เดิมทีย่าเหยียนได้กางม่านพลังเอาไว้ในกล่อง หากมีผู้ใดเข้ามายุ่งกับหนังสือใต้กล่อง ม่านพลังดังกล่าวก็จะทำงาน และย่าเหยียนก็จะสัมผัสถึงมันได้ในทันที
แต่ม่านพลังดังกล่าวนั้นถูกสร้างขึ้นมาเป็นเวลามากกว่าพันปีแล้ว ด้วยระยะเวลาอันแสนยาวนาน พลังในการรับรู้ของมันจึงอ่อนแอลงไปตามธรรมชาติ
หรือพูดอีกอย่างก็คือ ย่าเหยียนสามารถสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ความรู้สึกนี้มันก็เป็นความรู้สึกที่เล็กน้อย และผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม นางก็ยังไม่รู้ว่าความผิดปกตินี้นั้นเกิดขึ้นจากอารามป่า
เหมือนกับที่เซียวหมิงชิวได้กล่าวไว้ แม้แต่ตัวของย่าเหยียนเองก็แทบจะลืมเรื่องของอารามป่าไปแล้ว
ด้วยความรู้สึกเพียงเล็กน้อย ย่าเหยียนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาว่าความผิดปกตินั้นมาจากที่ใด
ในตอนนั้นเอง อาเหมิงยกอาหารเข้ามาพอดี เมื่อเห็นท่าทีที่น่าสงสัยของย่าเหยียน เขาก็อดที่จะแอบมองนางไม่ได้
หลังจากนั้นเขาก็เคาะประตูเบาๆ
เคาะประตู 3 ครั้ง ย่าเหยียนยังไม่ตอบสนอง อาเหมิงจึงอดสงสัยไม่ได้ “มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เหตุใดเจ้าสำนักเหยียนถึงได้สับสนถึงเพียงนี้?”
หลังจากนั้นเขาก็กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เหมาะสม “เจ้าสำนักเหยียน? เจ้าสำนักเหยียน?”
ในตอนนั้นเองย่าเหยียนถึงได้สติกลับคืนมา สายตาของนางมองมาที่อาเหมิง กล่าวด้วยน้ำเสียงอันเงียบสงบ “เข้ามา”
อาเหมิงจึงจะยกอาหารเดินเข้ามาด้านใน
หลังจากได้พักผ่อน อาการบาดเจ็บของอาเหมิงก็ดีขึ้นมาแล้ว ไม่มีปัญหาในเรื่องการทำอาหาร
เขาวางอาหารลงอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็รวบรวมความกล้าในการกล่าวออกมาว่า “มีเรื่องอันใดที่ท่านเจ้าสำนักเหยียนสงสัยงั้นหรือ?”
ตั้งแต่มาลี้ภัยอยู่ที่นี่ อาเหมิงรู้สึกว่าพูดคุยกับย่าเหยียนได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก และนางก็เป็นที่พึ่งของเขา เมื่อเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยของนาง เป็นห่วงที่พึ่งของตัวเองมันก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
บางทีหากนางพูดออกมา ไม่แน่เขาอาจช่วยคลายความสงสัยให้นางได้
ได้ยินเช่นนั้น ย่าเหยียนยกเปลือกตาขึ้น หรี่ตามองไปที่อาเหมิง เก็บสายตาพร้อมกล่าวว่า “ไม่เป็นไร เจ้าออกไปได้แล้ว”
เรื่องที่แม้แต่นางยังไม่เข้าใจ พูดกับเขาไปก็เปล่าประโยชน์
เนื่องจากความแข็งแกร่งและสติปัญญาของเขานั้นด้อยกว่านาง เขาจะช่วยคลายความสงสัยให้กับนางได้อย่างไร?
ย่าเหยียนไม่เคยมีความหวังเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน
อีกอย่าง ย่าเหยียนรู้สึกแค่ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น แต่แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร นางก็ยังไม่แน่ใจ เช่นนั้นแล้วจะพูดให้อาเหมิงฟังได้อย่างไร?
อย่าพูดเลยดีกว่า
อาเหมิงทำได้เพียงจากไปด้วยความเคารพ
ในตอนที่เขาเดินถึงประตู เสียงอันเยือกเย็นของย่าเหยียนก็ดังขึ้น “ปิดประตู”
นางไม่อยากให้อาเหมิงเห็นท่าทางของนางในกระบวนการคิดหรือไตร่ตรองเรื่องราวต่าง ๆ
คำสั่งของเจ้านาย แน่นอนว่าอาเหมิงต้องปฏิบัติตาม
เมื่อได้ยินเสียงประตูปิด ย่าเหยียนละทิ้งความคิดทุกอย่าง นางเริ่มทานอาหาร
แต่ขณะที่กำลังกิน นางก็อดคิดถึงเรื่องนั้นไม่ได้ นางขบคิด แท้จริงแล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
จนกระทั่งนางทานอาหารเสร็จ นางถึงนึกขึ้นได้ว่าเมื่อพันปีที่แล้ว นางเคยซ่อนตำราโบราณแห่งคุนหลุนไว้ในอารามป่าแห่งหนึ่งในทะเลทราย
เวลานั้นนางได้ใส่ตำราโบราณไว้ในกล่องและกางม่านพลังเอาไว้หนึ่งชั้น
หากมีใครสัมผัสม่านพลังดังกล่าว นางก็จะรู้สึกตัวได้ในทันที
ผ่านมาพันกว่าปีแล้ว ย่าเหยียนกางม่านพลังไว้ในกล่องที่อยู่ในอารามป่าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และนางก็ไม่เคยคลายมันออก
หากไม่ใช่เพราะความรู้สึกอันคลุมเครือ หากไม่ใช่เพราะย่าเหยียนใช้สมองคิดเกี่ยวกับเรื่องมานาน นางคงลืมเรื่องนี้ไปแล้ว
แต่นางก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก สงสัยว่าผู้ใดเดินทางเข้าไปในอารามป่าที่เต็มไปด้วยกลไกแห่งค่ายกล จนสุดท้ายสามารถตามหากล่องได้สำเร็จ?
หาเจออย่างเดียวไม่ว่า แต่ยังสามารถเปิดกล่องได้อีกอย่างนั้นหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...