ไม่มีอี้กุยแล้ว เซียวเฉวียนจะเหลือสิ่งใด?
เซียวเฉวียนก็แค่อาศัยที่ตนเองเป็นศิษย์ของปีศาจกวีเท่านั้น ฉินซูโหรวเองได้ยินข่าวลือมาว่าตอนนี้ปีศาจกวีรับเว่ยชิงเป็นศิษย์
ปีศาจกวีรับเว่ยชิงที่มีทั้งตำแหน่ง ฐานะและเงินทองเป็นศิษย์ นี่หมายความว่าอะไร?
ก็หมายความว่าปีศาจกวีทอดทิ้งเซียวเฉวียนแล้ว!
ฉินซูโหรวแค่นเสียงเย็น เคราะห์ดีที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ฟังคำพูดของอาเซียง ช่วยสืบข่าวของเว่ยชิงจากเซียวเฉวียน
สิบปีแม่น้ำตะวันออกไหลสู่ตะวันตก เดิมทีคิดว่าเซียวเฉวียนผูกสัมพันธ์กับปีศาจกวีได้ นับว่าเก่งกาจไม่เลว
ตอนนี้เซียวเฉวียนถูกปีศาจกวีเว่ยชิงคนน่าตายผู้นี้เอาชนะไปได้แล้ว!
ฉินซูโหรวยังจะต้องกลัวเซียวเฉวียนเสียเมื่อไหร่?
ที่พึ่งพิงหนึ่งเดียวอย่างปีศาจกวีก็ไม่มีแล้ว ดูซิว่าเซียวเฉวียนยังจะโอหังได้หรือไม่!
รอจนกระทั่งฉินซูโหรวกับอี้กุยสานสัมพันธ์กันดีแล้ว นางค่อยให้อี้กุยเลิกติดต่อกับเซียวเฉวียนอีก ถึงเวลานั้นเซียวเฉวียนโดดเดี่ยวไร้คนช่วยเหลือ แล้วเขายังจะไม่เชื่อฟังคำสั่งของจวนฉินกับฉินซูโหรวอย่างว่าง่ายได้หรือไร?
ถึงเวลานั้นคลอดเด็กสักคนหนึ่ง เซียวเฉวียนเองก็ไม่มีปัญญาพาตัวเด็กไป และยิ่งไม่มีปัญญาให้เด็กใช้แซ่เซียวด้วย!
ลูกเขยก็เป็นแค่ลูกเขยวันยังค่ำ แต่งเข้าอีกด้วย ไม่อาจพลิกชะตาใดได้!
ฉินซูโหรวแย้มยิ้มสาแก่ใจ
เซียวเฉวียนกำลังถูกลงโทษ ทว่าภรรยากลับไม่ได้ทำให้เขาสบายใจเลยสักนิด ยังคงเฝ้าคิดว่าจะยุแยงเขาและเพื่อนอย่างไร แถมสิ้นเปลืองพลังงานคิดอยากให้สามียอมแพ้ด้วย
ปีศาจกวีรับเว่ยชิงเป็นศิษย์ คนจำนวนมากได้แต่ถอนใจแทนเซียวเฉวียนที่สูญเสียความโปรดปราน แถมยังพูดว่าปีศาจกวีมีสายตาดีนัก ศิษย์อย่างเซียวเฉวียนพอพูดว่าจะไม่เอาก็ทิ้งเลย แถมยังหาที่ดีกว่าได้ด้วย
กระทั่งคนนอกต่างรู้สึกเวทนาใจแทนเซียวเฉวียน ทว่าฉินซูโหรวกลับดีใจ “ไป พวกเราไปฉลองที่เซียวเฉวียนเสียความโปรดปรานกัน!”
พูดแล้ว ฉินซูโหรวก็พาอาเซียงไปเดินถนนอย่างคึกคักเบิกบานใจ
ห่างไปไม่ไกล มีสตรีงามรายหนึ่งกำลังมองมาจากที่ไกลๆ
“องค์หญิง ท่านดูนางสิ ไม่ได้ใส่ใจใต้เท้าเซียวเลยสักนิด”
“อื้ม”
นางกำนัลดูถูกเป็นอย่างยิ่ง สตรีที่มีสามีแล้วคบค้าอยู่กับชายอื่นในห้องเดียวกันตั้งนานนม ต่อให้เป็นในซินเจียงที่วัฒนธรรมเปิดกว้าง ก็ไม่อนุญาตให้สตรีทำได้ปานนี้
“องค์หญิง ที่พวกเรามาวันนี้ก็เพียงแค่อยากบอกนางว่าใต้เท้าเซียวกำลังถูกลงโทษ ให้นางไปช่วยขอร้องแทนใต้เท้าเซียวสักหน่อย ทรงดูนางสิเพคะ ดูใจเสียอย่างไรดี แล้วจะไปช่วยขอร้องแทนใต้เท้าเซียวได้อย่างไร?”
นางรู้ว่าหลี่มู่กำลังกักบริเวณเซียวเฉวียน ส่วนศิษย์ใหม่อย่างเว่ยชิงก็มีทั้งอำนาจและอิทธิพล ทั้งปีศาจกวียังชมชอบเขา และแน่นอนเว่ยชิงต้องฉวยโอกาสรังแกเซียวเฉวียนแน่
นางคิดอยากช่วยเซียวเฉวียนแต่ไม่มีฐานะและจุดยืนใด นางจึงได้แต่มาหาฉินซูโหรวด้วยจิตใจร้อนรนดังไฟผลาญ ผลสุดท้าย ดูเอาซิ ฉินซูโหรวออกมาจากห้องชาของอี้กุย แล้วยังเบิกบานใจเป็นพิเศษอีก
“องค์หญิง พวกเราไม่รีบร้อนเพคะ บางทีใต้เท้าเซียวอาจไม่เป็นอะไรก็ได้ ต่อให้เขาไม่เป็นที่โปรดปรานแล้ว เขาก็ยังเป็นศิษย์ของปีศาจกวี”
“อื้ม...”
“เรื่องใดที่เกี่ยวกับใต้เท้าเซียว องค์หญิงไม่สู้เป็นห่วงกังวลพระองค์เองดีกว่าเพคะ” นางกำนัลเอ่ยอย่างกังวล “งานประลองเลือกคู่ของพระองค์จะเริ่มขึ้นแล้ว นอกจากใต้เท้าเซียวแล้ว องค์หญิงไม่ได้มีคุณชายสูงศักดิ์ใดที่ทรงชมชอบแล้วหรือ?”
“ข้าคิดไว้ดีแล้ว”
องค์หญิงต้าถงกำหมัดเล็กๆ แน่น ใช่แล้ว การจะช่วยเซียวเฉวียนนางต้องมีจุดยืนดีๆ เสียก่อน
อีกหน่อย นางก็จะมีสถานะและจุดยืนนั้น
นางกำนัลเห็นนางตัดสินใจมุ่งมั่นจะกระโดดลงหลุมเพลิงก็ร้อนรนใจหนัก “องค์หญิง ท่านไม่อาจจะแต่งให้กับเซียวเฉวียนเพราะกลอนเพียงสองประโยคได้นะเพคะ เขา...เขามีภรรยาแล้ว ท่านเป็นองค์หญิงแคว้นซินเจียง ไม่อาจจะเป็นอนุได้นะเพคะ”
“ข้ารู้ ฝ่าบาทเองก็ไม่อนุญาตให้ข้าแต่งกับเขา” องค์หญิงหน้าถอดสีเงียบๆ “ข้าพูดแล้วว่าเป็นผู้อื่น”
“ใครกัน?” นางกำนัลดวงตาสว่างวาบ นับว่าองค์หญิงคิดตกแล้ว
องค์หญิงกระซิบเสียงเบาข้างหูนางกำนัล นางกำนัลตะลึงไป
ฉินเฟิงเหรอ?
“องค์หญิง ความคิดท่านแย่อะไรปานนี้! ท่านบ้าไปแล้วหรือ?เพื่อจะเข้าใกล้เซียวเฉวียน ท่าน..” นางกำนัลมองนางอย่างตะลึง ไม่คาดว่าองค์หญิงจะตัดสินพระทัยเช่นนี้
ในตอนที่สองนายบ่าวกำลังกระซิบกันนั้น องค์หญิงก็พลันหันศีรษะ “ใครกัน?”
“กระหม่อมน้อมพบองค์หญิง”
ฉินหนานเอ่ยตะกุกตะกัก พระเจ้า! นี่เขาได้ยินอะไรอยู่?
องค์หญิงต้องการแต่งกับพี่ชายใหญ่?
เดิมทีก็เป็นเรื่องน่ายินดี แต่ว่าองค์หญิงถึงกับแต่งกับพี่ชายใหญ่เพื่อเซียวเฉวียนเนี่ยนะ?
“เจ้าได้ยินเรื่องอะไรไป?” ภายใต้ผ้าคลุมหน้า ริมฝีปากขององค์หญิงบิดเล็กน้อย
“ไม่! ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นพ่ะย่ะค่ะ!” ฉินหนานเป็นคนขี้ขลาดรายหนึ่ง เขาประสานมือ “กระหม่อมเพียงแค่ เพียงแค่เดินผ่านมา ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น!”
“อ้อ ไปเถอะ”
นอกจากที่ใส่ใจเซียวเฉวียนแล้ว องค์หญิงจะปฏิบัติกับใครก็ชืดชา เย็นชาไปหมด
นางก็แค่เคยเดินเฉียดไหล่ของฉินหนานเท่านั้น เมื่อเห็นฉินหนานแล้ว นัยน์ตาอันงดงามของนางก็เต็มไปด้วยประกายเตือน
วันนี้ไม่ว่าฉินหนานจะได้ยินอะไรไป จำเป็นต้องรักษาความลับไว้ ฉินหนานจะไม่เข้าใจได้อย่างไร? องค์หญิงถลึงตาใส่เขา เขาก็ได้แค่เสแสร้งทำเป็นไม่ทราบอะไรทั้งนั้น พลางพยักหน้าติดๆ กัน “น้อมส่งองค์หญิง”
องค์หญิงแค่นเสียงเย็นเสียงหนึ่ง คนตระกูลฉินไร้น้ำใจเย็นชา แม้ว่าจะเป็นขุนพลระดับสูง ผ่านการเคี่ยวกรำในสนามรบต่างๆ นานา มา แต่ความประพฤติในวันปรกตินั้นทำเรื่องใดๆ ช่างชั่วร้ายแสบสันต์ พาให้คนไม่กล้าชื่นชม
ฉินหนานใช้สายตามองส่งองค์หญิง จบกันแล้ว
องค์หญิงต้องการแต่งเข้าตระกูลฉิน
แล้วพี่ชายใหญ่จะทำเช่นไร?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...