ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 273

สรุปบท บทที่ 273 ครองทั้งแผ่นฟ้า: ซูเปอร์ลูกเขย

อ่านสรุป บทที่ 273 ครองทั้งแผ่นฟ้า จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บทที่ บทที่ 273 ครองทั้งแผ่นฟ้า คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ในสายตาของเซียวเฉวียน ประกายไฟและแสงวาบในตาค่อยๆ ผุดขึ้นมาทีละสาย ความขุ่นเคือง ตะลึงลาน โศกเศร้า พลันทะลักรุนแรงออกมาในครั้งเดียว!

“เพราะอะไรต้องฆ่าเขาด้วย?” เซียวเฉวียนกัดริมฝีปากจนเลือดออก กลิ่นคาวเต็มไปหมด

บิดาของคู่สามีภรรยาตระกูลสวี่ชราปานนั้นแล้ว และเขาก็เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาที่หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินก็เท่านั้น บริสุทธิ์และไม่มีพิษภัย

เพราะเหตุใดต้องสังหารเขาไปด้วย?

“เพราะเจ้าทำให้เว่ยชิงอับอาย แถมยังเป็นต่อหน้าองค์หญิง”

“ถ้าอย่างนั้นเว่ยชิงก็มาจัดการข้าสิ!” เซียวเฉวียนตะโกนด้วยความโมโห รังแกชาวบ้านธรรมดาผู้หนึ่งมันนับว่ามีความสามารถอันใด?

แถมเรื่องนี้มันไปเกี่ยวกับท่านผู้เฒ่าสวี่ที่ใดกัน?

“เซียวเฉวียน! ท่านยังไม่เข้าใจอีกหรือ?” หลี่มู่ตวาดเดือดดาล “นี่เขากำลังเล่นงานท่าน!”

“ฆ่าท่านได้! เขาไม่ได้สนุกอะไร!”

“หากว่าท่านต่อกรกับเขาต่อไป! เขาย่อมจะไม่ลงมือกับท่าน!”

“คนข้างกายของท่าน มารดาของท่าน น้องสาวของท่าน! ล้วนไม่อาจรอดจากมือของเว่ยชิงไปได้!”

“เขากล้าหรือ?” เซียวเฉวียนกัดฟัน

“เขากล้าสิ!” หลี่มู่คว้าชายเสื้อของเซียวเฉวียน “เขากล้าอยู่แล้ว! ตราประทับของเขาเพียงพอที่จะสังหารเจ้า! ยิ่งไปกว่านั้นคนของครอบครัวเขาด้วย!”

หลี่มู่จับจ้องเขา “ฝ่าบาทใช้ท่าน เชื่อใจท่านและปกป้องท่าน! แต่ก็ปกป้องท่านได้ชั่วคราวไม่อาจปกป้องไปได้ทั้งชาติ! อาจจะปกป้องท่านได้แต่ปกป้องคนในครอบครัวของท่านไม่ได้หรอกนะ! สหาย!”

“ขอเพียงเว่ยชิงไม่ยินดี ใครหน้าไหนที่ช่วยเหลือท่าน ชมชอบท่าน เขาล้วนสังหารได้! ก็เหมือนตระกูลสวี่นั่นแหละ!”

เซียวเฉวียนนัยน์ตาแดง เต็มไปด้วยเส้นเลือดแห่งความเดือดดาล

น้ำเสียงของหลี่มู่ทุ้มต่ำด้วยความจนใจเป็นที่สุด “ข้าเดือดดาลกว่าท่าน! แต่ข้าก็ไม่มีหนทาง!”

ด้วยสถานะของเซียวเฉวียนและหลี่มู่ ช่องห่างระหว่างพวกเขากับเหล่าผู้สูงศักดิ์ทรงอำนาจนั้นยิ่งใหญ่ปานฟ้า

ช่องว่างนี้ ไม่ใช่ว่าสถานที่ซึ่งจอหงวนรายหนึ่ง! ไม่ใช่แค่สถานที่ซึ่งขุนนางชั้นห้ารายหนึ่ง! หรือว่าสถานะของลูกเขยตระกูลฉินรายหนึ่งจะเติมเต็มเข้าไปได้!

“เซียวเฉวียน อย่าได้ต่อสู้อะไรกับเว่ยชิงอีกเลย”

หลี่มู่ปล่อยชายเสื้อของเซียวเฉวียน ด้วยความจนใจและไร้เรี่ยวแรงเป็นอย่างยิ่ง

“ฝ่าบาทให้ข้าหยุดยั้งมิให้เขาได้องค์หญิง อีกทั้ง ยังสั่งให้ข้าช่วยพระองค์รวบรัฐไป๋ลู่กลับมา”

เซียวเฉวียนส่ายหน้า สิ่งที่หลี่มู่ขอร้องนั้นเขาทำไม่ได้

การช่วงชิงระหว่างเขาและเว่ยชิงนั้น หนีไปไม่พ้น

เซียวเฉวียนเองก็หลีกไปไม่พ้น

ความโมโหทะยานขึ้นมาจากใต้นัยน์ตาของหลี่มู่ เขาใช้หมัดหนึ่งกระแทกไปบนหน้าของเซียวเฉวียน “เจ้าไร้ปัญญาปานนี้! แล้วเหตุใดตกปากรับคำธุระของฝ่าบาทเช่นนี้เล่า! เจ้ารู้หรือไม่ เรื่องนี้ทั้งยากเข็ญและอันตรายมากเพียงใด!”

อาศัยจากคำพูดและอารมณ์เยาว์วัยของเซียวเฉวียนเพียงแค่นี้ย่อมทำไม่ได้แน่!

เซียวเฉวียนหันไปข้างนอกเพื่อบ้วนโลหิต หมัดของหลี่มู่นี้ไม่เบาเอาเสียเลย!

กองเลือดสีแดงสดบนพื้นนั้นทำให้หลี่มู่เพิ่งรู้สึกตัว เขาหมดแรงขึ้นมา ทว่า เขาได้แต่จับจ้องเซียวเฉวียนอย่างเย็นชา หากว่าหมัดหนึ่งนี้สามารถต่อยเซียวเฉวียนจนตื่นได้ เช่นนั้นก็ดีไม่น้อย!

หลี่มู่ตะคอกกล่าว “ท่านกลับไปรายงานฝ่าบาท เรื่องทำนองนี้ให้สั่งให้ผู้อื่นไปทำ!”

“ท่านไม่ต้องทำแล้ว!”

ในบรรดาขุนนางบุ๋นบู๊นับร้อยของต้าเว่ยนั้น ผู้ที่มีอำนาจและทรัพยากรนั้นมีไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นใครต่างแข็งแกร่งกว่าเซียวเฉวียนผู้ที่ไม่มีทั้งอำนาจและพลังเช่นนี้!

“ถ้าหากว่าเว่ยชิงไม่ได้สังหารตระกูลสวี่ เรื่องนี้บางทีข้าอาจจะพิจารณาไม่เข้าไปยุ่ง”

เซียวเฉวียนเอ่ยปฏิเสธหลี่มู่อย่างเยือกเย็นหนึ่งประโยค

ยิ่งตอนแรกนั้นเขากับเว่ยชิงมีเรื่องบาดหมางกัน สาเหตุก็มาจากแค่คำสัญญาเรื่องสิทธิในการช่วงใช้รัฐไป๋ลู่ครึ่งหนึ่งก็เท่านั้น

แต่ว่า หลังจากที่สองสามีภรรยาตระกูลสวี่ช่วยเหลือเขา

ความขัดแย้งของเขากับเว่ยชิง ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมีหรือไม่มีก็ได้แล้ว

ในวันนี้ตระกูลสวี่ต้องสิ้นตระกูล เขาไม่อาจปล่อยเว่ยชิงไปได้!

“เยี่ยม! ท่านไม่ฟังข้าแล้ว ถ้าเช่นนั้นท่านก็นั่งสำนึกผิดอยู่ในห้องนี้ไปเถอะ เขียนอักษรไปสักสองหมื่นคำจนพอแล้วท่านค่อยออกมา!”

“หากเขียนไม่เสร็จ” หลี่มู่เอ่ยเสียงหนักทุ่ม “ท่านก็อย่าได้คิดจะออกมาเลย!”

กล่าวจบแล้ว หลี่มู่ก็กระแทกประตูปิดเสียงดังพลั่ก!

“หลี่มู่! เจ้าปล่อยข้าออกไป!”

เซียวเฉวียนกระโจนพุ่งเข้าไป ทว่าประตูนั้นปิดลงไปแล้ว

“หลี่มู่!” เซียวเฉวียนตะคอกเดือดดาล เขาทุบเรียกคนแต่ไม่มีใครตอบรับ

หลังจากที่หลี่มู่ออกไปแล้ว เขาก็มายังโถงในเรือน เหวินคุนกำลังยืนเอามือไพล่หลังรอเขาอยู่

“พู่กัน ให้เขาแล้วหรือยัง?”

ขั้นตอนการตั้งชื่อให้อาวุธนั้น เรียกว่าการประทานนาม

ซึ่งเป็นเรื่องที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างมากเรื่องหนึ่ง

ยิ่งเป็นบัณฑิตชั้นสูงอย่างปีศาจกวีผู้นี้แล้ว การประทานนามให้อาวุธนั้น เหล่าผู้ต่ำต้อยกว่าจำเป็นต้องคุกเข่าลงน้อมฟังคำสั่ง

เขาเพียงได้ยินปีศาจกวีร่ายออกมาด้วยเสียงอ่อนโยนแต่ทรงพลังว่า

“ดวงอาทิตย์สาดแสงแดงฉาน

หมื่นพันภูผาดังไฟผลาญ!

แสงเพลิงดังกงล้อสู่สวรรคา

ขับไล่หมู่ดาราแลจันทร์แหว่งวิ่น!”

แสงตะวันแดงฉานกำลังจะส่องหล้า! แผดเผาร้อนเร่า! แสงแห่งความรุ่งโรจน์!

ส่วนเซียวเฉวียนก็คือดวงอาทิตย์ที่คุมทั้งฟ้าดินดวงนั้น เพียงได้ยินความพลุ่งพล่านมาเต็มที่!

ปีศาจกวีเอ่ยด้วยท่าทีจริงจัง “เรียกมันว่า หมานหม่านแล้วกัน”* (แปลว่าเต็มเปี่ยม)

“แค่ก”

“...”

หลี่มู่ถึงกับไม่รู้ว่า เขาควรจะเอ่ยคำพูดอะไรที่เหมาะสมดี

ชื่อนี้...มันดูผู้หญิงไปหน่อยหรือไม่ อีกหน่อยพอเซียวเฉวียนชักอาวุธออกมาอย่างดุดัน ทุกครั้งเขาจะต้องตะโกนเสียงดังว่า พู่กันหมานหม่าน!

ยังไม่ทันได้สู้อะไร บารมีก็ลดไปแล้วกว่าแปดส่วน...

หลี่มู่ไม่รู้จะสรรหาคำใดมากล่าว อีกทั้งไม่กล้าพูดอะไรด้วย ทว่าเหวินคุนกลับหัวเราะเสียงดัง “เจ้ายังไม่รู้จักล้อเล่นเหมือนเดิม!”

เหวินคุนมองไปยังห้องมืดที่เซียวเฉวียนอยู่ เขาเอ่ยเสียงดัง ““ดวงอาทิตย์สาดแสงแดงฉาน หมื่นพันภูผาดังไฟผลาญ! เพื่อศิษย์รักของข้าแล้วขอประทานนามอาวุธว่า พู่กันจินหลุนเฉียนคุน (กรงล้อทองคำค้ำฟ้า)!”

เรือนร่างกำยำของหลี่มู่สะเทือน กรงล้อทองคำ คือชื่อเรียกอีกอย่างของดวงอาทิตย์ หมายถึงเซียวเฉวียนชัดเจน

ดวงอาทิตย์สีแดงฉานที่ขับไล่ดวงจันทร์แหว่งวิ่นและดาราอันเยือกเย็น ครองทั้งแผ่นฟ้า!

เห็นได้ชัดว่าปีศาจกวีคาดหวังกับเซียวเฉวียนไว้สูงเพียงใด!

หลี่มู่ที่คุกเข่าอยู่บนพื้นนั้น ก้มศีรษะต่ำลงคารวะ “กองราชองครักษ์มีวาสนาได้น้อมฟัง หลี่มู่ขอน้อมรับพู่กันจินหลุนเฉียนคุมแทนคนทั้งกองด้วยขอรับ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย