ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 2100

เดิมทีย่าเหยียนได้กางม่านพลังเอาไว้ในกล่อง หากมีผู้ใดเข้ามายุ่งกับหนังสือใต้กล่อง ม่านพลังดังกล่าวก็จะทำงาน และย่าเหยียนก็จะสัมผัสถึงมันได้ในทันที

แต่ม่านพลังดังกล่าวนั้นถูกสร้างขึ้นมาเป็นเวลามากกว่าพันปีแล้ว ด้วยระยะเวลาอันแสนยาวนาน พลังในการรับรู้ของมันจึงอ่อนแอลงไปตามธรรมชาติ

หรือพูดอีกอย่างก็คือ ย่าเหยียนสามารถสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ความรู้สึกนี้มันก็เป็นความรู้สึกที่เล็กน้อย และผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม นางก็ยังไม่รู้ว่าความผิดปกตินี้นั้นเกิดขึ้นจากอารามป่า

เหมือนกับที่เซียวหมิงชิวได้กล่าวไว้ แม้แต่ตัวของย่าเหยียนเองก็แทบจะลืมเรื่องของอารามป่าไปแล้ว

ด้วยความรู้สึกเพียงเล็กน้อย ย่าเหยียนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาว่าความผิดปกตินั้นมาจากที่ใด

ในตอนนั้นเอง อาเหมิงยกอาหารเข้ามาพอดี เมื่อเห็นท่าทีที่น่าสงสัยของย่าเหยียน เขาก็อดที่จะแอบมองนางไม่ได้

หลังจากนั้นเขาก็เคาะประตูเบาๆ

เคาะประตู 3 ครั้ง ย่าเหยียนยังไม่ตอบสนอง อาเหมิงจึงอดสงสัยไม่ได้ “มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เหตุใดเจ้าสำนักเหยียนถึงได้สับสนถึงเพียงนี้?”

หลังจากนั้นเขาก็กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เหมาะสม “เจ้าสำนักเหยียน? เจ้าสำนักเหยียน?”

ในตอนนั้นเองย่าเหยียนถึงได้สติกลับคืนมา สายตาของนางมองมาที่อาเหมิง กล่าวด้วยน้ำเสียงอันเงียบสงบ “เข้ามา”

อาเหมิงจึงจะยกอาหารเดินเข้ามาด้านใน

หลังจากได้พักผ่อน อาการบาดเจ็บของอาเหมิงก็ดีขึ้นมาแล้ว ไม่มีปัญหาในเรื่องการทำอาหาร

เขาวางอาหารลงอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็รวบรวมความกล้าในการกล่าวออกมาว่า “มีเรื่องอันใดที่ท่านเจ้าสำนักเหยียนสงสัยงั้นหรือ?”

ตั้งแต่มาลี้ภัยอยู่ที่นี่ อาเหมิงรู้สึกว่าพูดคุยกับย่าเหยียนได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก และนางก็เป็นที่พึ่งของเขา เมื่อเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยของนาง เป็นห่วงที่พึ่งของตัวเองมันก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

บางทีหากนางพูดออกมา ไม่แน่เขาอาจช่วยคลายความสงสัยให้นางได้

ได้ยินเช่นนั้น ย่าเหยียนยกเปลือกตาขึ้น หรี่ตามองไปที่อาเหมิง เก็บสายตาพร้อมกล่าวว่า “ไม่เป็นไร เจ้าออกไปได้แล้ว”

เรื่องที่แม้แต่นางยังไม่เข้าใจ พูดกับเขาไปก็เปล่าประโยชน์

เนื่องจากความแข็งแกร่งและสติปัญญาของเขานั้นด้อยกว่านาง เขาจะช่วยคลายความสงสัยให้กับนางได้อย่างไร?

ย่าเหยียนไม่เคยมีความหวังเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน

อีกอย่าง ย่าเหยียนรู้สึกแค่ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น แต่แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร นางก็ยังไม่แน่ใจ เช่นนั้นแล้วจะพูดให้อาเหมิงฟังได้อย่างไร?

อย่าพูดเลยดีกว่า

อาเหมิงทำได้เพียงจากไปด้วยความเคารพ

ในตอนที่เขาเดินถึงประตู เสียงอันเยือกเย็นของย่าเหยียนก็ดังขึ้น “ปิดประตู”

นางไม่อยากให้อาเหมิงเห็นท่าทางของนางในกระบวนการคิดหรือไตร่ตรองเรื่องราวต่าง ๆ

คำสั่งของเจ้านาย แน่นอนว่าอาเหมิงต้องปฏิบัติตาม

เมื่อได้ยินเสียงประตูปิด ย่าเหยียนละทิ้งความคิดทุกอย่าง นางเริ่มทานอาหาร

แต่ขณะที่กำลังกิน นางก็อดคิดถึงเรื่องนั้นไม่ได้ นางขบคิด แท้จริงแล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

จนกระทั่งนางทานอาหารเสร็จ นางถึงนึกขึ้นได้ว่าเมื่อพันปีที่แล้ว นางเคยซ่อนตำราโบราณแห่งคุนหลุนไว้ในอารามป่าแห่งหนึ่งในทะเลทราย

เวลานั้นนางได้ใส่ตำราโบราณไว้ในกล่องและกางม่านพลังเอาไว้หนึ่งชั้น

หากมีใครสัมผัสม่านพลังดังกล่าว นางก็จะรู้สึกตัวได้ในทันที

ผ่านมาพันกว่าปีแล้ว ย่าเหยียนกางม่านพลังไว้ในกล่องที่อยู่ในอารามป่าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และนางก็ไม่เคยคลายมันออก

หากไม่ใช่เพราะความรู้สึกอันคลุมเครือ หากไม่ใช่เพราะย่าเหยียนใช้สมองคิดเกี่ยวกับเรื่องมานาน นางคงลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

แต่นางก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก สงสัยว่าผู้ใดเดินทางเข้าไปในอารามป่าที่เต็มไปด้วยกลไกแห่งค่ายกล จนสุดท้ายสามารถตามหากล่องได้สำเร็จ?

หาเจออย่างเดียวไม่ว่า แต่ยังสามารถเปิดกล่องได้อีกอย่างนั้นหรือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย