เว่ยชิงหายไปที่โรงเหล้า อาสือที่ยุ่งวุ่นมาทั้งวันแล้วก็ไม่ได้คิดที่จะกลับจวนเซียวด้วยเช่นเดียวกัน
เซียวเฉวียนอาศัยอยู่ในโรงเหล้า ก่อนหน้านี้มีไป๋ฉี่คอยติดตามอยู่
ตอนนี้มีโย่วควนเพิ่มขึ้นมาอีกคนแล้ว
จวนเซียวนั้นให้โย่วควนกลับเข้าไปพักอาศัย เพียงแต่เซียวเฉวียนขัดขวางไม่ยอมให้ไป นั่นเพราะไม่อาจทุกข์ทรมานอยู่คนเดียวได้ เป็นพี่น้องกันจะต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว โย่วควนจึงทำได้เพียงแค่นอนที่โรงเหล้าเป็นเพื่อนเซียวเฉวียนเท่านั้น
หลังลูกค้ากับลูกน้องแยกย้ายกันไปแล้ว ทั้งสามคนจึงนำสุราและเนื้ออบหอมกรุ่นออกมารับประทานเป็นอาหารมื้อดึก
เพราะโย่วควนเล่นงิ้วจึงทะนุถนอมลำคอเป็นอย่างมาก เหล้าเนื้อไม่แตะ
เซียวเฉวียนส่ายศีรษะ ริมฝีปากเต็มไปด้วยน้ำมัน "ไม่กินเนื้อแล้วชีวิตเจ้ามันจะไปมีความหมายอะไร? มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องกินเนื้อ เข้าใจไหม? เจ้านี่มันทึ่มจริง!"
โย่วควนไร้คำจะสนทนาด้วย ทุกคนล้วนกล่าวว่าเซียวเฉวียนเป็นจอหงวน [1] ของราชสำนัก มีจิตคิดเพื่อการใหญ่ ตอนนี้คนที่กำลังกล่าวคำพูดเหล่านี้ออกมาน่ะหรือที่มีจิตคิดการใหญ่?
โย่วควนเป็นนักแสดงงิ้วผู้หนึ่ง ทุกคนต่างก็ล้วนดูแคลน แม้จะเติบโตมารูปหล่อเพียงใด ทว่ากลับไม่ได้เป็นคนที่ชอบพูดมากนัก สีหน้าอึมครึมตลอดทั้งวัน
เซียวเฉวียนถือว่าเขาเป็นเพื่อน ในเมื่อโย่วควนสามารถทำเงินได้ เป็นต้นไม้เงินต้นหนึ่งที่หล่อเหลาเอาการขนาดนี้ พวกเขาย่อมต้องเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่แล้ว
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เซียวเฉวียนจึงเย้ยหยันเขาอยู่ทุกวัน กล่าวว่าสีหน้าโย่วควนแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว เซียวเฉวียนจึงจะรู้สึกว่าชีวิตเขามีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อย
โย่วควนกลับไม่กล้าทำสิ่งใด ในเมื่อเซียวเฉวียนเป็นคนซื้อคณะงิ้วมา เป็นนายท่านของคณะงิ้ว
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว บุรุษหล่อเหลารูปงามผู้นี้จึงถูกสตรีทั่วทั้งเมืองหลวงหมายตา ทว่ากลับไม่ได้มีอารมณ์ใด ๆ ต่อหน้าเซียวเฉวียนเลยแม้แต่น้อย
แม้เขาจะเป็นคนไม่หือไม่อือ ทั้งก็ไม่ได้พุ่งชนเซียวเฉวียนก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หวาดกลัวเซียวเฉวียนด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงยอมให้ปากของเซียวเฉวียนเยาะเย้ยเขา เขาเองก็ทำได้เพียงแค่ฟังอย่างเงียบเฉียบเท่านั้น
"เกร็ก ๆ"
ประตูโรงเหล้าที่ปิดสนิทกลับส่งเสียงดังขึ้นมา มีคนกำลังทำอะไรกับกลอนประตูอยู่
ไป๋ฉี่ระมัดระวังตัวขึ้นมาทันที เนื้ออบเองก็ไม่ทานแล้วด้วยเช่นเดียวกัน จ้องไปยังทิศทางของประตูอย่างเอาเป็นเอาตาย
โย่วควนสบตามองไปยังประตูอย่างเงียบเฉียบ เป็นเช่นนั้นจริง ๆ มีคนกำลังคิดอยากจะเปิดประตู
หากคนที่เปิดประตูออกผู้นั้นทราบว่าทางด้านหลังของประตูมีดวงตาสามคู่กำลังจ้องเขม็งเขาอย่างเอาเป็นเอาตายแล้วละก็ ไม่รู้เลยว่าควรจะรู้สึกอย่างไร?
เซียวเฉวียนที่กำลังเคี้ยวเนื้ออย่างปีติอยู่นั้นล้วนออกแรงเล็กน้อย หากเว่ยชิงต้องการลงมือเช่นนั้นก็ดียิ่ง เพราะเขาก็กำลังรออยู่เลย
ประตูดังก็อกเกร็กอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเงียบลงไปอีกครั้ง
คงเป็นเพราะกลอนแก้ได้ไม่ง่าย คนผู้นั้นจึงถอดใจไปแล้ว
จอมยุทธ์ในตอนนี้คุณสมบัติและฝีมือแย่ขนาดนี้เลยหรือ?
เซียวเฉวียนบันดาลโทสะเล็กน้อย กระทั่งกลอนประตูก็เปิดไม่ออก เจ้านี่มันอยู่ในยุทธภพได้อย่างไรกัน?
"ไป๋ฉี่ เจ้าไปเปิดให้เขา!"
"ขอรับ"
ไป๋ฉี่สาวเท้าขึ้นไปทางด้านบนอย่างรวดเร็ว มุ่งตรงไปเปิดประตูแล้ว เสียง "ปัง" ดังขึ้นหนึ่งเสียง มีซอมบี้คนหนึ่งยืนงง ๆ อยู่ที่หน้าประตู
เหตุใดประตูบานนี้จู่ ๆ จึงเปิดเสียแล้วเล่า?
เขาเงยศีรษะขึ้นสบตากับไป๋ฉี่อย่างเงียบเฉียบหนึ่งหน
คนผู้นี้รูปร่างสูงเจ็ดฟุต ดวงตาทางด้านซ้ายมีไฝดำหนึ่งเม็ด ลำคอมีรอยแผลเป็นสองทาง
เป็นเขา!
คืนส่งท้ายปีเก่า เป็นเขา จอมยุทธ์ที่สังหารสามีภรรยาคู่นั้น!
ในมือเขาถือถุงอะไรสักอย่างเอาไว้อยู่ ยามที่ดวงตาของเขาสบตามองกับไป๋ฉี่นั้น ทั้งก็มองผ่านไป๋ฉี่ไปด้วยเช่นเดียวกัน ก่อนจะพบว่าเซียวเฉวียนกับโย่วควนเองก็อยู่ด้วย
กลิ่นเนื้อหอมกรุ่นกลุ่มหนึ่งลอยมาอย่างเงียบงัน
เที่ยวคืนแล้ว เจ้าสามคนนี้ยังไม่นอน ทั้งก็ไม่ได้จุดไฟด้วยเช่นเดียวกัน แต่มากินเนื้อกันที่กลางโรงเหล้า?
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าจอมยุทธ์ผู้นั้นไม่ได้คาดการณ์เอาไว้มาก่อน เป็นครั้งแรกที่คุณสมบัติพ่ายแพ้ไป เขาพ่ายให้กับเนื้อไม่กี่คำ
เขาตั้งท่าจะวิ่งหนี หันหลังกลับไป คนของเหมิงเอ้าสิบเอ็ดคนอยู่ทางด้านหลังของเขา ทั้งก็กำลังมองเขาอย่างเงียบเฉียบด้วยเช่นเดียวกัน
จอมยุทธ์เข่าอ่อนทันที ไม่ได้บอกว่าคืนนี้มีเพียงเซียวเฉวียนกับไป๋ฉี่อยู่กันสองคนหรอกหรือ?
หน้ามีไป๋ฉี่ หลังมีเหมิงเอ้า คนผู้นี้ช่างยากจะปลีกตัวหลบหนีโดยแท้!
เมื่อเซียวเฉวียนเห็นเขาเข้า ความเจ็บปวดในคืนส่งท้ายปีเก่าก็พรั่งพรูขึ้นมาทันที
สายตาของเซียวเฉวียนหนึ่งหน ไป๋ฉี่เองก็ไม่ได้กล่าวคำใดเช่นเดียวกัน ก่อนจะปะทะกับเขาก่อนหนึ่งยกไปเสียแล้ว!
ชาติกำเนิดจากราชองครักษ์ทาสคุนหลุน หมัดมวยย่อมหนักกว่าคนธรรมดาอยู่แล้ว!
ในเมื่อจอมยุทธ์เหล่านี้ใช้โลหิตคนอาบปลายดาบ ภายในหมัดเหล็กของไป๋ฉี่แล้ว ดูเหมือนว่ากระดูกจะกลายเป็นเครื่องตกแต่งบ้าน เสียงแตกหักดังกรอบแกรบ
หมัดแล้วหมัดเล่า กระดูกล้วนจะแหลกละเอียดอยู่แล้ว!
"นายท่านของเจ้าส่งเจ้ามาหรือ?"
ไป๋ฉี่สู้ไปเซียวเฉวียนก็เอ่ยถามไป
จอมผู้หนึ่งที่ดูแล้วไม่คล้ายคนฉลาดหลักแหลมอะไรคนหนึ่ง กำลังยุ่งวุ่นอยู่กับตั้งรับการโจมตีของไป๋ฉี่ เซียวเฉวียนเอ่ยถามสิ่งใดเขาก็ล้วนไม่ได้ยินทั้งสิ้น
คนเขลาเบาปัญญาผู้หนึ่ง แต่กลับเป็นคนที่ร้ายกาจคนหนึ่ง
ยามที่สังหารสตรีตั้งครรภ์คนนั้น เซียวเฉวียนยังคงจดจำได้ว่าเขาล้วนไม่กะพริบตาเลยแม้แค่ครั้งเดียว
"นายท่านของข้ามีคำสั่งการมาว่าผู้ที่ให้ความช่วยเหลือเซียวเฉวียนก็คือศัตรูของรัฐไป๋ลู่" เซียวเฉวียนยังคงจดจำประโยคนี้เอาไว้ได้ ถูกไป๋ฉี่ชกจนคุกเข่าลงไปกับพื้น เซียวเฉวียนเหยียบเท้าข้างหนึ่งเอาไว้บนศีรษะของเขา "ประโยคนี้เจ้าเป็นคนพูดใช่หรือไม่?"
"อึก! ใช่!" จอมยุทธ์กัดฟันแน่นด้วยความเจ็บปวด
"นายท่านของเจ้าช่างมีอำนาจบาตรใหญ่เสียจริง กลับเอาทั้งรัฐไป๋ลู่มาเป็นแต้มต่อเพื่อกดดันข้า!" เซียวเฉวียนออกแรงที่เท้าเบา ๆ "เจ้าชื่อว่าอะไร?"
"ไม่ใช่กงการอะไรของเจ้า!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...