ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 213

“ไม่พอ! ไม่พอ!”

จวนว่าการชั้นในกลายเป็นทะเลเพลิงไปแล้ว เหวินคุนหันศีรษะไปซ้ายขวา ดวงตายังคงเว้าลงอยู่ แต่กลับมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน!

“มาให้หนักกว่านี้อีกหน่อยสิ!”

เหวินคุนนิ่งลงเล็กน้อย และก้มหัวลงต่ำ

ราวกับมหาสมุทรแห่งบทกวีในสมอง กำลังค้นหาบทกลอนอยู่อย่างไรอย่างนั้น ยังไม่ทันไร จู่ ๆ เขาก็เห็นบางอย่าง จึงเงยหน้าขึ้นพร้อมตะโกนเสียงดัง “แหงนหน้าเผชิญฟ้าหัวเราะร่าเสียงดัง ข้าจักเอนกายนั่งกลางฝูงชนได้อย่างไร!”

นี่คือบทกวีที่เซียวเฉวียนท่อง!

เซียวเฉวียนสะดุ้ง!

ผู้เฒ่าท่านนี้ ก็เป็นผู้ที่มาจากฮว๋าเซี่ยงั้นหรือ?

มิเช่นนั้น เขาจะรู้จักบทกวีของเหวินเทียนเสียงและหลี่ไป๋ได้อย่างไร?

“มังกรไฟกุมสวรรค์! เกิดพร้อมกัน ตายพร้อมกัน! ไป!”

ท่านผู้เฒ่าที่เต็มไปด้วยพละกำลัง โบกมือขึ้นสู่ท้องฟ้า มังกรไฟก็แยกออกเป็นสองส่วน! เคลื่อนไหวอยู่ในจวนว่าการชั้นในอย่างดุร้ายน่าเกรงขาม!

เดิมทีจะเผาสิ่งที่ติดไฟได้ง่ายและผู้คน แต่ตอนนี้กระเบื้องหลังคาและกระเบื้องปูพื้นต่างก็ลุกไหม้ไปหมดแล้ว!

แม้แต่เซียวเฉวียนที่เดิมทีรู้สึกเย็นสดชื่น ก็เริ่มรู้สึกร้อนนิดหน่อย!

“เผาเลย!”

“เผาเลย!”

“เผาให้เต็มที่เลย!”

“ศิษย์น้อง!”

“เจ้าเห็นแล้วหรือไม่!”

“เจ้าเห็นไฟนี้แล้วหรือไม่!”

“ให้มันนำทางเจ้าไป!”

“เจ้าไปยังชีวิตหลังความตายเสียเถอะ!”

“ขอให้เจ้าไปดีมาดีนะ!”

“ข้าไม่ไปส่งเจ้าแล้วล่ะ!”

หากว่าเหวินคุนมีตา เช่นนั้นตอนนี้ดวงตาคู่นั้นของเขา จะต้องมีแสงสว่างที่คมชัดเด่นเป็นสง่าอยู่แน่!

ไฟดวงนั้น จะต้องดีกว่าเปลวไฟธรรมดาลูกนี้มากแน่นอน!

“ศิษย์น้อง! อย่ากังวลที่จะยกลูกศิษย์ของเจ้าให้ข้า!”

“ข้าจะดูแลเขาให้ดี!”

“ไม่ล่ะ ให้เขาไปตามทางเก่าของเราอีกครั้งแล้ว!”

เหวินคุนพูดพึมพำกับท้องฟ้า ภายใต้ความเกรี้ยวกราด ก็แฝงด้วยความเจ็บปวดเซียวเฉวียนชะงัก ทางเก่าที่เหวินคุนกล่าวถึงคืออะไร?

ตอนนี้ ในหัวของเซียวเฉวียนเต็มไปด้วยความสงสัยที่มีต่ออาจารย์ลุง!

เซียวเฉวียนอยากที่จะถาม เหวินคุนได้ยินบทกวีเหล่านี้มาจากที่ใด หรือว่ารู้อยู่แล้ว?

“ท่าน…”

เซียวเฉวียนกำลังเปิดปากพูด ไม่คาดคิดว่าเหวินคุนจะดีดนิ้ว!

พายุลูกใหญ่หมุนวนจากใต้ตัวของเขา และพุ่งตรงออกไป วนเวียนอยู่ที่จวนว่าการชั้นใน กวาดล้างคนที่ยังมีชีวิตอยู่ขึ้นมา!

ราวกับว่าลมมีมืออยู่ด้วย ขุนนางโจวล้มลงที่ขั้นบันไดหน้าห้องขัง!

เปลวไฟที่ลุกโชนอยู่นั้น ทำราวกับสามารถรับรู้ได้ มันทำสถานที่ทรงกลมออกมาทันที เพื่อที่ขุนนางโจวจะไม่กลายเป็นหมูย่างไปเสียก่อน

ก้นของขุนนางโจวแทบแยกออกเป็นสองส่วน ร้องครางเสียงดัง “โอ้ย” แต่ก็รีบหุบปากลงในทันที!

“เจ้าเป็นนายใหญ่ของที่นี่งั้นรึ?”

เหวินคุนพูดออกมาหนึ่งคำ ขุนนางโจวก็สั่นหงึก ๆ หนึ่งที เขาพยักหน้า และก็รีบส่ายหัว จากนั้นก็รีบพยักหน้าด้วยความหวาดกลัวอย่างที่สุด “ข้า ข้า ข้าเป็นผู้น้อย!”

เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว ภูมิหลังอาจารย์ลุงท่านนี้ใหญ่โตงั้นรึ? ผู้น้อยรึ?

อย่างไรซะ ขุนนางโจวก็เป็นถึงขุนนางใหญ่!

เรียกตัวเองว่าผู้น้อยงั้นรึ?

“ท่าน ท่านมีคำสั่งใดขอรับ?” ขุนนางโจวคุกเข่าลงที่พื้น ไม่กล้าแม้แต่จะยกเปลือกตาขึ้น

“เจ้าดูไฟนี่สิ สวยใช่ไหม?”

เหวินคุนถามคำถามแบบนี้ขึ้นฉับพลัน ใบหน้าอวบอ้วนของขุนนางโจว เต็มไปด้วยความสงสัย “ห๋า?”

“อ้อ! สวยขอรับ! สวยขอรับ!”

ขุนนางโจวพยักหน้า ต่อให้เป็นหัวหมูที่เหวินคุนบอกว่ามันหน้าตาสะสวย ขุนนางโจวก็ไม่อาจหาญกล้าพูดคำว่าไม่!

“ข้าอยู่ในคุกของเจ้ามานานเช่นนี้...” ตอนที่เหวินคุนพูดคำนี้ ขุนนางโจวคิดว่าเขากำลังซักไซ้เอาความ “ข้าน้อยมิบังอาจคุมขังท่านแน่นอน! มิบังอาจอย่างเด็ดขาด! ข้าน้อยไม่อาจมีใจที่ไม่เคารพ!”

ขุนนางโจวเกือบร้องไห้เสียอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าท่านอยากอยู่ในคุกเองหรอกหรือ?

เหวินคุนเม้มปากที่แห้งผากเล็กน้อย เด็กหนุ่มสมัยนี้ยังคงเกรงกลัวเขามากเช่นนี้เลยหรือ?

ขุนนางโจวที่อายุราวสี่สิบปี ถือว่ายังเป็นคนหนุ่มในสายตาของเหวินคุนที่อายุเกือบร้อยปีแล้ว

และเซียวเฉวียน ก็ยังเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง

เหวินคุนก่นเสียงดูถูก เจ้าพวกนี้ยังคงเป็นพวกขี้ขลาดตาขาว เขาพูดประโยคเดียว คนกลุ่มนี้ก็รีบพากันแก้ต่างให้วุ่น จะให้เหวินคุนพูดให้จบประโยคก่อนก็ไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย