียนว่ากิเลนให้ความสําคัญกับสิงโตตัวนั้นแค่ไหน
หลังจากฟังแล้ว เซียวเฉวียนก็คาดเดาความตั้งใจของกิเลนได้ว่าอาจจะต้องการเก็บร่างของสิงโตตัวนั้นไว้ย่างให้กับเซียวเฉวียน
เพราะกิเลนเป็นนักชิม
อย่างไรก็ตาม คนงี่เง่าคนนี้ได้สร้างกำแพงไฟไว้รอบ ๆ ตัวสิงโตเพื่อปกป้องมัน นั้นมันไม่เหมือนกับการนำสิงโตเข้าวางไว้ในเตาไฟงั้นหรือ
แถมเซียวหมิงชิวก็บอกว่า กำแพงไฟของกิเลนนั้นอยู่ใกล้สิงโตมากๆ ไม่แปลกที่สิงโตจะย่างจนไม่เหลือแม้แต่ขน
กลิ่นเหม็นไหม้ในอากาศเริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เซียวเฉวียนรับรู้ได้ว่าซากสิงโตคงจะไหม้ไปจนหมดแล้ว
แต่เขาอยากเห็นว่ากิเลนจะทำเช่นไรกับเรื่องนี้ เพราะความผิดพลาดของเขาทำให้ทุกสิ่งที่เขาทำกลายเป็นความว่างเปล่า ดังนั้น กลุ่มของเซียวเฉวียนทั้งสามคนจึงรีบเร่งความเร็วตามเขาไป
เมื่อพวกเขามาถึง กิเลนก็ได้หยุดใช้กําแพงไฟแล้ว และที่พื้นก็มีซากสีดํามะเมื่อมวางอยู่ ตัวกิเลนมองไปที่ซากสีดำนั้นโดยไม่กะพริบตา ไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันกําลังคิดอะไรอยู่
จนกระทั่งเซียวเฉวียนได้มาอยู่ตรงหน้า มันถึงมีสติกลับมาอีกครั้ง และมองไปที่เซียวเฉวียนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเสียใจ
แทนที่จะบ้าคลั่งเพราะเหตุการณ์นี้ กิเลนกลับค่อนข้างสงบ
อย่างไรก็ตาม ศพไม่ได้ถูกเผาจนจำไม่ได้ อย่างน้อยเซียวเฉวียนก็ยังบอกได้ว่าเคยเป็นร่างของสิงโตมาก่อน
เซียวเฉวียนจึงได้กล่าวเบา ๆว่า “อยากกินเนื้อย่างหรือไม่”
จากที่มองจากภายนอก เป็นไปได้ว่าถึงสิงโตจะถูกเผาจนน่าเกลียดแต่เนื้อในนั้นอาจจะยังไม่สุก
หากพวกเขาอยากกินก็สามารถผ่าและเฉือนด้านนอกของสิงโตออก เพราะด้านในคงจะมีเนื้อเหลืออีกมากที่ยังสามารถนำมาย่างทานได้
อยากสิ ต้องอยากอยู่แล้ว
หากไม่อยากกินเนื้อ กิเลนก็คงไม่งปกป้องซากสิงโตอย่างยากลําบากขนาดนี้แล้ว แม้ว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะแตกต่างจากสิ่งที่มันคิดไปมากก็ตาม
กิเลนพยักหน้า แสดงถึงความอยากของมันว่าอยากกินมากแค่ไหน
ในกรณีนี้ เซียวเฉวียนจึงได้ตอบสนองความต้องการของกิเลน
และเพราะตัวเซียวเฉวียนก็คาดเดาไว้เช่นกันว่าคงจะไม่สามารถออกจากป่านี้ไปได้อีกระยะหนึ่ง และสัตว์ป่าก็หายาก ตอนนี้มีเพียงสิงโตตัวนี้เท่านั้นที่สามารถกินได้
อย่าทำให้เสียของ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...