การที่เจ้าพูดมาแบบนี้ คือตั้งใจให้ข้าพูดว่าร้ายอีกฝ่ายใช่หรือไม่?
ข้าสงสัยในตัวเซียวเฉวียนไม่ผิดหรอก
แต่ใครบ้างจะไม่รู้ว่าเจ้ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเซียวเฉวียน หากว่าร้ายเซียวเฉวียนต่อหน้าเจ้าก็ไม่เท่ากับหาเรื่องใส่ตัวหรอกรึ?
และอีกอย่าง คนในห้องโถงนี้ก็ไม่มีใครชี้ตัวไปที่เซียวเฉวียน ถ้าจะให้หวังซวนปริปากออกมาก็โง่แล้ว
จากนั้นจ้าวหลานก็พูดต่อ “งั้นก็คงเพราะท่านคิดมากไป”
ฟังจากน้ำเสียงของหวังซวน จ้าวหลานก็คิดว่าเขาจงใจ กล้าที่จะสาดโคลนใส่เซียวเฉวียนต่อหน้าทุกคน
หากเช่นนั้นแล้ว จ้าวหลานก็ต้องหาทางให้เขาเงียบปาก
เรื่องนี้ก็ชัดเจนอยู่ว่าเซียวเฉวียนไม่ได้เป็นคนทำ
แค่พฤติกรรมเซียวเฉวียนเช่นนั้น เขาจะทำเรื่องขนาดนี้เลยหรอ?
หากเขาต้องการฆ่าคน เขาคงส่งคนพวกนั้นไปพบยมบาลตั้งแต่อยู่ที่หอปี๋เซิ่งแล้ว!
ไม่จำเป็นต้องให้คนพวกนั้นมาทำร้ายเขาที่ปากประตูหอปี๋เซิ่งฟรีๆ แล้วค่อยฆ่าพวกเขาตอนที่พวกเขาออกไประหว่างทางหรอ?
ต้องการใช้โอกาสนี้สาดโคลนใส่เซียวเฉวียน ก็รู้จักเซียวเฉวียนน้อยไปแล้ว
อย่างที่ทุกคนรู้ดี เซียวเฉวียนมีศักดิ์ศรีของตัวเอง ในสายตาเขาไม่มีใครด้อยกว่าหรือสูงกว่า การที่เขาจะฆ่าใครย่อมมีเหตุผลเสมอ เขาจะใช้วิธีโง่ๆนี้เป็นกับดักให้ตัวเองเพื่ออะไร?
หากคนพวกนั้นถูกเซียวเฉวียนฆ่าจริงๆ จากนิสัยของเขาแล้วเขาคงไม่ฆ่าฟรีๆ คงจะปล่าวประกาศว่า “คนพวกนี้แส่สร้างเรื่องในเขตของเซียวเฉวียน คงจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ดีๆ ข้าก็จักช่วยพวกมันสมความปราถนาเอง”
อย่างนี้ถึงค่อยเป็นเซียวเฉวียนหน่อย!
จ้าวหลานก็อยากจะพูดเรื่องนี้ให้ชัดเจนเหมือนกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “กระหม่อมรู้ว่าหลายคนในที่นี้ก็คิดว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับราชครู”
“กระหม่อมรู้จักราชครูดี เขาไม่มีทางก่อคดีนี้เป็นอันขาด”
วันนี้จ้าวหลานได้อธิบายให่ชัดแจ้งแล้ว หากใครในที่นี้ยังสงสัยเซียวเฉวียนอยู่ก็สงสัยไป แต่อย่าได้คิดพูดออกมา เพราะสุดท้ายแล้วตอนขายขี้หน้าก็จะอายเอง
เหมือนที่หวังซวนพูดเมื่อกี้ เขาพยายามพูดให้รู้ว่าเป็นเซียวเฉวียน เหลือก็แค่พูดชื่อออกมาเท่านั้น
รัฐมนตรีที่มีความคิดเช่นนี้ต้องไม่ใช่หวังซวนเพียงคนเดียวแน่
จ้าวหลานพูดดักไม่ให้คนที่คิดเช่นนั้นสาดโคลนใส่เซียวเฉวียนในขณะที่ยังไม่มีหลักฐานอะไร
จริงๆ ถึงพวกเขาจะรู้สึกว่าพูดไม่เหนื่อย แต่จ้าวหลานฟังจนเหนื่อยแล้ว
หวังซวนร้อนตัว รู้สึกว่าจ้าวหลานกำลังพูดตอกย้ำเขา
เขาถอนหายใจในใจรอบนึง ทีแรกเขาก็อยากจะหยุดคำพูดตัวเองไว้ แต่พอดีจ้าวหลานเอ่ยชื่อเซียวเฉวียนออกมาเอง เขามองไปที่จ้าวหลานด้วยสายตาชั่วร้ายก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “ผู้ตรวจการจ้าวทำไมถึงคิดว่าเป็นราชครูเล่า?”
“เป็นไปได้ไหม ที่ในใจของผู้ตรวจการจ้าวเองก็คิดว่าราชครูมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้?”
ต่อจากนี้ หวังซวนเชื่อว่าต่อให้เขาไม่พูดแต่จ้าวหลานก็จะรู้ว่าเขาต้องการจะสื่อถึงอะไร
ความสัมพันธ์ของจ้าวหลานและเซียวเฉวียน คนทั้งห้องโถงรู้เป็นอย่างดี
เขากระตือรือร้นที่จะปกป้องเซียวเฉวียนก็เพราะเขากับเซียวเฉวียนสนิทกัน นี่เป็นเพียงเหตุผลนึงแต่อีกเหตุผลก็คือในอาชญากรรมครั้งนี้ต้องเชื่อมโยงกับเซียวเฉวียนอย่างแน่นอน และคนอื่นๆก็คงคิดเช่นนั้นเหมือนกัน
และสุดท้ายผู้ที่เสียชีวิตทั้งหมดมีจุดเชื่อมโยงเดียวกันนั่นคือก่อเหตุที่หอปี๋เซิ่งก่อนตาย และยังถูกทำร้ายหน้าประตูหอปี๋เซิ่ง
คนทั่วไปก็คงคิดว่าเซียวเฉวียนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...